คาสิโนออนไลน์

คาสิโนออนไลน์
คาสิโนออนไลน์

Wednesday, October 30, 2019

ผิวหน้าสวยด้วยตำลึง

                                   ใบตำลึง




ตำลึงผักริมรั้วมากด้วยคุณค่า ช่วยลดการอักเสบ เพิ่มความชุ่มชื้น ทำให้ผิวหนังสดชื่น ป้องกันผิวจากอนุมิสอิสระ คนโบราณนิยมใช้ตำลึงเป็นสมุนไพรแก้สิวและพอกหน้าเพื่อทำให้ผิวหน้าสดใส

การเตรียมตำลึง

ควรเลือกแต่ใบตำลึงสด ถ้าใช้ตำลึงตัวผู้ โบราณว่าจะได้ผลกว่า
ตำลึงตัวเมีย และต้องล้างให้สะอาด ก่อนที่จะนำมาปั่นเป็นครีม
หรือคั้นเอาน้ำ

วิธีการใช้

1 ใช้ใบตำลึงสดคั้นเอาแต่น้ำ ชุบสำลีแปะบนหัวสิวสักครู่ ประมาณ 
5-10 นาที ล้างออกด้วยน้ำอุ่น ทำบ่อยๆ สิวอักเสบจะหายได้และ
ไม่มีรอยแผลจากหัวสิวด้วย


2 ใช้ใบตำลึงประมาณ 1 กำมือ น้ำสะอาด 2-3 ช้อนโต๊ะ ปั่นเข้าด้วย
กันจนเป็นครีม นำข้าวสาร ถ้าเป็นข้าวกล้องได้ก็ดี 2 ช้อนชาไปแช่น้ำจนนิ่มนำไปบดให้ละเอียด แล้วผสมกับครีมตำลึง 

นำไปพอกหน้าทิ้งไว้จนแห้งจึงล้างออก จะช่วยกำจัดพิษบนใบหน้า แก้สิว ทำให้ผิวหน้าชุ่มชื่น หรือหากไม่สะดวกในการเตรียมข้าวสาร จะใช้ครีมตำลึงอย่างเดียวก็ได้

Tuesday, October 29, 2019

สูตร รักษาฝ้าด้วยหัวไช้เท้า

 

สูตร รักษาฝ้าด้วยหัวไช้เท้า   หัวไช้เท้ามีสารไกลโคไซด์ ที่อุดมไปด้วยกรดแอสคอบิก และวิตามินเอ ซึ่งเคยมีผลวิจัยออกมาแล้วว่าช่วยลดเรื่องฝ้า กระ และจุดด่างดำได้อย่างชัดเจน 


สูตร 1 หัวไช้เท้า+น้ำผึ้ง
วิธีทำ นำหัวไช้เท้ามาบดผสมกับน้ำผึ้งเล็กน้อย แล้วนำมามาส์กหน้าให้ทั่ว หรือแต้มเฉพาะจุดที่เป็นฝ้าไว้ 15-20 นาที
สูตรนี้นอกจากจะช่วยลดฝ้าแล้วยังช่วยเติมความชุ่มชื่นให้กับผิวทำให้ผิวไม่แห้งลอก ไม่แสบแดง


สูตร 2 หัวไช้เท้า+มะนาว
วิธีทำ นำหัวไช้เท้าบดผสมกับน้ำมะนาวเล็กน้อย แต้มที่รอยฝ้าหรือมาส์กหน้าให้ทั่ว 15-20 นาที
สูตรนี้จะช่วยรักษาผ้าและช่วยลดความมันบนใบหน้า ทำให้หน้ากระจ่างใสขึ้นลดจุดด่างดำได้อย่างรวดเร็ว


สูตร 3 หัวไช้เท้า+นมสด
วิธีทำ นำหัวไช้เท้าบดผสมกับนมสด นำมามาส์กหน้าให้ทั่ว 15-20 นาที
สูตรนี้จะทำให้หน้าเนียนนุ่มชุ่มชื่น กระตุ้นการผลิตคอลลาเจนทำให้ผิวยืดหยุ่นและทำให้หน้าขาวใสขึ้นด้วย


สูตร 4 หัวไช้เท้า+ไข่ขาว
วิธีทำ นำหัวไช้เท้าบดผสมกับไข่ขาว นำมามาส์กหน้าให้ทั่ว 15-20 นาที
หัวไชเท้ารักษาฝ้า กระ ให้จางลง และไข่ขาวก็จะช่วยดูดซับสิ่งสกปรก สิวเสี้ยนออกจากใบหน้าได้ด้วย


สูตร 5 หัวไช้เท้า+ว่านหางจระเข้
วิธีทำ หนำหัวไช้เท้ามาบดและผสมกับวุ้นว่านหางจระเข้ พอกทิ้งไว้ 15-20 นาที
สูตรนี้ทำให้หน้าขาวใส ลดรอยฝ้ากระจุดด่างดำได้เป็นอย่างดี

Monday, October 28, 2019

ใส ใส สูตรพอกหน้าด้วยมะเขือเทศ 🍅🍅🍅🍅🍅🍅

สูตรพอกหน้าด้วยมะเขือเทศ


มะเขือเทศเป็นอาหารผิวชั้นดี ที่อุดมไปด้วยวิตามินซี เบต้าแคโรทีน และกรด AHA ที่ช่วยบำรุงผิวให้มี

สุขภาพดี เต่งตึง ไม่แห้งกร้าน ช่วยในการรักษาสิว ฝ้า กระ จุดด่างดำให้ลดลง ช่วยผลัดเซลล์ผิว เป็น

สูตรหน้าใสที่ทำได้ง่ายๆ โดยนำมะเขือเทศ 1 ลูก มาบดหรือปั่นให้ละเอียด นำมานวดใบหน้าให้ทั่ว พอก

หน้าทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที จากนั้นค่อยล้างหน้าด้วยน้ำอุ่นให้สะอาด และล้างน้ำเย็นปิดท้าย เพื่อกระชับ

รูขุมขน

Sunday, October 27, 2019

หน้าใส 10 วิธี

วิธีทําให้หน้าใส 10 วิธี

 1. รับประทานอาหารที่มีคุณค่าและดื่มน้ำสะอาดมาก ๆ อย่างน้อยวันละ 8 แก้ว สำหรับสาว ๆ ทั้งหลายที่เป็นสิวอยู่ ควรหลีกเลี่ยงของมันทุกชนิด แล้วเปลี่ยนมารับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อผิว อย่างผักสดและผลไม้ เช่น ส้ม ฝรั่ง กล้วย กีวี มะนาว มะเขือเทศ เป็นต้น

     2. ทำทรีทเม้นท์ผิวหน้า เพื่อฟื้นฟูและบำรุงไปพร้อม ๆ กัน อ๊ะ ๆ อย่าคิดว่ากำลังแนะนำให้สาว ๆ ไปทำทรีทเม้นท์ราคาแพง ๆ นะคะ เพราะนั่นไม่จำเป็นเลย ทรีทเม้นท์นั้นสามารถทำได้เองง่าย ๆ ที่บ้าน เช่น การพอกหน้าด้วยไข่ขาว หรือดินสอพองผสมมะนาว แค่นี้ก็ถือว่าเป็นทรีทเม้นท์ได้แล้วล่ะค่ะ แต่อย่าลืมล้างหน้าให้สะอาดหลังพอกหน้าทุกครั้งนะคะ

     3. หลังจากล้างหน้าทุกครั้ง ควรทาครีมบำรุงผิว เพื่อทดแทนความชุ่มชื่นที่เสียไปจากการล้างหน้า โดยหลัก ๆ จะมีเดย์ครีมและไนท์ครีม ซึ่งเดย์ครีมจะเป็นครีมบำรุงผิวหน้าสำหรับทาตอนกลางวัน ส่วนใหญ่จะมีสารป้องกันแสงแดดจากรังสียูวีในระหว่างวัน ส่วนไนท์ครีม ใช้สำหรับบำรุงผิวยามค่ำคืน

     4. นวดหน้าด้วยน้ำมัน การนวดหน้าด้วยน้ำมันฟังแล้วเหมือนจะเป็นวิธีที่ทำให้เกิดสิว แต่ความจริงไม่ใช่เลยค่ะ การนวดหน้าด้วยน้ำมันนั้นจะทำให้ผิวหน้าได้ผ่อนคลาย ซึ่งน้ำมันที่ใช้ในการนวดหน้านั้น ได้แก่ น้ำมันลาเวนเดอร์ หรือ เป๊ปเปอร์มินท์

     5. ทำความสะอาดรูขุมขนด้วยไอน้ำ สัปดาห์ละ 2 ครั้ง ซึ่งวิธีการทำนั้นก็ง่ายมาก ๆ เพียงนำน้ำเดือดมาตั้งแล้วยื่นหน้าไปอังให้ไอน้ำทำความสะอาดใบหน้าคุณ ไอน้ำจะช่วยเปิดรูขุมขนให้สิ่งสกปรกที่ตกค้างหลุดออกมาค่ะ

     6. พอกหน้า ช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับการพอกหน้า คือ หลังจากคุณอบไอน้ำใบหน้าแล้ว เพราะเป็นช่วงที่รูขุมขนคุณเปิด ทำให้มาส์กพอกหน้าซึมซับเข้าไปบำรุงผิวภายในได้ง่ายกว่าช่วงเวลาอื่น แต่หลังจากพอกหน้าแล้ว อย่าลืมล้างหน้าให้สะอาดอีกครั้งด้วยนะคะ

     7. อย่าขัดหน้าหรือสครับผิวหน้าบ่อยเกินไป แม้ว่าการขัดหน้าหรือสครับผิวหน้าจะทำให้คุณรู้สึกได้ถึงความสะอาดของผิวก็ตามที แต่การขัดหน้าหรือสครับผิวหน้าบ่อย ๆ นั้นจะไปกระตุ้นให้ผิวผลิตความมันออกมามากขึ้น และทำให้เกิดสิวได้ง่าย ความถี่ของการขัดหน้าหรือสครับผิวหน้าที่เหมาะสมอยู่ที่สัปดาห์ละ 2 ครั้งเท่านั้นนะจ๊ะสาว ๆ

     8. หากคุณเป็นคนชอบแต่งหน้า ควรเช็ดทำความสะอาดเครื่องสำอางออกจากผิวหน้าทุกครั้งก่อนล้างหน้า และไม่ควรเข้านอนโดยที่ยังไม่ได้ล้างหน้า ที่สำคัญ ควรทำความสะอาดแปรงแต่งหน้าเป็นประจำ อาจจะสัปดาห์ละครั้งหรือเดือนละ 2 ครั้งก็ไม่ว่ากัน แต่อย่าใช้งานติดต่อกันนานเป็นปีโดยไม่ซักล้าง เพราะมันสะสมสิ่งสกปรกได้ดีเลยทีเดียว

     9. ยิ้มเพื่อหน้าใส แน่นอนว่าการหมั่นทำอารมณ์ให้ดีอยู่เสมอ มองโลกในแง่ดี จะช่วยลดความเครียดที่เป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดสิวได้ ดังนั้น หันมายิ้มเยอะ ๆ กันนะจ๊ะสาว ๆ เพราะนอกจากจะทำให้สิวขึ้นได้ยากแล้ว อารมณ์ที่ดียังทำให้หน้าไม่แก่ก่อนวัยอีกด้วย

     10. ออกกำลังกายเป็นประจำทุกวัน หรือวันเว้นวัน อย่างน้อยวันละ 30 นาที สามารถช่วยให้คุณมีสุขภาพผิวที่ดี ดูเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวล ผุดผ่องสดใส แถมยังทำให้มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงอีกด้วย ทั้งนี้ อย่าลืมนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ วันละ 8 ชั่วโมงเป็นอย่างต่ำด้วยนะคะ

Saturday, October 26, 2019

5 วิธีการฟื้นบำรุงผิวอย่างเป็นธรรมชาติ


สูตรความงามจากแตงกวา

1.แตงกวาผสมมะนาวและไข่ขาว
สูตรหน้าใสแรกที่เรานำมาฝากกันก็คือ การนำเอาแตงกวาที่ปอกเปลือกและปั่นจนละเอียด ผสมกับมะนาวและไข่ขาว จากนั้นนำมาพอกตัวหรือบริเวณผิวที่ต้องการบำรุงเป็นพิเศษ ทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที แล้วจึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด สูตรนี้จะช่วยให้ผิวมีความกระจ่างใสมากขึ้น และช่วยปรับผิวแห้งกร้านให้กลับมานุ่มขึ้นได้ แนะนำให้ทำเป็นประจำเพื่อผลลัพธ์ที่เห็นได้ชัดเจน



2.แตงกวาผสมน้ำผึ้งแท้และโยเกิร์ต
สูตรนี้ให้สับแตงกวาที่ปอกเปลือกแล้วให้ละเอียด คั้นเอาน้ำแตงกวาออก จากนั้นเอาแต่เนื้อแล้วนำไปผสมเข้ากับน้ำผึ้งแท้และโยเกิร์ต เมื่อผสมจนเป็นเนื้อเดียวกันให้เอามาขัดผิวแต่เพียงเบาๆ หรือหากจะพอกผิวควรพอกทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที แล้วจึงล้างออกให้สะอาด ความพิเศษของสูตรนี้คือช่วยเร่งการผลัดเซลล์ผิวใหม่ ส่งผลทำให้ผิวมีความสว่างมากขึ้น


3.แตงกวาผสมน้ำผึ้งแท้
สูตรนี้ถือว่าเบสิคสุดๆ เพราะแค่นำเอาแตงกวาที่ปอกเปลือกเรียบร้อยแล้ว ปั่นเข้ากับน้ำผึ้งแท้ประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ ให้ได้เนื้อครีมที่เนียนละเอียด เอามาขัดผิวหรือพอกผิวประมาณ 5-10 นาที แล้วจึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด สูตรนี้จะช่วยในเรื่องของการเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับผิว ทำให้ผิวมีความนุ่มน่าสัมผัส



4.แตงกวาผสมกับน้ำมะนาวแท้
เป็นอีกสูตรที่ช่วยในเรื่องการปรับผิวให้ กระจ่างใส เพียงนำเอาแตงกวาปอกเปลือก 2 ลูก และน้ำมะนาวแท้ 1 ผล นำมาปั่นให้ละเอียด จากนั้นเอามาขัดผิวแต่เพียงเบาๆ ไม่แนะนำให้ขัดแรงจนเกินไปเพราะอาจทำให้ผิวเป็นแผลได้ หรือหากจะพอกก็ควรพอกทิ้งไว้ประมาณ 5-10 นาทีเท่านั้น แล้วจึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด วิธีนี้ยังมีความพิเศษตรงที่ช่วยลดความมันที่เกิดกับผิวได้อีกด้วย


5.แตงกวาผสมมะเขือเทศและมะนาว
สูตรนี้ช่วยลดความหมองคล้ำของผิวได้เป็นอย่างดี เพียงนำแตงกวาปอกเปลือก มะเขือเทศ และน้ำมะนาวแท้ ปั่นเข้าด้วยกันให้ได้เนื้อละเอียด เอามาขัดผิวหรือพอกทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที ล้างออกด้วยน้ำสะอาด แค่นี้ก็ช่วยปรับผิวหมองคล้ำให้กลับมาขาวใสอย่างเป็นธรรมชาติได้แล้ว

Friday, October 25, 2019

หน้าเด็กได้ง่ายๆ ด้วย เคล็ดลับในการดูแลผิว

          

     ทั้งนี้เชื่อว่าหลายคนมีการบำรุงผิวกันอยู่แล้ว แต่อาจจะมีการบำรุงที่ผิดขั้นตอนและผิดวิธี ฉะนั้นเพื่อความเข้าใจที่ถูกต้อง วันนี้เรามีขั้นตอนการดูแลผิวหน้ามาฝากกันค่ะ รับรองว่าผิวหน้าจะขาวกระจ่างใสและสุขภาพดีอย่างแน่นอน


1  เช็ดสิ่งสกปรกบนใบหน้า
อยากมีผิวที่สวยใสต้องใส่ใจตั้งแต่ขั้นตอนแรกนะคะ ถึงแม้ว่าเราจะไม่แต่งหน้าแต่ก็เจอมลภาวะต่างๆ ฉะนั้นแล้วเราควรเช็ดสิ่งสกปรกและคราบเครื่องสำอางด้วย Cleanser หรือ Remover ก่อนเป็นอันดับแรก


 2  ทำความสะอาดผิวหน้า
หลังจากเช็ดสิ่งสกปรกออกหมดแล้ว เริ่มเข้าสู่ขั้นตอนการล้างหน้าได้เลยค่ะ แนะนำให้ใช้แบบ Cleansing นะคะ เพราะมีคุณสมบัติในการทำความสะอาดผิวได้อย่างล้ำลึก หมดจด


 3 ปรับสภาพผิวก่อน การบำรุง
ใช้ Toner เช็ดทำความสะอาดผิวหน้าหลังล้างหน้า ขั้นตอนนี้จะเป็นการเตรียมผิวให้พร้อมเพื่อเข้าสู่การบำรุงผิวได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

4 บำรุงผิวด้วย Serum 
เป็นการบำรุง ฟื้นฟูสภาพผิวได้อย่างล้ำลึก เพราะ Serum  มีคุณสมบัติในการซึมซาบเข้าสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว บางเบา ไม่เหนียวเหนอะหนะ ซึ่งสาวๆสามารถเลือกใช้สูตรที่เหมาะสมกับสภาพผิวหน้าได้เลยค่ะ


5 บำรุงผิวด้วยครีมบำรุง
เป็นขั้นตอนสำคัญที่จะบำรุงให้ผิวหน้าของเราแข็งแรง สดใส และกักเก็บความความชุ่มชื้น ได้เป็นอย่างดีค่ะ ฉะนั้นแล้วเราควรเลือกครีมบำรุงที่เหมาะกับสภาพผิวหน้า เช่น สาวผิวแห้งควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีมอยเจอร์ไรเซอร์ เพื่อให้ผิวดูชุ่มชื้น อิ่มน้ำ เป็นต้นค่ะ


 6 ปกป้องผิวด้วยครีมกันแดด
นับว่าเป็นสิ่งที่เราละเลยไม่ได้เด็ดขาดค่ะ การทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวัน แม้ว่าสาวๆ จะไม่ได้ออกจากบ้านก็ตาม แต่แสงไฟในบ้านหรือแม้แต่แสงจากหน้าจอมือถือ ก็มีผลทำให้ผิวหน้าหมองคล้ำได้เช่นเดียวกันนะคะ


7 มาส์กบำรุงผิวหน้า
ความถี่ในการมาส์ก ใช้เพียงสัปดาห์ละ 1-2 ครั้งก็เพียงพอ เพียงเท่านี้ผิวหน้าของสาวๆก็จะดูสวยใสอย่างเป็นธรรมชาติ และช่วยให้เครื่องสำอางค์ติดทนนานอีกด้วยค่ะ แต่สำหรับการมาส์กหน้า ไม่ควรนำแผ่นมาส์กกลับมาใช้ซ้ำนะคะ เพราะอาจทำให้เกิดสิวได้นั่นเองค่ะ

Thursday, October 24, 2019

สูตรสครับผิวสวยด้วยแตงกวา

                    สูตรสครับผิวสวยด้วยแตงกวา 




แตงกวา + น้ำมะนาว

สูตรสครับผิว พอกผิวสวย ในแบบธรรมชาตินั้น สาวๆ รู้ดีว่าเป็นสูตรที่ปลอดภัย ไร้ผลข้างเคียงแถมยังเป็น สูตรความงาม ในราคาประหยัด 
มีงบไม่ต้องแพงมากก็สามารถเนรมิต สูตรสครับและพอกผิว ในตัวได้
อย่างง่ายดาย

ปอกเปลือกแตงกวาแล้วหั่นเป็นชิ้นๆ ปั่นรวมกับน้ำมะนาว 1 ลูก จนได้ส่วนผสมที่ละเอียดกลายเป็นเนื้อเดียวกัน

จากนั้นนำมา สครับลงบนผิวหน้าและผิวกาย อย่างเบามือ หลังจากสครับเสร็จแล้วก็พอกผิวทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที

จากนั้นล้างออกให้สะอาด สำหรับสูตรนี้แนะนำให้ทำเป็นประจำทุกสัปดาห์ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 ครั้ง



พราะกรดจากน้ำมะนาวจะช่วยกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิว ทำให้ผิวขาวกระจ่างใสขึ้น และแตงกวายังบำรุงผิวให้นุ่มชุ่มชื้นเปล่งปลั่งอีกด้วย

โดยเฉพาะการใช้สูตรพอกหน้าแตงกวานั้น สาวผิวมันทั้งหลาย ปัญหาผิวมันเยิ้มจะลดน้อยลงอย่างมากทีเดียว

อยากมีผิวขาวกระจ่างใสนวลเนียนอย่างเป็นธรรมชาติ สาวๆ รู้ดีว่าเราจะต้องหมั่นขัดผิว หรือสครับผิวเป็นประจำนั่นเอง

สูตรลับดีๆ จากธรรมชาติที่ทำง่าย อยากสวยในราคาสุดประหยัด รู้แล้วก็อย่าลืมทำตามกันทุกสัปดาห์นะคะสาวๆ

Wednesday, October 23, 2019

แครอท ผิวสวย ใบหน้าขาวกระจ่างใส

           แครอท ผิวสวย ใบหน้าขาวกระจ่างใส 



แครอท เป็นผักที่ใช้ประกอบอาหารสุขภาพในหลายประเทศ
ทั่วโลก ซึ่งเมืองไทยเราก็ปลูกได้ดีในแถบภาคเหนือ การดื่มน้ำแครอทเป็นประจำเป็น ประโยชน์กับสุขภาพร่างกาย อย่างมากที
เดียวเพราะแครอทอุดมไปด้วยเบต้าแคโรทีนที่ร่างกายต้องการ

เพื่อเปลี่ยนเป็นวิตามินเอ ช่วยบำรุงสายตา ช่วยเสริมประสิทธิภาพของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ทั้งยังมีวิตามินบี 1 วิตามินบี 2 
วิตามินซี เหล็ก แคลเซียมฟอสฟอรัส ไนอาซิน มีสารต้านอนุมูลอิสระ 

ป้องกันการเกิดมะเร็ง แถมยังมีสรรพคุณที่ดีต่อผิวหนัง คือช่วยทำให้ผิวพรรณแข็งแรง เพื่มความยืดหยุ่นของผิว ช่วยกระชับรูขุมขน ชะลอการเกิดริ้วรอย ทำให้ผิวชุ่มชื้นสดใส

สูตรครีมขัดผิวจากแครอท

แครอทสดหั่นชิ้นเล็ก 1 ถ้วย
แครอทต้มสุก 1 ถ้วย
น้ำมะขามเปียก 2 ถ้วย
นมสด 1/2 ถ้วย

นำส่วนผสมทั้งหมดปั่นให้ละเอียด แล้วนำมาขัดผิวและพอกตัว ทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที แล้วจึงล้างออก ทำสัปดาห์ละครั้ง

สูตรครีมบำรุงผิวจากแครอท

แครอทต้มสุก 1/2 ถ้วย
โยเกิร์ต 2 ถ้วย
น้ำส้ม 2 ช้อนชา
น้ำมันมะพร้าว 2 ช้อนชา


นำส่วนผสมทั้งหมดปั่นรวมกันเป็นเนื้อครีม ทาครีมแครอทให้ทั่วหน้า นวดเบาๆ ด้วยปลายนิ้วประมาณ 2-3 รอบ พอกทิ้งไว้ 20 นาที จึงล้างออก ทำสัปดาห์ละครั้งจะช่วยทำให้ผิวหน้าเปล่งปลั่ง ลบเลือนริ้วรอยได้นะคะ

Tuesday, October 22, 2019

มาสก์หน้านมจืด กระจ่างใส เนียนนุ่ม

มาสก์หน้า นมจืด กับสำลีแผ่น 


          นำนมจืดมาเทใส่ถ้วย จากนั้นใช้สำลีแผ่นบาง ๆ มาชุบกับน้ำนมแล้วนำขึ้นมาแปะให้ทั่วใบหน้า เหมือนทำเป็นแผ่นมาสก์หน้า เสร็จแล้วให้พักทิ้งไว้จนสำลีแห้งหมาด ๆ หรือประมาณ 30 นาที แล้วค่อย ๆ แกะออก นำนมสดที่เหลือมานวดหน้าอีกครั้ง แล้วล้างหน้าให้สะอาดด้วยน้ำเย็น สูตรนี้จะช่วยทั้งเรื่องความกระจ่างใส เนียนนุ่ม และช่วยให้รูขุมขนกระชับขึ้นด้วยค่ะ

Monday, October 21, 2019

เคล็ดไม่ลับผิวสวยการบำรุงผิวหน้าก่อนนอน

ขั้นตอนการบํารุงผิวหน้าก่อนนอน❤💙❤💙


1. เช็ดเครื่องสำอางบนใบหน้าให้สะอาดด้วยคลีนซิ่ง

          อันดับแรกของขั้นตอนการบํารุงผิวหน้าก่อนนอนก็คือ ควรเช็ดหน้าและล้างเครื่องสำอางบนใบหน้าให้สะอาด โดยการใช้ "คลีนซิ่ง" เริ่มจากใช้สำลีชุปอายรีมูฟเว่อร์เช็ดเครื่องสำอางบริเวณช่วงตาให้สะอาดก่อน ไม่ว่าจะเป็นอายแชโดว์ อายไลเนอร์ และมาสคาร่า เป็นต้น เสร็จแล้วให้ใช้คลีนซิ่งชุปสำลีเช็ดบริเวณใบหน้าที่เหลือทั้งหมด เพื่อทำความสะอาดเครื่องสำอางที่อยู่บนใบหน้าให้หมดจด

2. มาสก์หน้า หรือสครับผิวหน้า

          สำหรับขั้นตอนนี้ถือเป็น วิธีดูแลผิวหน้าให้ใส ซึ่งสาว ๆ ควรทำอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง ครั้งละประมาณ 10-20 นาที ไม่ว่าจะเป็นการมาสก์หน้า หรือสครับผิวหน้า อย่างใดอย่างหนึ่งหรือจะทำสลับกันอาทิตย์ละอย่างก็ได้ค่ะ ทั้งนี้การมาสก์หน้าจะช่วยลดสิวเสี้ยน และลดการอุดตันของผิว ส่วนการสครับผิวหน้าจะช่วยขัดสิวเสี้ยนและเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดออก ทำให้ผิวขาวกระจ่างใส หน้าเนียน และไร้สิวเสี้ยนมากวนใจนั่นเอง

3. ล้างหน้าด้วยโฟมล้างหน้า

          สำหรับขั้นตอนสุดท้ายของการทำความสะอาดใบหน้าก็คือการล้างหน้าด้วย "โฟมล้างหน้า" ควรเลือกใช้โฟมล้างหน้าที่เหมาะกับสภาพผิว ล้างหน้าได้สะอาดหมดจด และหลังล้างไม่ทำให้รู้สึกว่าหน้าแห้งตึง ซึ่งจะช่วยลดการเกิดริ้วรอยก่อนวัย ทั้งนี้วิธีการล้างหน้าสาว ๆ ควรนวดโฟมล้างหน้าไปตามแนวรูขุมขน ไม่ควรนวดย้อนแนวรูขุมขน จะช่วยทำให้ล้างหน้าได้สะอาดและสิ่งสกปรกไม่อุดตันได้ค่ะ

4. ทาเอสเซนต์แบบน้ำ หรือเช็ดด้วยโทนเนอร์

          หลังจากล้างหน้าสะอาดแล้ว ก็เข้าสู่สเต็ปการบำรุงผิว โดยให้เริ่มจากใช้เอสเซนต์แบบน้ำทาลงบนผิวหน้า หรือเช็ดหน้าด้วยโทนเนอร์อย่างใดอย่างหนึ่ง ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการเตรียมผิวให้พร้อมก่อนการบำรุงด้วยครีมตัวอื่น ๆ นั่นเอง สำหรับเอสเซนต์หรือโทนเนอร์นั้นควรเลือกใช้สูตรที่ช่วยเรื่องความกระจ่างใส จะช่วยทำให้หน้าขาวเร็วขึ้นได้ด้วยนะคะ


5. ทาเซรั่มบำรุงผิว

          ขั้นตอนต่อไปก็คือการทาเซรั่มบำรุงผิว โดยให้หยดเซรั่มลงบนฝ่ามือ ตบ ๆ และทาลงบนผิวหน้าให้ทั่ว ซึ่งเนื้อเซรั่มจะซึมซาบลงสู่ผิวได้เร็ว ทำให้ช่วยบำรุงผิวได้อย่างล้ำลึก และสำหรับใครที่อยากจะบำรุงผิวให้ขาวกระจ่างใส เคล็ดลับคือแนะนำให้เลือกใช้เซรั่มสูตรไวท์เทนนิ่งบำรุงผิวเป็นประจำ อย่าง Olay White Radiance Light Perfecting Essence Serum ที่มีส่วนผสมของ Niacinamide (Vitamin B3) ช่วยให้ผิวแลดูกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้ ตัวนี้ไม่ใช่แค่ทำหน้าที่เซรั่มบำรุงผิวอย่างดียวเท่านั้น แต่ยังเป็นทั้ง Treatment, Day cream และ Night cream จบในขวดเดียว เรียกว่าไม่ได้ตอบโจทย์แค่เรื่องขาวใสเปล่งปลั่ง ยังช่วยลดเลือนริ้วรอย จุดด่างดำ รวมถึงช่วยเติมความชุ่มชื้น ดูแลผิวสวยได้แบบครบสูตรกันเลย


6. ทาอายครีม

          เนื่องจากผิวบริเวณรอบ ๆ ดวงตามีความบอบบาง และต้องการการดูแลเป็นพิเศษ ดังนั้นจึงควรเลือกใช้ครีมสูตรอ่อนโยนสำหรับผิวรอบ ๆ ดวงตาโดยเฉพาะ หรือที่รู้จักกันในชื่อ "อายครีม" นั่นเอง ซึ่งวิธีการใช้ให้ค่อย ๆ แตะเนื้อครีมอย่างเบามือที่บริเวณใต้ตา หรือทาจากทิศทางหัวตาไปยังหางตา เพื่อป้องกันการเกิดริ้วรอยตามมา

7. ทาครีมบำรุงผิวหน้า

          สำหรับขั้นตอนนี้จะเป็นวิธีบํารุงผิวหน้าให้ชุ่มชื่น สาว ๆ ควรเลือกใช้ครีมสูตรไนท์ครีมหรือครีมสำหรับทากลางคืนโดยเฉพาะ เนื่องจากไนท์ครีมจะมีมอยส์เจอร์ไรเซอร์เป็นส่วนประกอบหลัก ทำให้ผิวมีความชุ่มชื่น ซึ่งจะช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยได้ดี อีกทั้งยังจะช่วยให้ผิวซ่อมแซมและฟื้นฟูตัวเองได้อย่างเต็มที่ในเวลานอนอีกด้วย ทั้งนี้นอกจากทาครีมที่หน้าแล้ว อย่าลืมทาบริเวณคอด้วยนะคะ

8. ทายาแต้มสิว

          สำหรับคุณสาว ๆ ที่หน้าเป็นสิว หลังจากบำรุงผิวหน้าด้วยขั้นตอนต่าง ๆ ครบแล้ว ให้ปิดท้ายด้วยการใช้ยาแต้มสิว แต้มใบหน้าบริเวณที่เป็นสิวทุกครั้ง ซึ่งจะช่วยให้สิวยุบและหายได้เร็วขึ้นค่ะ


9. ทาลิปบาล์มที่ริมฝีปาก

          สุดท้ายหลังจากบำรุงผิวหน้าเสร็จสรรพครบทุกขั้นตอนแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่จะละเลยไม่ได้ก่อนนอน นั่นก็คือการบำรุงริมฝีปากด้วย "ลิปบาล์ม" นั่นเอง หรือจะใช้เจลปิโตรเลียมก็ได้ค่ะ ทั้งนี้ก็เพื่อบำรุงริมฝีปากให้ชุ่มชื่นตลอดคืน อีกทั้งยังจะช่วยป้องกันปากแห้ง ลอก และแตกเป็นขุยได้ดีอีกด้วย

Sunday, October 20, 2019

กู้หน้าพัง ก่อนและหลังมีประจำเดือน รู้แล้วจะร้องว๊าว 😮😮😮😮


ว๊าว ว๊าว ว๊าว เคล็ดลับ กู้หน้าพัง ก่อนและหลังมีประจำเดือน

ก่อนมีประจำเดือน


1.ดูแลผิวหน้าให้สะอาดเป็นพิเศษ

เนื่องจากช่วงนี้เป็นช่วงที่เราควรลดตัวกระตุ้นต่างๆที่อาจจะทำให้เกิดสิวได้  ขั้นตอนการทำความสะอาดถือเป็นสิ่งที่เราควรให้ความสำคัญควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับสภาพผิวของเรา  หากไม่จำเป็นก็ยังไม่ควรเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ในช่วงนี้นะคะ และหลังจากทำความสะอาดหน้าเสร็จเรียบร้อยเราควรใช้สำลี หรือทิชชู่สำหรับเช็ดหน้าในการซับน้ำให้หน้าแห้งจากการล้างหน้าแทนการแทนการใช้ผ้าขนหนู สำหรับผู้ที่ไม่ได้แยกระหว่างผ้าเช็ดตัว และเช็ดหน้าค่ะ

2.พอกหน้าแทนการสครับ

หากสาวๆคนไหนอยากจะปรนนิบัติผิวหน้าในช่วงนี้ ขอแนะนำให้ใช้ครีมบำรุงต่างๆที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติในการพอกหน้า แทนการสครับผิวที่อาจเป็นการรบกวนผิวหน้า จนเป็นตัวกระตุ้นหนึ่ง ในการทำให้เกิดสิวในช่วงวันนั้นของเดือนค่ะ

3.กันแดด และร่ม พกไว้ไม่ให้ขาด

ในช่วงก่อนมีประจำเดือน เพื่อนๆอย่าละเลยการป้องกันผิวหน้าจากแสงแดดกันนะคะ เพราะรังสีอัลตราไวโอเลต ทำให้เกิดอนุมูลอิสระซึ่งเป็นตัวกระตุ้นหนึ่งที่ก่อให้เกิดสิวขึ้นได้ง่ายค่ะ แนะนำให้เพื่อนๆเตรียมดูแลผิวหน้าอย่างดี หากจะเกิดสิวขึ้นในช่วงนี้ ก็มาจากฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนอย่างเดียวเท่านั้น เพราะเราตั้งรับโดยการลดความเสี่ยงในการเกิดสิวจากตัวกระตุ้นต่างๆไว้หมดแล้วนั่นเองค่ะ



หลังมีประจำเดือน


ช่วงมีประจำเดือนผ่านพ้นไปแล้ว หากมีสิวเกิดขึ้นมาในช่วงนั้นเราควรงด แกะ เกา หรือสัมผัสโดยตรงกับใบหน้า แต่หันมาเน้นที่การบำรุงฟื้นฟูผิวหน้า กันดีกว่าค่ะ

1.บำรุงผิวขั้นสุด

ก่อนที่เราจะไปบำรุงผิวหน้ากันให้เต็มที่ ในช่วงหลังจากมีประจำเดือนนั้น เราควรดูแลผิวที่อาจเกิดสิวอักเสบขึ้นในช่วงวันนั้นของเดือนให้หาย หรือแห้งก่อน ที่จะทดลองผลิตภัณฑ์ใหม่ ในการสครับ ขัด หรือพอกผิวหน้ากันนะคะ หากมีสิวที่ยังไม่หายดี ควรหลีกเลี่ยงการสครับในบริเวณดังกล่าวโดยตรงไปก่อนนะคะ

2.แต่งหน้าตามใจ

ช่วงนี้เหมาะอย่างยิ่งที่จะลอง make up ในแบบต่างๆที่เราชื่นชอบ หรืออาจจะแอบลังเล ไม่กล้าแต่งมากตอนช่วงมีประจำเดือน ถึงเวลาแล้วค่ะที่เพื่อนๆจะลองการแต้มเติมสีสันใหม่ๆเพิ่มความสดชื่นในหัวใจเรา

จบกันไปแล้วนะคะสำหรับการกู้หน้าพังช่วงก่อนและหลังมีประจำเดือน อย่างไรก็ตามเพื่อนๆก็อย่าลืมลองนำไปใช้กันดูนะคะ นอกจากนี้การดื่มน้ำให้เพียงพอ และการนอนให้เต็มอิ่มก็ถือเป็นตัวช่วยอมตะที่สาวๆไม่ควรพลาดเลยล่ะคะ เราจะได้มีผิวหน้าที่สวย สดใส จากภายใน ไม่ว่าจะเป็นวันนั้นของเดือนหรือไม่ก็ตาม

Saturday, October 19, 2019

สูตรพอกหน้า ด้วยแอปเปิ้ล


สูตรมากส์หน้า แอปเปิ้ล+น้ำนม

 สูตรพอกหน้าแอปเปิ้ลและน้ำนม นำแอปเปิ้ลครึ่งผลมาปั่นทั้งเปลือก เสร็จแล้วใส่น้ำนมลงไปปั่นให้เข้ากันแล้วนำมาพอกหน้าทั้งไว้ 20 นาทีแล้วล้างออก น้ำนมซึ่งช่วยให้ผิวขาวใสและแอปเปิ้ลที่ให้ความชุ่มชื้นก็จะทำให้ผิวคุณดูสว่างใสขึ้น

Thursday, October 17, 2019

ดอกไม้ผิวสวย ดอกสายน้ำผึ้ง



ดอกสายน้ำผึ้ง (Honeysuckle) ดอกไม้สีเหลืองนี้ใช้ในยาสมุนไพรมานานนับศตวรรษ และมีคุณสมบัติน่าอัศจรรย์หลายอย่าง มันช่วยต้านแบคทีเรีย ต้านอาการอักเสบ กำจัดความแห้งจากผมและผิว และอุดมด้วย ฟลาโวนอยด์ที่เป็นแอนตี้ออกซิแดนต์ ซึ่งมีประโยชน์ในด้านแอนตี้เอจจิ้ง

Wednesday, October 16, 2019

สูตรพอกหน้าขาวกระจ่างใสด้วยดินสอพอง✔✔✔✔✔❤❤❤❤👍👍👍👍

 สูตรพอกหน้าขาวกระจ่างใสด้วยดินสอพอง🎇

สูตรนี้ถือเป็นสูตรพอกหน้าพื้นฐานเลยก็ว่าได้ สำหรับดินสอพองนั้นมีคุณสมบัติช่วยในการดูดซับความมันบนใบหน้า ช่วยดีท็อกซ์สารตกค้างที่เกาะติดอยู่บนผิว ทำให้ผิวหน้ากระจ่างใส ซึ่งแน่นอนว่าสาวๆ คนไหนที่ต้องเผชิญกับมลภาวะในทุกๆ วัน สูตรนี้ก็จะสามารถช่วยสาวๆ ได้อย่างแน่นอน

สิ่งที่ต้องเตรียม  - ดินสอพอง และน้ำเปล่า

วิธีการทำ - นำดินสอพองมาผสมกับน้ำเปล่า คนจนกลายเป็นเนื้อครีมข้น จากนั้นนำมาทาให้ทั่วบริเวณใบหน้า เว้นบริเวณรอบดวงตากับริมฝีปาก ทิ้งไว้ประมาณ 15 -20 นาที แล้วจึงค่อยล้างออกให้สะอาด เพียงเท่านี้ สาวๆ ก็จะรู้สึกว่าใบหน้าเกลี้ยงเกลาและนุ่มนวลมากขึ้น

Tuesday, October 15, 2019

สุดยอดสูตรลับ สูตรน้ำสับปะรดช่วยผิวใสเนียน 🍍🍍🍍🍍



 สูตรน้ำสับปะรดช่วยผิวใสเนียน

สับปะรดช่วยให้ผิวใส นุ่มเนียน ควรเลือกใช้สับปะรดที่มีรสเปรี้ยวจะช่วยผลัดเซลล์ผิวได้ดี

ส่วนผสม


เนื้อสับปะรด 1 ถ้วย

สำลี

วิธีทำ


ปั่นเนื้อสับปะรดให้ละเอียด คั้นแยกน้ำและกากนำไปแช่ตู้เย็นให้เย็นจัด
ล้างหน้าให้สะอาด ซับผิวให้แห้ง แล้วนำสำลีชุบน้ำสับปะรดแปะให้ทั่วใบหน้า ยกเว้นรอบดวงตา (อาจใช้แตงกวาเย็นๆ ปิดตาไว้ทั้งสองข้าง)
นำกากสับปะรดที่เย็นจัดพอกทับอีกชั้นหนึ่งยกเว้นรอบดวงตา

เคล็ดลับ

เวลาทำหากไม่ต้องการให้เลอะ ให้ใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำเย็นจัดบิดพอหมาด ม้วนเป็นท่อนยาวๆ พันให้รอบใบหน้า เพื่อกันน้ำสับปะรดไหลเปรอะเปื้อน

 ควรพอกหน้าด้วยสับปะรดสัปดาห์ละ 1 ครั้งเพื่อให้ผิวนุ่ม เรียบเนียน

Sunday, October 13, 2019

ข้าวโพด สูตรสวย สูตรสวยธรรมชาติ บำรุงผิว บำรุงผม

ครีมไวเทนนิ่งข้าวโพดกระชับรูขุมขน (สำหรับผิวมัน)


ส่วนผสม

ข้าวโพดเหลืองดิบฝานเอาแต่เมล็ด 1 ถ้วย

น้ำต้ม 3 ช้อนโต๊ะ

น้ำมะนาว 3 ช้อนชา

ไข่ขาว 1 ฟอง


วิธีทำ

ปั่นเมล็ดข้าวโพดกับน้ำต้มจนเนื้อละเอียดเนียนเป็นเนื้อครีม จากนั้นเติมน้ำมะนาวและไข่ขาวลงไป ปั่นต่อจนเข้าเป็นเนื้อเดียวกัน

ปั้นสวย

ใช้ปลายนิ้วแต้มครีม นำมาทาให้ทั่วใบหน้าแล้วนวดคลึงเบาๆ เน้นบริเวณหน้าผาก จมูก และคาง นวดนานประมาณ 10 นาที แล้วพอกทิ้งไว้อีก 15 นาที ล้างออกด้วยน้ำอุ่น ตามด้วยน้ำเย็น

ทำเป็นประจำสัปดาห์ละ 1 – 2 ครั้ง จะช่วยให้ผิวหน้าขาวใส และช่วยกระชับรูขุมขน

Saturday, October 12, 2019

มากกว่าวิตามินซี ที่ช่วยยกระดับผิวสวย ส้ม ผลไม้ที่มีคุณประโยชน์มากมาย



ส้ม ผลไม้ที่มีคุณประโยชน์มากมาย ทั้งต่อสุขภาพร่างกาย และสุขภาพผิว หากเราพูดถึงส้ม เราคงนึกถึง “วิตามินซี” ตามมา แต่จริงๆ แล้ว ยังมีวิตามินอีกหลายอย่างที่มากกว่าวิตามินซี และวิตามินแต่ละอย่าง ก็ช่วยปรับผิวให้สวยขึ้นในหลายๆ ด้านด้วยค่ะ
ส้ม ดีต่อผิวอย่างไร
1. กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
เพราะส้มอุดมไปด้วยวิตามินซี ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการกระตุ้นสร้างคอลลาเจน เลยทำให้การกินส้ม ช่วยให้ผิวเราสร้างคอลลาเจนออกมาได้มากขึ้นค่ะ เมื่ออายุเรามากขึ้น คอลลาเจนในผิวเราจะผลิตออกมาได้น้อยลงเรื่อยๆ ดังนั้น ถ้าใครอยากชะลอริ้วรอย ไม่อยากให้ผิวแก่เร็วกว่าที่ควรเป็น การกินส้มก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ช่วยได้

2. ป้องกันสิว
นอกจากวิตามินซีแล้ว ส้มยังอุดมไปด้วยวิตามินเอ ที่มีคุณสมบัติช่วยป้องกันแบคทีเรียและสิ่งสกปรกบนผิวหนังเราได้ พร้อมยับยั้งไม่ให้เกิดสิว ส่วนวิตามินซีก็มีส่วนช่วยเรื่องสิวได้เช่นกัน ตรงที่ช่วยลดอาการบวมของสิวอักเสบ อีกทั้งกรดซิตริกในส้ม ก็เป็นกรดประเภทหนึ่งของ AHA ที่สามารถผลัดเซลล์ผิวเก่าออกได้ และทำความสะอาดรูขุมขนให้สะอาด ลดความเสี่ยงที่จะเกิดสิวในอนาคตได้เป็นอย่างดี


3. ต่อต้านริ้วรอย
ส้มยังช่วยต่อต้านริ้วรอยให้กับผิวเราได้ด้วย เพราะกรดซิตริกในส้มเป็นกรดประเภทหนึ่งใน AHA ซึ่งเป็นส่วนผสมสำคัญที่อยู่ในผลิตภัณฑ์ลดเลือนริ้วรอย และมีคุณสมบัติในการผลัดเซลล์ผิวเก่าออกไป เผยให้เห็นผิวที่อ่อนเยาว์ขึ้น อีกทั้งวิตามินซีก็ยังช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ทำให้ผิวมีความกระชับ เต่งตึง ไม่แห้ง และเกิดริ้วรอยได้ยาก

4. ป้องกันแสงแดดทำร้ายผิว
สารต้านอนุมูลอิสระในวิตามินเอและวิตามินซีช่วยป้องกันและฟื้นฟูผิวจากแสงแดดได้ และรู้ไหมว่า การที่ผิวเราถูกแสง UV จากแสงแดดมากๆ จะทำให้วิตามินเอในผิวเราถูกทำลายไป ส่งผลให้ผิวเราแก่ได้ง่าย แต่ถ้าหากเรากินส้ม วิตามินเอในส้มก็จะเข้าไปทดแทนวิตามินเอที่หายไป และซ่อมแซมผิวที่ถูกทำร้ายให้กลับคืนมามีสุขภาพดีเช่นเดิม และอาจจะดียิ่งขึ้นได้ด้วย!

Friday, October 11, 2019

สูตรผิวสวยใสด้วย 'มะนาว'

มะนาวหน้าใส-ลดสิว

อยากหน้าเนียนใส ไร้สิว ลองวิธีง่ายๆ เลย เพียงแค่คุณนำดินสอพอง และมะนาวมาผสมให้เข้ากัน (มะนาวครึ่งลูก และดินสอพอง 4-5 เม็ด หรือแล้วแต่ต้องการ) เมื่อได้ครีมที่เหนียวข้น ก็ให้นำมาพอกหน้าทิ้งไว้ประมาณ 10–15 นาที ก่อนเข้านอน และล้างออกด้วยน้ำสะอาด ทำสูตรนี้สัปดาห์ละประมาณ 3–4 ครั้ง เป็นเวลา 3 เดือน หลังจากนั้นก็ค่อยๆ ลดจำนวนครั้งลง คุณจะมีใบหน้าที่เนียนใสขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเลยล่ะ

และถ้าคุณเอาสูตรนี้ไปพอกผิว มันยังสามารถช่วยลดรอยจุดด่างดำได้ดีอีกด้วย โดยให้คุณทาเป็นประจำก่อนนอน หรืออาจจะวันเว้นวันก็ได้ (ไม่ต้องล้างออก) พอตื่นเช้าค่อยล้างออก เพียงเท่านี้จุดด่างดำก็จะค่อยๆ จางหายไป

Thursday, October 10, 2019

ผิวหน้าสวยใส ด้วยสูตรสครับธรรมชาติ

                    ผิวหน้าสวยใส ด้วยสูตรสครับธรรมชาติ




การสครับผิวหน้าเป็นการช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้วให้หลุด
ลอกออก พร้อมช่วยให้สิ่งอุดตันและสกปรกหมักหมมหลุดลอกออกมา ทำให้ผิวหน้าสะอาด เรียบเนียน เผยผิวสวยใสให้ปรากฏอย่างง่ายดาย โดยเราก็มี สูตรสครับผิว มาแนะนำกันด้วย ไปดูกันเลยนะคะว่ามีสูตรอะไรบ้าง

สครับหน้าด้วยโยเกิร์ตและวิตามินอี : สูตรหน้าเด็ก

การสครับหน้าด้วยโยเกิร์ตผสมวิตามินอี จะช่วย ทำให้หน้าเด็ก ชะลอริ้วรอยก่อนวัยอันควร และทำให้รูขุมขนเล็กลง โดยให้สาวๆ ผสมโยเกิร์ตรสธรรมชาติ ½ ถ้วย ข้าวโอ๊ต ¼ ถ้วย วิตามินอีแบบแคปซูล 2 แคปซูล และแครอทขูดละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ ให้เป็นเนื้อเดียวกัน จากนั้นนำมาสครับวนตามใบหน้าหรือพอกทิ้งไว้เป็นมาส์กแล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่นก็ได้


สครับด้วยน้ำมันมะพร้าวและมะนาว : ลดรอยสิว

น้ำมันมะพร้าวและมะนาวจะช่วยขัดให้ผิวของสาวๆ กระจ่างใสเรียบเนียน ลดรอยสิวและรอยด่างดำต่างๆ ให้จางลง และเพิ่มความเนียนนุ่มให้กับผิวมากขึ้น โดยให้สาวๆ นำน้ำมันมะพร้าวมา ½ ถ้วย ผิวมะนาวขูดและน้ำตาลทรายขาว 1 ถ้วย ผสมให้เป็นเนื้อเดียวกันแล้วนำมาสครับผิวหน้า ถูวนเป็นวงกลมแล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด ทำสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ก็จะได้ผลลัพธ์ที่ดีมาก

                    



สครับหน้าด้วยแตงกวาและน้ำตาลทรายขาว : สูตรหน้าใส

แตงกวาและน้ำตาลทรายขาว จะช่วยให้ผิวหน้าของเราได้รับการฟื้นฟูและปรับสภาพผิวที่เสียให้กลับมาดีขึ้น พร้อมเผยผิวสะอาดหน้าใส จากสารต้านอนุมูลอิสระในแตงกวา เพียงคุณนำแตงกวาหั่นแว่น 4 ชิ้นปั่นให้ละเอียด น้ำตาลทรายขาว ¾ ถ้วย น้ำมันมะพร้าว 2 ช้อนโต๊ะ น้ำมันหอมระเหยมิ้นต์ 10 หยด ผสมเข้าเป็นเนื้อเดียวกัน จากนั้นก็นำมาสครับผิวหน้าและพอกทิ้งไว้ ค่อยล้างออกด้วยน้ำสะอาด เท่านี้หน้าก็จะใสขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเลยค่ะ


สครับหน้าด้วยกากกาแฟและน้ำมันมะกอก : สูตรหน้าขาว

กากกาแฟมีสรรพคุณในการผลัดเซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้วให้หลุดลอกออก พร้อมทำให้หน้าขาวขึ้น ใสขึ้น โดยวิธีทำก็ง่ายมาก เพียงนำกากกาแฟ ½ ถ้วย มาผสมกับเกลือ ¼ ถ้วย น้ำตาลทรายแดง 2 ช้อนโต๊ะและน้ำมันมะกอก ¼ ถ้วยให้เป็นเนื้อเดียวกัน แล้วนำมาขัดหน้า ถูวนอย่างเบามือให้ทั่วใบหน้า ทิ้งไว้สักพักแล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด เพียงเท่านี้ใบหน้าก็จะเนียนนุ่ม และขาวใสขึ้นอย่างแน่นอน


Wednesday, October 9, 2019

สูตรบำรุงความงามว่านหางจระเข้

ว่านหางจระเข้สมุนไพรเพื่อความงาม


          สมุนไพรช่วยให้สวยอันดับต้น ๆ ที่หาง่าย ใช้ดี อย่างว่านหางจระเข้ มีสรรพคุณช่วยลดการติดเชื้อ ฆ่าเชื้อ สมานแผล และยังมีส่วนกระตุ้นเซลล์เนื้อเยื่อให้เจริญเติบโต ช่วยผลัดเซลล์ใหม่ และทำให้แผลหายเร็วขึ้น ด้วยสรรพคุณนี้เราจึงเห็นว่านหางจระเข้เป็นส่วนผสมในเวชสำอางและสกินแคร์หลายชนิด และใครอยากได้สูตรบำรุงความงามจากว่านหางจระเข้ ก็เข้าไปดูได้เลย

ประโยชน์ของว่านหางจระเข้กับผิวพรรณ

1.ใช้รักษาแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก
ว่านหางจระเข้ ช่วยบรรเทาอาการปวดแสบปวดร้อนจากการถูกน้ำร้อนลวกหรือไฟไหม้ได้โดยให้นำวุ้นสดภายในใบไปล้างยางออกให้สะอาด แล้วนำไปประคบแผล ซึ่งความชุ่มชื้นของเจลว่านหางจระเข้จะช่วยให้อาการดังกล่าวทุเลาลง เนื่องจากเอนไซม์แบรดดีไคเนส (Bradykinase) ในว่านหางจระเข้จะช่วยลดอาการอักเสบ เพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปสู่บริเวณเนื้อเยื่อของแผล อีกทั้งในว่านหางจระเข้มีกรดซาลิซิลิกที่คอยยับยั้งแบคทีเรีย และช่วยสร้างเซลล์ผิวหนังใหม่ ส่วนลิกนินในว่านหางจระเข้จะช่วยเร่งกระบวนการเยียวยาแผลโดยเพิ่มการไหลเวียนของออกซิเจนและสารอาหารในเส้นเลือดของผิวหนังไปยังแผลได้ดีขึ้น

2.รักษาผิวหนังไหม้ที่เกิดจากแดด
หลายคนคงจะทราบกันดีอยู่แล้วว่าแสงแดดเป็นตัวการทำร้ายผิว ซึ่งเมื่อผิวหนังได้รับความร้อนจากแสงแดดโดยตรงเป็นเวลานานจะทำให้เกิดการอักเสบ ผิวคล้ำเสียได้ ให้นำวุ้นจากว่านหางจระเข้มาล้างให้สะอาดแล้วนำมาทาบริเวณที่เกิดรอยไหม้ ซึ่งเจลของว่านหางจระเข้าสามารถช่วยบรรเทาอาการอาการแสบไหม้จากแดดได้

3.ช่วยลดความมันบนใบหน้า
เจลว่านหางจระเข้สามารถช่วยลดความมันบนใบหน้าลงได้ เพียงนำวุ้นหางจระเข้ที่ล้างสะอาดแล้วมาทาบริเวณใบหน้าวันละ 2 ครั้ง ทำต่อเนื่อง 1-2 เดือน ก็จะช่วยลดความมันบนใบหน้าได้ แถมช่วยให้ผิวหน้าเนียนนุ่มชุ่มชื้นขึ้น และรอยแผลเป็นดูจางลงด้วยล่ะ

4.รักษารอยด่างดำบนใบหน้า
ว่านหางจระเข้สามารถฟื้นฟูผิวที่มีรอยด่างดำดูให้ลดเลือนลงอย่างเห็นได้ชัด เพียงนำวุ้นหางจระเข้ที่ล้างสะอาดแล้วมาทาลงบริเวณที่เกิดรอยด่างดำเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง เพียงเท่านี้ก็จะกลับมามีผิวหน้าที่เนียนใสแล้ว

5.ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น ไม่แห้งกร้าน
เพียงพอกวุ้นว่านหางจระเข้ที่ล้างสะอาดแล้วบนใบหน้าทิ้งไว้หนาๆ ก่อนนอน เพียงเท่านี้คุณก็จะตื่นมาพร้อมกับใบหน้าที่เนียนนุ่ม ไม่แห้งกร้านแถมยังห่างไกลริ้วรอยก่อนวัยอันควรด้วย หรือจะทำอีกวิธีหนึ่งก็ได้คือใช้วุ้นจากใบว่านหางจระเข้นำมาพอกให้ทั่วบริเวณใบหน้าหรือบริเวณผิวที่ต้องการ ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาทีแล้วล้างออก วิธีนี้จะช่วยทำให้ผิวพรรณชุ่มชื้นสดใสและดูเต่งตึงขึ้นได้

6.ว่านหางจระเข้รักษาสิวและป้องกันฝ้าได้
ถ้าใช้ว่านหางจระเข้เป็นประจำจะช่วยป้องกันการเกิดฝ้าได้เป็นอย่างดีอีกทั้งยังช่วยรักษาสิวได้แต่ไม่แนะให้ใช้กับสิวอักเสบ เพราะจะทำให้เกิดการติดเชื้อได้ง่าย

7.รักษาแผลที่เกิดจากของมีคม ผิวหนังถลอก
การทาเจลว่านหางจระเข้ที่แผลเป็นประจำอย่างต่อเนื่องจะช่วยรักษารอยแผลนั้นจางลงได้ ให้ใช้วุ้นจากว่านหางจระเข้ที่ยังมีเมือกอยู่ แปะลงไปบนแผล ซึ่งวิธีนี้จะช่วยให้แผลสมานเร็วขึ้น

Monday, October 7, 2019

วิธีการดูแลผิวกายให้สวยดูมีออร่า

                        วิธีการดูแลผิวกายให้สวยดูมีออร่า





1. ควรรู้จักผิวตัวเองให้ดี เพื่อที่จะได้บำรุงถูกวิธี

ก่อนอื่นเลย เราต้องรู้จักผิวเราให้ดีซะก่อนว่า เราเป็นคนผิวแบบไหน ไม่ต่างจากการ เช็กสภาพผิวหน้า เลย เพราะผิวแต่ละแบบมีวิธีการดูแลที่แตกต่างกัน และใช้ครีมที่มีลักษณะเฉพาะต่างกัน เช่น ถ้าเราเป็นคนผิวแห้ง แต่ไปใช้ครีมแบบ oil-free ก็จะยิ่งทำให้ผิวแห้งไปกันใหญ่ หรือคนผิวแพ้ง่ายก็ต้องระวังในการเลือกครีมมากกว่าคนผิวประเภทอื่น

2. ใช้สบู่ถูตัวที่อ่อนโยน

สบู่ก้อนเป็นผลิตภัณฑ์ ทำความสะอาดผิว ตัวที่ได้รับความนิยมมากที่สุด แต่สบู่ส่วนใหญ่มักจะมีส่วนผสมของสาร SLS, SLES ที่ไปดึงความชุ่มชื้นออกจากผิวมากเกินไป จนทำให้ผิวแห้ง และอาจทำให้ผิวแพ้ระคายเคืองได้ แต่ทุกวันนี้ก็มีสบู่บางประเภทที่ไม่ทำร้ายผิวเกินไป และยังคงเก็บความชุ่มชื้นให้กับผิวอยู่ ถ้าไม่อยากให้ผิวถูกทำร้ายเกินไป ขอแนะนำให้เลือกสบู่ก้อน หรือสบู่เหลวที่มีส่วนผสมของ กรด hyaluronic ที่ช่วยรักษาน้ำให้อยู่ในชั้นผิวเรา หรือ ceramide ที่มีความสามารถช่วยรักษาความชุ่มชื้นให้กับผิวเราได้

3. เผยผิวสวยด้วยการสครับ

ผิวกายเองก็ต้องการสครับหรือขัดเซลล์ผิวเก่าออกไปบ้าง หากเราไม่เคยขัดผลัดเซลล์ผิวเลย ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผิวเราหมองคล้ำ เราเลยจำเป็นต้องขัดผิว เพื่อผลัดเซลล์ผิวเก่าออกไป และเผยผิวใหม่ที่กระจ่างใสออกมา


                       



4. เพิ่มความชุ่มชื้นในตอนที่ผิวยังไม่แห้ง

หากอยากให้ผิวเราได้รับความชุ่มชื้น เวลาที่เหมาะสมแก่การทามอยส์เจอร์ไรเซอร์เลยก็คือ ให้ทาตอนที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จใหม่ๆ ในตอนที่ผิวเรายังชื้นๆ ไม่แห้งสนิท เพราะในช่วงนี้รูขุมขนจะขยายกว้างพร้อมเปิดรับเซรั่ม หรือครีมบำรุงเข้าสู่ผิวได้ดีที่สุด

                       

5. เลือกโลชั่นที่มีส่วนผสมของกรดขัดผิว

ทุกวันนี้ครีมหรือโลชั่นทาผิวไม่ได้แค่เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวเท่านั้น แต่บางตัวยังมีส่วนผสมของสาร AHA ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิว เพิ่มระดับผิวกระจ่างใสให้เราไปอีกขั้น

6. ปรับผิวสวยจากภายในด้วยอาหารการกิน


อาจจะดูเป็นเคล็ดลับเล็กๆ น้อยๆ แต่เชื่อไหมว่า การกินอาหารดีๆ ก็ช่วยทำให้ผิวเราสวยได้เช่นกัน เราต้องทั้งทาครีมจากภายนอก และปรับผิวให้สวยจากภายในด้วยการกินด้วย ก็จะยิ่งทำให้ผิวเราสวยอย่างเป็นธรรมชาติได้มากขึ้น อาหารที่ดีต่อผิว ก็เช่น ผลไม้ ผักที่อุดมไปด้วยวิตามินซี อย่างฝรั่ง ส้ม ผักบร็อกโคลี่ นมถั่วเหลือง ไข่ต้ม เป็นต้น

Sunday, October 6, 2019

เทคนิคทำอย่างไรบ้าง ดูแลผิวหน้าขาวใส

                    เทคนิคทำอย่างไรบ้าง ดูแลผิวหน้าขาวใส 




1.เปลี่ยนวิธีทาครีมใหม่

หลายคนมักจะเคยชินกับการ ทาครีมบนผิวหน้า ด้วยการถูไปถูมา วนๆ รอบผิวหน้า ซึ่งจริงๆ แล้วเป็นวิธีที่เหล่าสาวๆ ไอดอลเขาไม่ใช้กัน เพราะวิธีการที่ถูกต้องคือ ให้แต้มครีมบำรุงมาไว้บนฝ่ามือทั้งสองข้าง จากนั้นก็ค่อยๆ เอาฝ่ามือที่มีครีมตบๆ ลงบนผิวอย่างแผ่วเบา จนครีมซึมทั่วผิวหน้า เขาว่ากันว่าเป็นวิธีที่ได้ผลกว่าการถูวนๆ เยอะเลย


2.ล้างหน้าหลายขั้นตอน

สาวๆ หลายคนมักจะล้างหน้าแค่ขั้นตอนเดียว แต่สำหรับสาวไอดอลเกาหลีแล้ว เขาให้ความสำคัญกับ การล้างหน้า เป็นพิเศษ เพราะจะช่วยให้คราบเครื่องสำอางหลุดออกจากผิวหน้าได้อย่างหมดจด โดยขั้นตอนที่นิยมก็คือ ล้างด้วยคลีนซิ่งออยล์ 4 นาที ตามด้วยการล้างโฟมล้างหน้าอีก 2 นาที และล้างน้ำเปล่าอีก 4 นาที รับประกันได้ว่าหน้าจะใสเป๊ะมากขึ้นกว่าเดิมแน่นอน

                       



3.ใช้สำลีชุบเอสเซนส์ เซรั่ม บำรุงผิว

เปลี่ยนความคุ้นเคยในการเทเอสเซนส์ เซรั่มบำรุงผิวใส่มือแล้วโปะลงบนผิวหน้า แล้วมาทำตามแบบฉบับสาวไอดอลกันดีกว่าด้วยการเทเอสเซนส์ เซรั่มหรือสกินแคร์ที่เป็นน้ำลงบนสำลี แล้วนำมาเช็ดหน้า วิธีนี้เป็นวิธีที่จะทำให้สกินแคร์ทำหน้าที่ในการบำรุงผิวหน้าได้ดีขึ้น อีกทั้งยังเหมือนเป็นการสครับผิวหน้าไปในตัวด้วย

4.ดื่มน้ำเยอะๆ

เคล็ดลับสำคัญที่ขาดไม่ได้ในการที่จะมีผิวหน้าสวยใสฉบับสาวไอดอลเกาหลีก็คือ การดื่มน้ำให้เพียงพอ เพราะน้ำถือเป็นสิ่งที่จะช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้นให้ชั้นผิว ยิ่งร่างกายสาวๆ ขาดน้ำมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งมีผิวที่แห้งกร้านไม่สดใสมากขึ้นเท่านั้น ดังนั้นน้ำจึงเป็นอาหารบำรุงผิวจากภายในที่จำเป็นมากๆ ในการบำรุงผิวพรรณทั้งผิวหน้า และผิวกายให้สวยเปล่งปลั่งอยู่ตลอดเวลา







Saturday, October 5, 2019

ดูแลผิวหน้าให้สวยใสมีออร่า

                              ดูแลผิวหน้าให้สวยใสมีออร่า






การดูแลผิว สำหรับสาวผิวแห้ง

สาวๆ ที่มี ปัญหา ผิวหน้าแห้งลอก จึงต้องดูแลสภาพผิวเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นขั้นตอนการบำรุง หรือการทำความสะอาด จำเป็นต้องเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีความเหมาะสมเพื่อเติมความชุ่มชื่นให้ผิวอย่างเหมาะสมที่สุด การดูแลจึงควรเลือกใช้การมาร์กหน้าวันละ 2 ครั้ง โดยเลือกครั้งแรกให้มาสก์ก่อนแต่งหน้า 

ส่วนครั้งที่สองให้มาสก์ก่อนเข้านอน หลังมาร์กเสร็จแล้ว ให้ทาครีมบำรุงที่ช่วยรักษาความชุ่มชื้น พร้อมนวดใบหน้าอย่างเบามือเพื่อให้ครีมซึมซับเข้าสู่ผิวได้มากขึ้น รับรองเลยว่าวิธีนี้จะช่วยเปลี่ยนผิวแห้งให้กลับมาสวยใส และดูเต่งตึงได้ในเร็ววัน

การดูแลผิว สำหรับสาวผิวคล้ำเสียง่าย

สาวๆ คนไหนที่มี ปัญหาผิวคล้ำเสีย ซึ่งมีสาเหตุมาจากมลภาวะหรือการดูแลผิวแบบผิดวิธี ทำให้เกิดการระคายเคืองต่อเนื่องกันเป็นเวลานาน เซลล์ผิวจึงเสื่อมสภาพ กลายเป็นความหมองคล้ำไร้ออร่าตามมา การดูแลผิวด้วยการเลือกใช้ครีมไวท์เทนนิ่งที่เหมาะกับสภาพผิว ทาทุกวันก่อนเข้านอน ย่อมช่วยฟื้นบำรุงผิวหมองคล้ำให้กลับมาสดใสขึ้นได้

                       


การดูแลผิวด้วยการเติมอาหารผิว


การเติมอาหารผิวเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมาก เพราะจะช่วยให้เซลล์ผิวมีความแข็งแรง ป้องกันการทำลายจากแสงแดด ความร้อนและมลภาวะได้ดี ซึ่งการเติมอาหารผิวสามารถทำได้ง่ายๆ เริ่มจากให้เลือกใช้โทนเนอร์เช็ดหน้าหลังจากล้างหน้าเสร็จ เพื่อช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นไม่ให้ถูกทำลาย ตามด้วยการทาเซรั่มเข้มข้น 

เพื่อให้ผิวได้รับสารอาหารสำคัญได้อย่างเต็มที่ เพียงแค่ทาบางๆ ลงบนใบหน้า และนวดอีกเล็กน้อยด้วยฝ่ามือที่มีความอุ่น กระตุ้นให้รูขุมขนขยายตัวออกสักหน่อย จะทำให้เซรั่มซึมเข้าสู่ผิวได้ดียิ่งขึ้น ผิวหน้าจะสวยกระจ่างใสเป็นธรรมชาติ ขาวไบรท์ดุจผิวสาวเกาหลีกันเลยทีเดียว

Friday, October 4, 2019

สมุนไพรขิงความอัศจรรย์ตัวช่วยผิวสวย

อัศจรรย์ใจผิวสวยด้วยขิง


สูตรขัดผิวด้วย “ขิงผสมนมสด”
ผสมนมสดและขิงสดฝานบางๆ เข้าด้วยกัน ใช้ขัดผิวกายก่อนอาบน้ำจะช่วยผลัดเซลล์ผิว ช่วยให้รอยดำ รอยแผลเป็นหายเร็วขึ้น ช่วยให้ผิวที่หยาบกร้านแลดูนวลเนียนขึ้น

สูตรขัดผิวด้วย “ขิงและผงขมิ้น”
นำขิงสดมาบดละเอียดผสมกับผงขมิ้นขัดผิวก่อนอาบน้ำ ช่วยปรับสภาพผิวที่แห้งกร้านให้ชุ่มชื้น ลดรอยดำ รอยแผลเป็น และฝ้า กระ ให้ผิวกระจ่างใส และช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายไปแล้วให้หลุดออกได้ง่ายขึ้น

สูตรขัดผิวด้วย “ขิงและน้ำมันมะพร้าว
ขิงมีสรรพคุณที่ช่วยรักษาแผลสดได้ แต่นอกจากนี้ยังช่วยสมานแผลที่เกิดจากสิวอักเสบ สิวเป็นหนองได้อีกด้วย นำขิงสดมาฝานบางๆ ขัดที่บริเวณรอยสิว หรือแผลที่เกิดจากการบีบสิว ขัดเบาๆ หลังอาบน้ำและทาน้ำมันมะพร้าวบางๆ ให้ทั่ว ทิ้งไว้ 15-20 นาทีแล้วเช็ดออก จะช่วยเยียวยาผิวที่เกิดรอยแผล และรอยแดงจากสิวอักเสบได้ อีกทั้งยังลดอาการคัน และความปวดที่เกิดจากสิวอักเสบได้

Thursday, October 3, 2019

สูตรบำรุงผิวพรรณให้สดใสด้วยแครอท

สูตรบำรุงผิวหน้าให้สดใสด้วยแครอท

 เนื่องจากแครอทมีวิตามินเอสูงมาก จึงทำให้สามารถบำรุงผิวพรรณได้ผลดีเป็นอย่างยิ่ง

วิธีการทำ


1.แครอท                   1       หัว ล้างแครอทให้สะอาด ใช้ส้อมขูดเปลือกผิวออกเล็กน้อย ไม่ต้องปอกเปลือกให้หมด

2. หั่นแครอทเป็นชิ้นเล็ก ๆ แล้วให้เครื่องปั่นให้ละเอียด

3. นำมาพอกชโลมใบหน้า เว้นรอบดวงตาและริมฝีปาก ทิ้งไว้ 15 นาทีแล้วล้างออก

4. สูตรนี้ควรทำทุกสัปดาห์ เพื่อให้ผิวสะอาดสดใสอย่างคนมีสุขภาพดี

Wednesday, October 2, 2019

สูตรเด็ด วิธีกําจัดขี้แมลงวัน ด้วยตัวเอง


 วิธีกําจัดขี้แมลงวัน ด้วยตัวเอง


1. กําจัดขี้แมลงวัน ด้วยมะนาว

          เตรียมมะนาวประมาณ 1 ลูก บีบเอาแต่น้ำใส่ถ้วยไว้ จากนั้นใช้คอตตอนบัดแห้งและสะอาดชุบน้ำมานาว แล้วแตะลงบนขี้แมลงวันที่ต้องการกำจัด ทิ้งไว้ประมาณ 30 นาทีจึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด ทำแบบนี้สัปดาห์ละ 2 ครั้ง รอยดำ ๆ ของขี้แมลงวันก็จะค่อย ๆ จางหายไปเอง
บาคาร่า

2. ใช้ปูนแดงกำจัดขี้แมลงวัน

         วิธีนี้อาจจะทำให้แสบผิวเล็กน้อย แต่หลายคนที่เคยลองบอกว่าได้ผลดีมาก เริ่มจากนำปูนแดง 1 ช้อนชามาผสมกับสบู่เหลว 1 ช้อนชา คนส่วนผสมให้เข้ากัน จากนั้นก็ทำความสะอาดจุดที่ต้องการกำจัดขี้แมลงวัน นำไม้จิ้มฟันมาแตะปูนแดงที่ผสมเอาไว้แล้วทาลงบนขี้แมลงวัน ระวังอย่าให้เลอะจุดอื่น ๆ ทิ้งไว้จนแห้งแล้วใช้ผ้าเช็ดออกพร้อมกับล้างด้วยน้ำสะอาดอีก 1 ครั้งเป็นอันจบขั้นตอน


3. แอปเปิ้ลไซเดอร์ลดขี้แมลงวันได้

           นำแอปเปิ้ลไซเดอร์ 1 ช้อนโต๊ะมาผสมกับน้ำเปล่า 2 ช้อนชา ใช้แผ่นสำลีชุบน้ำแอปเปิ้ลไซเดอร์ที่ผสมเอาไว้ จากนั้นก็เอามาแปะลงบนขี้แมลงวันนาน 20 นาที ทำติดต่อกันสัปดาห์ละ 3 ครั้ง ขี้แมลงวันก็จะจางหายจนมองแทบไม่เห็นแล้ว