5 เทคนิคบอกลาหน้ามันเยิ้ม จนทำให้หมดสวย!!!

     หน้ามัน!!! แน่นอนว่าคงไม่มีสาวๆ คนไหน อยากให้เกิดกับตัวเอง เพราะปัญหาดังกล่าวย่อมทำให้เกิดสิวและรูขุมขนกว้าง แต่เมื่อมีปัญหาหน้ามันแล้ว ก็ต้องมาหาวิธีแก้ไขกันโดยด่วน ซึ่งเราก็มี 5 เทคนิคบอกลาหน้ามันมาฝากกัน รับรองว่าทำตามแล้วได้ผลชัวร์

1.ใช้โฟมล้างหน้าชนิดเจล

     การล้างหน้าเป็นกระบวนการสำคัญสำหรับสาวผิวมัน เพราะนอกจากจะช่วยชะล้างความมันส่วนเกินออกไปแล้ว ยังช่วยชะล้างสิ่งสกปรกที่ตกค้างอยู่บนใบหน้าได้อีกด้วย ดังนั้นสาวผิวมันควรล้างหน้าทุกครั้ง หลังตื่นนอนและก่อนเข้านอน โดยเลือกโฟมล้างหน้าชนิดเจล เพราะมีความอ่อนโยนต่อผิว และสามารถแก้ปัญหาหน้ามันได้ดีกว่าโฟมล้างหน้าชนิดครีมนั่นเอง

2.เช็ดด้วยโทนเนอร์

     หลังล้างหน้าเสร็จควรใช้โทนเนอร์เช็ดซ้ำก่อนเพื่อเป็นการทำความสะอาดผิวหน้าให้สะอาดหมดจดยิ่งขึ้น เนื่องจากอาจยังมีสิ่งสกปรกที่ตกค้างอยู่ในรูขุมขน ซึ่งการใช้โทนเนอร์นอกจากจะทำความสะอาดผิวหน้าได้ดีแล้ว ยังช่วยปรับสภาพผิวและลดความมันระหว่างวันลงได้อีกด้วย แต่ก็ต้องเลือกโทนเนอร์สูตรที่มีความอ่อนโยนต่อผิวเช่นกัน

3.บำรุงผิวอย่างถูกวิธี

     การบำรุงผิวของสาวผิวมันก็ต้องดูแลอย่างพิถีพิถัน โดยเลือกครีมบำรุงผิวที่มีส่วนช่วยลดความมันและควบคุมความมันส่วนเกินแต่ไม่ทำให้ผิวแห้งจนเกินไป ส่วนการทาครีมบำรุงผิวก่อนแต่งหน้า ก็ควรรอให้ครีมซึมลงเข้าสู่ผิวประมาณ 15-20 นาทีก่อน แล้วค่อยตามด้วยเครื่องสำอาง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ในการบำรุงผิวที่ดีที่สุด

4.ทาครีมกันแดดเป็นประจำ

     หลายคนไม่กล้าทาครีมกันแดด เพราะกลัวว่าจะทำให้ผิวหน้ามันมากกว่าเดิม แต่รู้ไหมว่าการไม่ทาครีมกันแดด จะทำให้ผิวถูกทำร้ายจากแสงแดด และกระตุ้นให้มีการผลิตน้ำมันออกมามากกว่าเดิม จนทำให้หน้ามัน ดังนั้นควรทาครีมกันแดดก่อนออกจากบ้านทุกครั้ง โดยอาจเลือกครีมกันแดดที่ช่วยควบคุมความมันด้วย ก็จะได้ผลลัพธ์แบบสองต่อเลยทีเดียว

5.พกกระดาษซับมัน

     ตัวช่วยเด่นที่คนผิวมันขาดไม่ได้เลย ก็คือกระดาษซับหน้ามันนั่นเอง เพราะจะช่วยจัดการกับความมันบนใบหน้าในระหว่างวันแบบเร่งด่วนได้ดีที่สุด แถมไม่ก่อให้เกิดผลเสียหรือการระคายเคืองต่อผิวหน้าอีกด้วย โดยวิธีซับมันที่ถูกต้อง คือใช้กระดาษซับที่หน้าเบาๆ ให้ทั่ว เพื่อให้กระดาษค่อยๆ ดูดซับเอาความมันบนใบหน้าออกไปนั่นเอง

     สาวๆ ที่มีปัญหาผิวหน้ามัน ก็ลองทำตามเคล็ดลับเหล่านี้กันดู รับรองว่าจะช่วยจัดการกับปัญหาหน้ามันได้อย่างหมดจดแน่นอน แถมยังช่วยให้ผิวหน้าสะอาด ลดปัญหาผิวอื่นๆ ได้ดีอีกด้วย ซึ่งจะให้ผลลัพธ์ที่ดีมากแค่ไหน ก็ต้องลองทำตามกันดูค่ะ

ขอบคุณแหล่งที่มา : https://www.sanook.com

7 สกินแคร์ บำรุงผิวหน้า คุ้มค่าแก่การซื้อ ใช้ดีไม่แพ้แบรนด์ไฮเอ็นด์!

สกินแคร์ เวลาเปลี่ยน อะไรๆ ก็เปลี่ยน ไม่ว่าจะเป็นอายุที่มากขึ้น หรือใบหน้าที่เริ่มจะมีริ้วรอยมาให้เห็น ซึ่งแน่นอนว่า การบำรุงใบหน้าก็ต้องมา! และ สกินแคร์ ก็ต้องมี! ซึ่งจะใช้สกินแคร์บำรุงผิวหน้าให้ดีทั้งที ก็ต้องเลือกตัวที่มีคุณสมบัติตรงกับกับผิวเรา งานนี้เราจึงคัด สกินแคร์ ตัวเด็ดที่เค้าว่าดี เทียบเท่าตัวแบรนด์แพงๆ มาให้สาวๆ ได้เลือกซื้อเลือกลองกันถึง 7 ตัว! มีตั้งแต่ตัวถูกยันตัวแพง แต่รับรองว่าตัวแพงที่เราคัดมา ไม่แพงจนหูฉีก แต่คุ้มค่ากับการลงทุนแน่นอน

1. OLAY Regenerist Micro-Sculpting Cream

ปริมาณ 50g ราคา 999 บาท

     ใครที่กังวลเรื่องริ้วรอย บอกเลยว่า ไม่มีตัวนี้ไม่ได้นะจ๊ะ! เพราะครีมบำรุงผิวหน้าจาก Olay ตัวนี้ เค้าจะเน้นช่วยเรื่องยกกระชับผิวโดยเฉพาะเลย แถมยังมีส่วนผสมที่อุดมไปด้วยกรดไฮยาลูรอนิคที่มีคุณสมบัติช่วยดึงดูดน้ำและกักเก็บความชุ่มชื้นให้กับผิว จึงช่วยให้ผิวนุ่มชุ่มชื้น ใสเด้ง และอ่อนกว่าวัย แถมสูตรที่ทาง Olay ปรับปรุงใหม่ล่าสุดยังมีส่วนผสมจากผลคารอป (Carob fruit extract) ที่ช่วยในเรื่องของการผลัดเซลล์ผิว ช่วยให้ใบหน้าขาวกระจ่างใสมากยิ่งขึ้น เรียกว่าช่วยบำรุงผิวหน้าทั้งในเรื่องของการลดริ้วรอย และเพิ่มความขาวใสไปในตัวเลยค่ะ เสียเงินไม่ถึงพันบาท แต่ได้สกินแคร์ถูกและดีแบบนี้ ต้องซื้อ!

2. Za True White EX Essence Lotion

ปริมาณ 150 ml ราคา 420 บาท

     สำหรับสกินแคร์ตัวนี้ ขึ้นชื่อว่า เป็นตัวที่ทั้งถูกและดีเลยล่ะค่ะ เป็นเอสเซนส์ที่โดดเด่นในเรื่อง Whitening หรือช่วยเรื่องความขาวใสนั่นเองค่ะ ตัวเนื้อครีมเบางบาง ซึมไว มีส่วนผสมของ Vitamin C ที่ช่วยเรื่องความขาวได้ดีทีเดียวค่ะ ใครที่อยากได้สกินแคร์ที่ช่วยบำรุงให้หน้าขาวกระจ่างใส ลดความหมอง ในราคาสบายกระเป๋า และไม่เน้นเรื่องอื่นมากนัก จัดตัวนี้ไปลองโลดค่าา

3. Physiogel Soothing Care AI Cream

ปริมาณ 50 ml ราคา 1,150 บาท

     สำหรับ Physiogel Soothing Care AI Cream เป็นสกินแคร์ที่เน้นช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับใบหน้าค่ะ เหมาะกับสาวผิวแพ้ง่ายและมีปัญหาเรื่องสิวแบบสุดๆ เพราะเป็นครีมที่ช่วยลดอาการแพ้ ผื่นคันได้ดีทีเดียว ทั้งยังช่วยลดสิวอุดตัน เติมความชุ่มชื้นให้ผิว ช่วยให้ผิวหน้าแข็งแรงและเกิดสิวได้ยากขึ้น แถมใครเป็นสาวที่ผิวมีปัญหาติดสเตียรอยด์ ใช้ตัวนี้บอกเลยว่า เอาอยู่!

4. TONY MOLY Intense Care Galactomyces First Essence 94.5%

ปริมาณ 125 ml ราคา 2,250 บาท

      สกินแคร์จากเกาหลีตัวนี้ ราคาจะสูงขึ้นมานิดด แต่ดีงามแน่นอนค่ะ ตัวนี้จะเน้นช่วยเรื่องการกระชับ 

รูขุมขัน ผิวเรียบเนียนขึ้น ใครที่แต่งหน้าบ่อยๆ และอยากให้หน้าดูเนียนสวย บอกเลยว่า ต้องสอยตัวนี้มาใช้ค่ะ สำหรับสกินแคร์แบรนด์ TONY MOLY ก็มีส่วนผสมหลักเป็นพิเทล่า หรือสารสกัดจากยีส์มากถึง 94.5% เลยทีเดียวค่ะ ซึ่งสารตัวนี้จะช่วยกระตุ้นเซลล์ผิว ทำให้ผิวดูเต็มและแน่นขึ้น รูขุมขนเล็กลง และเน้นช่วยในเรื่องการชะลอวัยเป็นหลักค่ะ ใครทีอยากหน้าเด็กตลอดกาล อย่าได้พลาด!

5. Biotherm Life Plankton Essence

ปริมาณ 125 ml ราคา 2,300 บาท

     เมื่อพูดถึง Biotherm จุดเด่นของเค้าก็อยู่ที่ สารสกัดแพลงก์ตอน เลยค่ะ ซึ่งสารนี้ช่วยเยียวยาผิวที่มีการอักเสบอย่างหนักได้ดีทีเดียวค่ะ ไม่ว่าจะเป็นอาการอักเสบจากการกดสิว การเลเซอร์ หรือการทำทรีตเมนต์ ใครที่เป็นสิวอักเสบบ่อยๆ บอกเลยว่าเหมาะ! แถมสกินแคร์ตัวนี้ยังช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ลดเลือนริ้วรอยได้อีกด้วยล่ะค่า แต่สำหรับใครที่แพ้น้ำหอม อาจจะต้องเทสดูก่อนนะคะ เพราะตัวนี้ผสมน้ำหอมเล็กน้อยค่ะ

6. Nature Republic The First Essence

ปริมาณ 150 ml ราคา 2,500 บาท

     สำหรับตัวนี้ก็เรียกได้ว่า ความดีงามใกล้เคียงกับ MiSSHA ค่ะ ด้วยส่วนผสมซึ่งประกอบไปด้วยสารสกัดจากยีสต์ และสารสกัดจากพืชนานาชนิดๆ ที่ช่วยบำรุงผิว เติมความชุ้่มชื้นให้ผิวได้ดีเยี่ยม แถมยังไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม แอลกอฮอล์ และพาราเบนอีกด้วย จึงเหมาะกับสาวที่ผิวแพ้ง่ายมากๆ ค่ะ ใครมีโอกาสไปเที่ยวเกาหลี อย่าลืมสอยมาใช้กันนะคะ

7. Sulwhasoo First Care Activating Serum

ปริมาณ 60 ml ราคา 2,800 บาท

     ถ้าพูดถึงแบรนด์สกินแคร์ยอดฮิตจากเกาหลี ที่ราคาสูงขึ้นมาหน่อย แต่ก็ไม่แรงจนเกินจะรับไหว เมื่อเทียบกับคุณภาพซึ่งบำรุงดีไม่แพ้ขวดเป็นหม่นเลย ก็ต้อง Sulwhasoo นี่ล่ะค่ะ ซึ่งความดีงามของสกินแคร์ขวดนี้เค้าไม่ได้มีดีแค่ช่วยลดการอักเสบ ลดการระคายเคืองได้ดีเท่านั้นนะคะ แต่ยังมีสมุนไพรที่เป็นสารแอนตี้ออกซิเดนท์ ช่วยชะลอวัย และช่วยเพิ่มความขาวเนียนกระจ่างใสให้ใบหน้าได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญยังช่วยให้ใบหน้าแข็งแรงขึ้นด้วย! ใครอยากลองใช้เซรั่มตัวนี้ แนะนำให้ใช้เป็นขั้นตอนแรกหลังล้างหน้าเลยค่ะ เพราะตัวนี้จะช่วยให้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวตัวอื่นๆ ที่เราลงต่อไป ได้ผลดีมากยิ่งขึ้น

ขอบคุณแหล่งที่มา :  http://women.trueid.net/detail/X0JNOanPzYk