การทาครีมบำรุงผิว เป็นครีมบำรุงอีกแบบหนึ่งทำให้หน้ามองเนียใส

กฎพื้นฐานเป็นมองตามหน้าที่ของสรับประทานสนใจจาก ล้างชำระล้าง บำรุง ไปถึงป้องกันผิว และก็ยึดความเข้มข้นของเนื้อสัมผัสเป็นหลัก โดยเริ่มจากค่อยไปหนัก หรือจากของเหลวใสไปออยล์และก็ครีมสรับประทานห่วงใยพิเศษที่มิได้ใช้ทุกวี่ทุกวัน ตัวอย่างเช่น บูสเตอร์ มาสก์ สครับ ให้มองตามหน้าที่ และก็แทรกสอดเข้าไปตามขั้นตอนเบื้องต้นข้างต้น หรือใช้แทนบางขั้นตอนได้ ดังเช่นว่า บูสเตอร์วิตามินซีควรที่จะใช้ก่อนเซรั่ม มาสก์แผ่นให้ผิวสดชื่นสามารถใช้แทนเซรั่มในตอนเวลาเช้าได้ มาสก์ข้ามคืนใช้แทนไนต์ครีมได้ มาสก์
การทาครีมบำรุงผิว เป็นครีมบำรุงอีกแบบหนึ่งทำให้หน้ามองเนียใส

โคลนใช้ดีท็อกซ์ผิวข้างหลังล้างหน้า พีลลิ่งมาสก์ใช้ผลัดผิวข้างหลังล้างหน้าล้างตา สครับใช้ชำระล้างผิวอาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง

บางบุคคลมองเห็นเรื่องนี้แล้วบางทีอาจเมินหน้าผ่านเพราะเหตุว่าคุณเซียนอยู่แล้ว แต่ว่าเชื่อไหมว่านี่เป็นปัญหาลำดับต้นๆ เพราะเหตุว่ายังมีเพศหญิงอีกหลายชิ้นที่มีสรับประทานห่วงใยเป็นจำนวนมากไว้ภายในถือครอง อารมณ์ว่าผู้ใดกันแน่ว่าดีก็ซื้อตาม แต่ว่าท้ายที่สุดกลับใช้ไม่ถูกใช้ถูกกระทั่งมองไม่เห็นผล บ่อยยังแยกเดย์ครีมกับไนต์ครีมไม่ออก ทำให้จะต้องรอเสียเงินเสียทองบ่อยๆอยู่ร่ำไป แม้คุณอยู่ในข่ายดังว่า พวกเราขอชวนมาทำความเข้าใจลำดับการทาครีมบำรุงเสียใหม่ ยืนยันปฏิบัติตามนี้ไม่งงแน่ๆ


ขอบคุณแหล่งที่มา  https://thestandard.co

เซรั่มบำรุงหน้า และช่วยให้ใบหน้ามองเนียสวยและให้หน้าขาวขึ้น

เซรั่มบำรุงหน้า ผ่านร้อนผ่านฝนกันมาผิวหน้าของสตรีอาจเริ่มโทรม แถมริ้วรอยยังมาเยี่ยมแบบมิได้รับเชิญงานกู้ผิวหน้าจำเป็นต้องมาแล้วล่ะจ้ะ เราก็เลยคัดมาย้ำๆกับ 7เซรั่มบำรุงหน้าไอเทมเด็ดที่จะมาช่วยคืนความแจ่มใสให้กับผิวหน้า อย่ารอช้า ไปดูกันเลยจ้ะผิวหน้าของเรา เมื่อก้าวสู่ตอนวัยทำงานทั้งจำเป็นต้องพบเห็นกับความตึงเครียด ลักษณะอากาศร้อน แล้วก็มลภาวะทำให้ปัญหาผิวเริ่มรุมเร้า 
เซรั่มบำรุงหน้า และช่วยให้ใบหน้ามองเนียสวยและให้หน้าขาวขึ้น

หากขาดการดูแลและก็บำรุงผิวหน้าก็จะหมองคล้ำ รูขุมขนไม่กระชับ ขาดความสมดุลของผิวริ้วรอยสอบถามหาได้ โดยเหตุนี้ก็เลยต้องมีตัวช่วยรู้ตัวบำรุงผิวหน้ากันสักหน่อย วิธีผิวสวย ที่เพศหญิงคู่ควรก็คือการเลือกใช้ เซรั่มบำรุงหน้า ซึ่งสามารถฟื้นฟูสภาพผิวได้เร็วทันใจจ้ะเพราะว่าเซรั่มเป็นผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่มีส่วนผสมเข้มข้น และก็มีขนาดโมเลกุลที่เล็กกว่าก็เลยเพิ่มสารอาหารไปสู่ชั้นผิวได้ล้ำลึกกว่าครีมหรือโลชั่นนั่นเองจ้ะ


ขอบคุณแหล่งที่มา   https://women.kapook.com/

2 ขั้นตอนดูแลผิวหน้า ทำให้ผิวพรรดูสวยขึ้นและไม่ดูดำลงรักษาก่อนนอนทุกวัน

1 ขั้นตอนดูแลผิวหน้าก่อนนอนให้สวยใสได้ทุกวัน
ขั้นตอนแรก วิธีการทำความสะอาดผิวหน้า
วิธีการทำความสะอาดด้วย Cleansing
ให้ผู้หญิงทาผิวหน้าให้ทั่วด้วยคลีนซิ่งแล้วหลังจากนั้นนวดวนเบาๆแล้วปล่อยทิ้งเอาไว้สัก 30 วินาที  1 นาที เพื่อมันปฏิบัติหน้าที่ละลายคราบเปื้อนสิ่งสกปรกต่างๆไม่ว่าจะเป็นเครื่องแต่งตัวแล้วก็คราบเปื้อน
2 ขั้นตอนดูแลผิวหน้า ทำให้ผิวพรรดูสวยขึ้นและไม่ดูดำลงรักษาก่อนนอนทุกวัน

ไขมันที่ตันในรูขุมขน เพื่อที่จะได้ให้พวกเราล้างออกได้อย่างงายถางเพิ่มขึ้น
2 ขั้นตอนดูแลรักษาใบหน้าก่อนนอนให้เกิดความสวยงามใสได้ทุกวี่วัน
 การล้างหน้า

ควรจะล้างให้อย่างแม่นยำด้วยการล้างอย่างเบามือ สำหรับในการคลำวนผิวหน้าให้ใช้เพียงแค่ปลายนิ้วมือเพียงแค่นั้นจ้ะ และไม่ควรจะลูบไล้ผิวหน้าแรงๆไม่งั้นจะก่อให้กำเนิดริ้วรอยเหี่ยวย่นได้ง่าย เสร็จแล้วให้ล้างด้วยน้ำเปล่าจนกระทั่งรู้สึกได้ว่าผิวสะอาดเกลี้ยงเกลาหมดจด



ขอบคุณแหล่งที่มา   https://www.sanook.com

การบำรุงผิวหน้า และรักษาผิวให้ผิวดูเนียนและใสขึ้นทุกวัน

                       

1. ขัดเครื่องแต่งตัวบนใบหน้าให้สะอาดด้วยคลีนซิ่ง

อันดับแรกของขั้นตอนการบํารุงผิวหน้าก่อนนอนก็คือ ควรจะเช็ดหน้ารวมทั้งล้างเครื่องแต่งตัวบนบริเวณใบหน้าให้สะอาด โดยการใช้ คลีนซิ่ง" เริ่มจากใช้สำลีชุปเว่อร์ขัดเครื่องแต่งหน้ารอบๆตอนตาให้สะอาดก่อน ไม่ว่าจะเป็นอายแชโดว์ อายไลเนอร์ และก็มาสคาร่า  เสร็จแล้วให้ใช้คลีนซิ่งชุปสำลีขัดถูใบหน้าที่เหลือทั้งผอง เพื่อชำระล้างเครื่องสำอางที่อยู่บนใบหน้าให้สะอาด
การบำรุงผิวหน้า และรักษาผิวให้ผิวดูเนียนและใสขึ้นทุกวัน

2. มาสก์หน้า หรือสครับผิวหน้า

สำหรับขั้นตอนนี้นับว่าเป็น วิธีดูแลผิวหน้าให้ใส ซึ่งผู้หญิงควรจะทำขั้นต่ำอาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง ครั้งละประมาณ 10-20 นาที ไม่ว่าจะเป็นการมาสก์หน้า หรือสครับผิวหน้า อย่างใดอย่างหนึ่งหรือจะทำสลับกันอาทิตย์ละอย่างก็ได้จ้ะ ดังนี้การมาสก์หน้าจะช่วยลดสิวเสี้ยน รวมทั้งลดการอุดตันของผิว ส่วนการสครับผิวหน้าจะช่วยขัดสิวเสี้ยนรวมทั้งเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดออก ทำให้ผิวขาวกระจ่างขาวใส หน้าเนียน และก็ไม่มีสิวเสี้ยนมากมายวนจิตใจนั่นเอง
3. ล้างหน้าล้างตาด้วยโฟมล้างหน้า

สำหรับขั้นตอนสุดท้ายของกระบวนการทำความสะอาดบริเวณใบหน้าก็คือการล้างหน้าล้างตาด้วยโฟมที่ใช้สำหรับล้างหน้าควรจะเลือกใช้โฟมสำหรับล้างหน้าที่เหมาะสมกับภาวะผิว ล้างหน้าล้างตาได้สะอาดสะอ้าน รวมทั้งข้างหลังล้างไม่ทำให้เกิดความรู้สึกว่าหน้าแห้งตึง ซึ่งจะช่วยลดการเกิดริ้วรอยก่อนวัย ดังนี้แนวทางการล้างหน้าล้างตาผู้หญิงควรจะนวดโฟมที่ใช้ล้างหน้าไปตามแนวรูขุมขน ไม่สมควรนวดย้อนแนวรูขุมขนจะช่วยปรับให้ล้างหน้าล้างตาได้สะอาดแล้วก็สิ่งสกปรกไม่ตันได้จ้ะ

4. ทาเอสเซนต์แบบน้ำ หรือขัดถูด้วยโทนเนอร์


ภายหลังล้างหน้าล้างตาสะอาดแล้วก็ไปสู่สเต็ปการบำรุงผิว โดยให้เริ่มจากใช้เอสเซนต์แบบน้ำทาลงบนผิวหน้าหรือเช็ดหน้าด้วยโทนเนอร์อย่างใดอย่างหนึ่งดังนี้ก็เพื่อเป็นการตระเตรียมผิวให้พร้อมก่อนจะมีการบำรุงด้วยครีมตัวอื่นๆนั่นเองสำหรับเอสเซนต์หรือโทนเนอร์นั้นควรที่จะเลือกใช้สูตรที่ช่วยเรื่องความแจ่มแจ้งใส จะช่วยทำให้ปรับหน้าขาวเร็วขึ้นได้ด้วยนะค่ะ


ขอบคุณแหล่งที่มา  https://women.kapook.com

งดเหล้าถ้าไม่อยากผิวพัง แล้วผิวคณจะสวยขึ้น

สายปาร์ตี้ต้องรู้ งดเหล้าถ้าไม่อยากผิวพัง

1. สิวขึ้น
อวัยวะที่ได้รับผลกระทบจากการดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไปก็คือ “ตับ” ปกติแล้วตับมีหน้าที่ชำระล้างสารพิษและขับออกไปจากร่างกาย เมื่อเราดื่มแอลกอฮอล์เข้าไปตับต้องทำงานหนักขึ้นในการขับเอาสารพิษออกมา ประสิทธิภาพการทำงานของตับลดลง ก็ทำให้มีสารพิษตกค้างในร่างกาย เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดสิวได้

นอกจากนี้เรามักดื่มแอลกอฮอล์ในเวลากลางคืนและมักจะลากยาวไปจนถึงกลางดึก ทำให้ร่างกายพักผ่อนไม่เพียงพอ และยิ่งคืนไหนเผลอหลับไป โดยไม่ได้เช็ดเครื่องสำอาง หรือล้างหน้าก่อนนอนแล้ว ยิ่งกระตุ้นให้เกิดสิวได้มากขึ้น

2. ผิวแห้ง
การดื่มแอลกอฮอล์ทำให้ร่างกายเราขับน้ำออกจากร่างกายมากกว่าปกติ ทำให้ร่างกายขาดน้ำ ผิวจึงขาดความชุ่มชื่น เลยเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผิวเราแห้งได้ โดยเฉพาะบริเวณผิวหน้าของเรา


3. หน้าบวม ตาบวม
เพราะการดื่มแอลกอฮอล์จะทำให้ร่างกายเราขาดน้ำ ความเข้มข้นของเลือดจะสูงขึ้น ร่างกายจึงรักษาสมดุลโดยการดูดน้ำเข้าสู่เส้นเลือดเพิ่มขึ้น และสะสมจนทำให้เกิดอาการบวมตามมา ด้วยเหตุนี้เลยทำให้เกิดปัญหาหน้าบวม ตาบวม

4. ผิวหมองคล้ำ ไม่สดใส
วิตามินเอเป็นสารต้านอนุมูลอิสระอย่างหนึ่งที่ช่วยบำรุงผิวให้มีสุขภาพดี สร้างเซลล์ผิวใหม่ และชะลอริ้วรอย แต่แอลกอฮอล์ที่เราดื่มเข้าไปเนี่ยแหละ เป็นตัวการที่ดึงเอาวิตามินเอที่สำคัญต่อผิวเรามากๆ ออกไป ซึ่งถ้าผิวเราขาดวิตามินเอ ก็จะทำให้หน้าเราดูหมองคล้ำ หรือไม่ก็เหลือง ซีดเซียวได้

5. หน้าแก่
จากเหตุผลจากข้อที่กล่าวมา การดื่มแอลกอฮอล์บ่อยๆ ทำให้ผิวหน้าเราแก่เร็วกว่าปกติ เพราะอาการผิวแห้ง ขาดวิตามินเอ เป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ผิวเราเกิดริ้วรอย มีความหย่อนคล้อย ทำให้ผิวเราแลดูแก่ขึ้นนั่นเอง ถ้าไม่อยากหน้าแก่ไว ก็งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ลงไปบ้างนะคะ

6. เสี่ยงเป็นมะเร็งผิวหนัง
มีงานวิจัยออกมายืนยันว่า คนที่ดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณที่มากกว่าปกติเป็นประจำ จะมีอัตราความเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งผิวหนังมากกว่าคนทั่วไปถึง 2 เท่าเลยทีเดียว

วิธีฟื้นฟูสภาพผิวหลังจากดื่มหนัก

หากมีเหตุจำเป็นที่ต้องดื่มสังสรรค์กับเพื่อน หรือถ้าใครลืมตัวเผลอดื่มหนักไปบ้าว แต่ก็ไม่อยากให้ผิวเสีย วิธีง่ายๆ ที่จะช่วยฟื้นฟูสภาพผิวหลังจากที่จัดหนักไปเต็มๆ ตามนี้…

ก่อนดื่มให้หาอะไรทานก่อนเสมอ อย่าดื่มตอนท้องว่าง เพื่อให้การดูดซึมแอลกอฮอล์ช้าลง
หลังงานปาร์ตี้ มึนหนักแค่ไหน ก็ต้องเช็ดเครื่องสำอาง ล้างหน้า และอาบน้ำก่อนนอนทุกครั้ง!
ดื่มน้ำเยอะๆ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหลังจากเสียน้ำไป
เพิ่มวิตามินให้ผิวด้วยการทานอาหารที่มีประโยชน์ อย่าง น้ำผลไม้สด
กินขนมปังและไข่ ขนมปังช่วยจับสารพิษในร่างกาย และไข่จะประกอบด้วย cysteine และกรดอะมิโน ที่จะให้ตับชำระสารพิษจากแอลกอฮอล์ได้เร็วขึ้น
ถ้าต้นเหตุของผิวเสียมาจากแอลกอฮอล์ งด ละ เลิกดื่มแอลกอฮอล์ เป็นทางเลือกที่ดีที่สุด

การใช้โยเกิร์ตเพื่อบำรุงผิวให้ขาวใสไร้ที่ติ

โยเกิร์ตพอกหน้า ที่เรานำมาใช้ โยเกิร์ต 

: เป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนมชนิดต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นนมสด นมพร่องมันเนย หรือ นมถั่วเหลือง โดยการใช้แบคทีเรีย แลคโตบาซิลัส เอซิโดซิส และสเตรปโตคอคคัส เทอร์โมฟิลลัส เป็นหลักใส่ลงไปหมักผลิตภัณฑ์นมต่าง ๆ แบคทีเรียเหล่านี้ช่วยย่อยน้ำตาลแลคโตสในนมให้เป็นกรดแลคติค ทำให้มีภาวะกรดและมีรสเปรี้ยวโดยมีความเป็นกรด-เบสอยู่ระหว่าง 3.8-4.6 นมเปรี้ยว มี 2 ชนิด คือ ชนิดแรกเป็นนมเปรี้ยวที่มีลักษณะเป็นน้ำคล้ายเครื่องดื่ม อีกชนิดหนึ่งเป็นนมเปรี้ยวที่มีลักษณะเหลวข้นที่เรียกว่า โยเกิร์ต
นอกเหนือจากการนำโยเกิร์ตมาทานแล้ว เรายังสามารถใช้เพื่อบำรุงรักษาผิวให้ขาวใส และสารอาหารที่มีอยู่ในโยเกิร์ตช่วยบำรุงรักษาผิวของเราได้เป็นอย่างดี

วิธีการใช้ โยเกิร์ต เพื่อผิวขาว

โยเกิร์ตพอกหน้า หรือ เพียงอย่างเดียว
• นวดโยเกิร์ตให้ทั่วผิวเบาๆ 2-3 นาที แล้วปล่อยทิ้งไว้จนแห้ง
• ล้างออกด้วยน้ำอุ่น
• ทำตามขั้นตอนนี้ทุกวันเพื่อผิวขาวอย่างรวดเร็ว

โยเกิร์ตผสมน้ำผึ้ง
• ผสมโยเกิร์ต 1 ช้อนโต๊ะ กับ น้ำผึ้ง 1/2 ช้อนโต๊ะ ผสมให้เข้ากัน
• ทาให้ทั่วผิว
• ปล่อยทิ้งไว้ 15 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น
• ทำวิธีนี้ 3 ครั้งต่อสัปดาห์

การดูแลผิวหน้าให้แลดูอ่อนกว่าวัย

1. รักษาสุขภาพผิว

- ปกป้องผิวจากแสงแดด ทาครีมกันแดด มอยเจอร์ไรเซอร์ หรือเครื่องสำอางค์ ที่มีส่วนผสมของ SPF 15 ขึ้นไป เพื่อป้องกันผิวไม่ให้ดูแก่ก่อนวัย นอกจากนี้ ยังมีความเชื่อกันอีกว่า คนที่มีผิวเข้ม ผิวจะทนทานต่อแสงแดดได้ดีกว่าผิวขาว นอกจากนั้น ให้ระมัดระวังการออกกำลังกายภายใต้แดดแรง ๆ ไม่ว่าคุณจะมีสีผิวโทนใดก็ตาม

- อย่าให้ร่างกายขาดน้ำ เพราะน้ำทำให้ผิวนุ่มลื่น ผู้หญิงควรดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 9 แก้ว ในขณะที่ผู้ชายควรดื่มอย่างน้อยวันละ 13 แก้ว หลีกเลี่ยงการดื่มกาแฟ และแอลกอฮอล์ ซึ่งจะทำให้ร่างกายขาดน้ำ แต่หากคุณเป็นคนที่ต้องดื่มกาแฟ ก็ให้ดื่มน้ำตามหลังจากดื่มกาแฟ หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ด้วย

- ควบคุมอาหารอย่างสมดุลย์ การที่ผิวจะมีสุขภาพดีได้นั้น ต้องได้รับอาหารที่มีประโยชน์ รวมทั้งพวกไขมันดีต่าง ๆ อย่างเช่นกรดไขมันโอเมก้า 3 ปลา ไข่ ถั่ว นมเนย แต่ถ้าหากผิวหนังมีรูขุมขนกว้าง หยาบกระด้างมาก อาจจะต้องลองทดสอบอารหารที่ก่อให้เกิดอาการแพ้ดู

- อยู่ในสภาพอากาศที่ดี มีคุณภาพ เพราะผิวก็ต้องสัมผัสกับอากาศภายนอก นอกจากการหลีกเลี่ยงมลพิษแล้ว ก็ไม่ควรสูบบุหรี่ หรืออยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีผู้สูบบุหรี่ เพราะจะทำให้ผิวแห้งหยาบกร้าน หากหยุดการสูบบุหรี่ได้จะเห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่า ผิวนุ่มขึ้น นอกจากนั้น ควรจะให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวด้วยการหลีกเลี่ยงการอยู่ในสภาพอากาศแห้ง และใช้มอยเจอร์ไรเซอร์บำรุงผิว

2. การล้างหน้า

- หาผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่เหมาะกับสภาพผิว สบู่บางชนิดอาจะทำให้ผิวแห้ง และผิวหน้าก็มีความบอกบางกว่าผิวบริเวณอื่น ๆ ดังนั้น จึงควรใช้ผลิตภัณฑ์เพื่อผิวหน้าโดยเฉพาะเพื่อให้หน้านุ่มและมีสุขภาพดี อาจจะเลือกครีมล้างหน้า ที่มีมอยเจอร์ไรเซอร์ สำหรับผู้ที่มีผิวแห้ง แต่หากเป็นคนผิวมัน ก็เลือกคลีนเซอร์ สำหรับคนผิวมันโดยเฉพาะ และควรใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับการล้างเครื่องสำอางค์ ทำความสะอาดเครื่องสำอางค์ให้หมดทุกครั้ง

- ก่อนล้างหน้า ให้ล้างมือก่อนเสมอ เพราะนิ้วมือของเรานั้น มักจะสกปรกกว่าใบหน้า การล้างมือก่อน จะช่วยขจัดเชื้อโรค และแบคทีเรียออกไปก่อนที่เราจะสัมผัสกับผิวที่บอบบาง

- บีบคลีนเซอร์ลงที่นิ้วมือ แล้วแต้มที่ใบหน้าเป็นจุด ๆ จากนั้นก็นวดเป็นกลม วงเล็ก ๆ ให้ทั้วไบหน้า เน้นบริเวณทีโซน ได้แก่ หน้าผาก จมูก และคาง

-ล้างออกด้วยน้ำอุ่น จากนั้นก็ใช้น้ำในอุณภูมิปกติ ล้างให้ทั่วใบหน้าอีกครั้ง น้ำเย็น จะทำความสะอาดได้ไม่ดีเท่าน้ำอุ่น แต่น้ำร้อนก็ทำให้ผิวแห้งและทำให้ความนุ่มนวลลดน้อยลง

- เช็ดหน้าด้วยผ้าขนหนูแห้ง ค่อย ๆ ซับเบา ๆ ไม่ควรถูเพราะจะทำให้ผิวระคายเคืองและจะเป็นการเป็นการขจัดส่วนผสมที่ช่วยให้ผิวนุ่มนวล ที่มักจะมีการผสมลงไปในผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวนั้นออก

- ทามอยเจอร์ไรเซอร์ เพื่อให้ผิวนุ่ม ไม่แห้งตึง โดยหยดลงที่นิ้วมือก่อน แล้วแต้มเป็นจุด จากนั้นค่อย ๆ นวดวนเป็นวงกลม เช่นเดียวกับตอนใช้คลีนเซอร์ เน้นทาในจุดที่แห้งและหยาบกร้านเป็นพิเศษ

- ล้างหน้าอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง หลังตื่นนอนตอนเช้า และก่อนเข้านอน หากแต่งหน้า ต้องไม่ลืมที่จะล้างเครื่องสำอางค์ออกให้หมดก่อนนอนเสมอ การล้างหน้าบ่อยเกินไป ก็ทำให้เกิดความระคายเคืองได้เช่นกัน และยังเป็นการขจัดน้ำมันตามธรรมชาติออก ทำให้ผิวแห้ง กรณีที่เล่นกีฬา ว่ายน้ำ ออกกำลังกาย หรือมีเหงือ ก็ให้ล้างหน้า

3. ผลัดเซลผิว

- เลือกผลิตภัณฑ์ขัดผิวให้เหมาะกับสภาพผิว โดยทั่ว ๆไปแล้ว หากเราเป็นคนผิวมัน ก็ให้เลือกผลิตภัณฑ์ขจัดเซลผิว หรือขัดผิวประเภทที่เน้นการทำความสะอาดแบบล้ำลึก แต่ถ้าผิวแห้ง ก็ให้เลือกผลิตภัณฑ์อ่อน ๆ สำหรับผิวที่บอบบาง

- ใช้นิ้วมือค่อย ๆ นวดผลิตภัณฑ์ขัดผิว ที่บริเวณไบหน้าอย่างช้า ๆ นวดเป็นวงเช่นกัน บางคนอาจจะเลือกใช้ผ้าขนหนูไมโครไฟเบอร์นวดแทนมือ หรืออาจจะมีถุงมือเพื่อความสะดวก นอกจากนี้ ปัจจุบันยังมีอุปกรณ์ขัดผิวไฟฟ้า ส่วนมากมีขายตามซุปเปอร์มาร์เก็ต ในราคาไม่แพงนัก

- ล้างออกด้วยน้ำอุ่น อย่าใช้ผ้าเช็ดตัวถูใบหน้า เพราะอาจจะทำให้เกิดความระคายเคืองได้ เพราะผิวจะบางลง หลังจากที่ถูกขัดเซลเก่าออก

- ใช้มอยเจอร์ไรเซอต์ทาหลังการขัดผิว เพราะการขัดผิว ทำให้ไขมันบนใบหน้าแห้งไป ต้องรีบให้ความชุ่มชื้น โดยเฉพาะกับผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย

- ขัดผิวสักสัปดาห์ละ 2 ครั้ง เพื่อให้ผิวนุ่ม แต่ถ้าเป็นคนที่มีผิวบอบบางแพ้ง่ายการขัดผิวอาจจะผิวยิ่งแห้ง ไม่ควรทำบ่อย ๆ ให้ลองสังเกตุหาช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับตนเอง

4. การโกนขนบริเวณใบหน้า

- ต้องมั่นใจว่า ใบมีดที่นำมาใช้นั้นคม การโกนขนบนใบหน้านั้นอาจจะทำให้ผิวเกิดความระคายเคืองได้ และจะทำให้ผิวเป็นตะปุ่มตะป่ำไม่เรียบเนียน การโกนใบหน้านั้นแม้ผู้ที่ไม่มีขนบนใบหน้าก็อาจจะได้ประโยชน์ เพราะเป็นการกำจัดเซลที่ตายแล้วออกไป

- ใช้ผลิตภัณฑ์เตรียมความพร้อมสำหรับการโกน โดยนวดให้ทั่วบริเวณที่จะโกนขนออก โดยผลิตภัณฑ์พวกนี้ ก็มีให้เลือกหลากหลาย ทั้งแบบครีม แบบเจล แบบโฟม ซึ่งต้องเลือกให้เหมาะกับสภาพผิว

- ล้างใบมีดให้สะอาด อย่าปล่อยให้มีเส้นขนติดอยู่ เพราะจะทำให้มีดไม่คม และเมื่อนำมาใช้ ใบหน้าก็ไม่เรียบเนียน

- ล้างหน้าด้วยน้ำเย็น เพราะน้ำเย็นจะช่วยลดอาการระคายเคือง ปิดกระชับรูขุมขน ป้องกันผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นจากการโกน นอกจากนั้น ยังทำให้ผิวกระชับ และเส้นขนใหม่ไม่งอกออกมาเร็วเกินไป

- ใช้ผลิตภัณฑ์หลังการโกน ที่ปราศจากแอลกอฮอล์ ช่วยให้ผิวสดชื่น อาจจะเป็นโลชั่น หรือเจล ที่ช่วยเรื่องความชุ่มชื้นด้วยก็ได้ โลชั่นหลังการโกนบางชนิด ก็มีส่วนผสมที่ทำให้ผิวนุ่มขึ้น

สูตรมาส์กว่านหางจระเข้น้ำผึ้ง

เจลจากว่านหางจระเข้สด 2 ช้อนโต๊ะ + น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ

ว่านหางจระเข้ มีฤทธิ์ในการช่วยสมานผิว และรักษารอยแผลได้เป็นอย่างดี ทั้งยังช่วยลดน้ำมันในรูขุมขนได้อีกด้วย โดยว่านหางจระเข้นั้นมีส่วนประกอบเป็นน้ำถึง 90% จึงสามารถช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นให้กับผิวได้เป็นอย่างดี เมื่อนำน้ำผึ้งมาผสมด้วยแล้วนั้น จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวได้มากขึ้นไปอีก โดยที่ไม่ก่อให้เกิดความมันบนใบหน้าเพิ่มเติม
– วิธีทำ ใส่เจลจากว่านหางจระเข้สด 2 ช้อนโต๊ะ ตามด้วยน้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ ผสมให้เข้ากัน แล้วนำไปทาที่ผิวหน้า ทิ้งไว้ 20 – 30 นาที ล้างออกด้วยน้ำเปล่าแล้วซับให้แห้ง

แนะนำให้ทำแบบนี้ 3 – 4 ครั้งต่อสัปดาห์ เพื่อให้มีผิวที่เนียนนุ่มยิ่งขึ้น

ผิวขาวขึ้นได้อย่างเป็นธรรมชาติ ด้วยส้ม

สูตรบำรุงผิวหน้าด้วยส้ม

ในเปลือกส้ม มีสารบางชนิดที่มีคุณสมบัติช่วยให้ผิวขาวขึ้นได้อย่างเป็นธรรมชาติ แม้แต่การแก้ปัญหาสีผิวไม่เรียบเนียนสม่ำเสมอ จุดด่างดำและรอยสิว เปลือกส้มก็สามารถช่วยแก้ปัญหาผิวเหล่านี้ได้เป็นอย่างดี วิธีใช้คือ ให้นำเปลือกส้มสดมาขัดถูบนผิวหน้าอย่างเบามือ โดยขัดเบาๆ ประมาณ 15 นาที จากนั้นปิดรูขุมขนด้วยการล้างออกด้วยน้ำเย็นจัด ทำแบบนี้เป็นประจำก็จะทำให้เห็นผลลัพธ์ได้เร็วขึ้น หรือหากมีเวลามากกว่านั้นก็ให้นำเปลือกส้มมาใส่โถปั่น ใส่น้ำลงไปนิดหน่อย ปั่นให้พอละเอียดแล้วจึงนำมาพอกที่ใบหน้า ทิ้งไว้ 15 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด ก็จะให้ผลลัพธ์เช่นเดียวกันแถมจะช่วยลดการอักเสบของสิวด้วย เนื่องจากในเปลือกส้มมีสารที่ทำหน้าที่ต่อต้านเชื้อแบคทีเรียและเชื้อราอยู่ด้วย ไม่เพียงเท่านั้นหากนำเปลือกส้มมาผสมกับข้าวโอ๊ต, น้ำตาล และน้ำผึ้ง นำมาสครับหน้าเบาๆ แล้วล้างออก แค่นี้ผิวของคุณก็จะสดใสเปล่งปลั่งดูดีมีออร่าแล้ว

เคล็ดลับขาดไม่ได้ อยากผิวสวยต้อง จุด จุด จุด

อยากผิวสวยต้อง จุด จุด จุด ทาครีมกันแดดทุกวัน

ครีมกันแดดจะช่วยปกป้องผิวไม่ให้ไหม้ หรือคล้ำเสียจากแสงแดด สามารถช่วยป้องกันการเกิดฝ้า กระ จุดด่างดำ ชะลอการเกิดรอยเหี่ยวย่นบนผิว แต่จะต้องเลือกใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF ที่เหมาะสมกับการใช้งานนอกบ้าน หากต้องตากแดดตอนเช้า ครีมกันแดดควรใช้แค่ SPF 10-15 ก็เพียงพอแล้ว แต่หากต้องอยู่กลางแดดจ้าควรจะต้องหาครีมที่มีค่า SPF 50 ขึ้นไปมาใช้ และควรทาซ้ำทุก 1-2 ชั่วโมงเพื่อให้การปกป้องผิวจากรังสี UVA และ UVB ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพแท้จริงนั่นเองค่ะ

สูตรมะเขือเทศกับแตงกวา

มะเขือเทศกับแตงกวา

แตงกวาจะช่วยในเรื่องของการเติมความชุ่มชื้นให้กับผิว โดยให้นำมะเขือเทศและแตงกวาปั่นมาผสมรวมกันให้ละเอียดแล้วนำไปพอกหน้าทิ้งไว้ 15 – 20 นาทีจากนั้นล้างออกด้วยน้ำสะอาด จะเห็นผลได้ทันทีว่าผิวหน้ามีความชุ่มชื้น ดูอิ่มน้ำและอมชมพู

สูตรผิวสวยด้วยโยเกิร์ตรสธรรมชาติ

สูตรโยเกิร์ตรสธรรมชาติ

เป็นอีกสูตรหน้าใส ซึ่งจะช่วยลดสิวผดหรือสิวเม็ดเล็กๆ นอกจากนี้ ยังช่วยกำจัดเชื้อแบคทีเรีย และช่วยลดสาเหตุของการเกิดสิวได้เป็นอย่างดี ให้นำโยเกิร์ตรสธรรมชาติแบบแช่เย็นมาพอกหน้า จากนั้นให้นวดเบาๆ แล้วปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที ค่อยล้างหน้าให้สะอาด

การพอกหน้ารักษาสิว เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ควรหมั่นทำอย่างน้อย 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ ขึ้นอยู่กับแต่ละสภาพผิวหน้า และเมื่อพอกหน้าด้วยสูตรเหล่านี้เป็นประจำบ่อยๆ ก็จะช่วยให้ใบหน้าของเราไม่ต้องเจอกับสิวมากวนใจอีกเลยค่ะ

สปาเจ้าสาวด้วยสูตรขัดผิวเจ้าสาว มะขาม ทานาคา

 

มะขาม ทานาคา

สูตรขัดผิวเจ้าสาว มะขาม ทานาคา เป็นสูตรสปาเจ้าสาวที่จะทำให้ผิวกระจ่างใส และนุ่มเนียนมากขึ้น ซึ่งเจ้าทานาคาเป็นสมุนไพรที่หญิงสาวชาวพม่านิยมใช้ มีส่วนช่วยให้ผิวขาวเนียนนุ่ม และยังช่วยลดจุดด่างดำ และฝ้า มะขามเปียก มีฤทธิ์เป็นกรด AHA ช่วยทำให้ผิวขาว ลดริ้วรอย ช่วยให้ผิวเนียนนุ่มกว่าเดิม โดยมีส่วนผสม ดังนี้ ทานาคา 3 ช้อนโต๊ะ มะขามเปียกละลายน้ำแบบข้น 3 ช้อนโต๊ะ โยเกิร์ต 2 ช้อนโต๊ะ ขมิ้น 1 ช้อนชา น้ำผึ้ง 3 ช้อนชา เมื่อเตรียมส่วนผสมทุกอย่างเรียบร้อยแล้วก็เข้าสู่วิธีขัดผิวเจ้าสาว ด้วยการนำส่วนผสมทั้งหมดผสมและคนให้เข้ากัน จากนั้นนำมาขัดที่บริเวณผิวให้ทั่วทั้งเรือนร่างอย่างเบามือ ขัดวนไปมาโดยใช้ใยบวบ หรือฟองน้ำขัดผิวประมาณ 5 นาที จากนั้นทิ้งไว้ให้ส่วนผสมแห้งเป็นเวลา 30 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด

สมุนไพรไทยขัดผิว บำรุงผิวสวย

บำรุงผิวสวยตามแบบธรรมชาติ

1.มะหาด
มะหาดเป็นสมุนไพรที่ขึ้นชื่อในเรื่องการทำให้ผิวขาวกระจ่างใส ในมะหาดยังมีสารที่ช่วยยับยั้งการสร้างเมลานิน ที่เป็นเม็ดสีในผิว เมื่อจำนวนการผลิตเม็ดสีลดลง ก็จะทำให้ผิวขาวใสได้อย่างเป็นธรรมชาติ จัดว่าเป็นสูตรหน้าใสที่น่าลอง หากอยากมีผิวขาวกระจ่างใส ลองหาผงมะหาดมาใช้ขัดหน้าอย่างเป็นประจำจะทำให้หน้าใสอย่างแน่นอน

2.ทานาคา
สมุนไพรชนิดนี้มีต้นกำเนิดมาจากพม่า มีกลิ่นหอม มีสรรพคุณหลากหลาย โดยในทานาคามีสารต้านอนุมูลอิสระอยู่สูง จึงมีคุณสมบัติในการต่อต้านความแก่ให้แก่เซลล์ผิว ช่วยลดการเกิดสิวลงได้ ทานาคายังสามารถลดการเกิดจุดด่างดำและฝ้า มีฤทธิ์ลดการสร้างเม็ดสีเมลานิน ช่วยป้องกันความหมองคล้ำจากแสงแดด การขัดหน้าด้วยทานาคา จึงเป็นสูตรหน้าใสที่น่าสนใจ

3.ใบบัวบก
ใบบัวบกเป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณในการบำรุงผิวพรรณที่นับว่าดีต่อผิวอย่างมากทีเดียว ในบัวใบบกมีสารไกลโคไซด์ ที่มีส่วนช่วยในการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ทำให้ผิวเนียนนุ่มชุ่มชื้น  ป้องกันการเกิดริ้วรอย ช่วยกำจัดจุดด่างดำได้เป็นอย่างดี ทำให้ผิวขาวใส เป็นสูตรหน้าใสที่ทำได้ง่ายๆ เพียงแค่นำใบบัวบก 1 กำมือ ไปปั่นให้ละเอียด แล้วนำมาขัดหน้าแล้วพอกทิ้งไว้สักครู่ แล้วจึงล้างออกด้วยน้ำเปล่า เพียงแค่นี้ก็ทำให้ผิวหน้ากระจ่างใสได้แล้ว

4.มะขามป้อม
มะขามป้อมเป็นผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง นอกจากนี้ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่มีชื่อว่าเอมบลิคานิน มีคุณสมบัติที่ช่วยลดความหมองคล้ำของผิว ป้องกันผิวจากการถูกทำลายจากแสงแดด ชะลอความเสื่อมของเซลล์ผิว ช่วยต่อต้านเชื้อแบคทีเรีย ที่เป็นสาเหตุทำให้เกิดสิว มะขามป้อมยังมีเอนไซม์ที่ช่วยทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์กว่าวัย ดูเนียนนุ่มตลอดเวลา การมะขามป้อมขัดหน้า ถือว่าเป็นสูตรหน้าใส ที่ไม่ควรพลาด

สมุนไพรเพื่อความงามสำหรับผิวหน้า ❤❤❤❤

สมุนไพรเพื่อความงามสำหรับผิวหน้า

ใบหน้าเป็นอวัยวะสำคัญที่ทำให้คนจดจำ ผิวหน้า ที่ชุ่มชื้น เรียบเนียน มีความยืดหยุ่น (หรือที่เรียกกันว่าหน้าเด้ง) ไม่มีจุดด่างดำเป็นสิ่งที่ทุกคนปรารถนา  แต่ด้วยสภาพของวัยที่สูงขึ้น และมีโรคประจำตัวบางอย่าง  สภาพของวิถีชีวิต เช่น นอนดึก สูบบุหรี่ ดื่มสุรา เครียด เป็นต้น ทำให้คนเราไม่สามารถมีผิวเรียบเนียนเช่นนั้นได้ การใช้สมุนไพรร่วมกับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพจะส่งผลทำให้มีผิวพรรณที่ดีได้ยาวนาน

เคล็ดลับหน้าขาวใสด้วยน้ำมันมะพร้าว ❤

เคล็ดลับหน้าขาวใสด้วยน้ำมันมะพร้าว

นั่นก็คือการใช้น้ำมันมะพร้าวทาหน้า เพียงแค่สาวๆ ลองนำเคล็ดลับนี้ไปใช้กันเป็นประจำถ้าเป็นไปได้ควรทำให้ได้ทุกวันก่อนนอน รับรองได้ว่าคุณจะมีผิวหน้าเรียบเนียนและขาวใส อย่างที่ต้องการกันเลยค่ะ สูตรน้ำมันมะพร้าวทาหน้านี้เป็นสูตรที่ใช้กันมาตั้งแต่โบราณ วัสดุก็สามารถหาได้ไม่ยากในบ้านเรา แทบยังสามารถใช้ได้สำหรับผิวที่บอบบางแพ้ง่ายเพราะเป็นสารที่สกัดมาจากธรรมชาติ ว่าแล้วมาเริ่มกันเลยดีกว่าค่ะ โดยเริ่มจากทุกวันก่อนการเข้านอนให้ล้างหน้าให้สะอาดด้วยผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่ใช้กันอยู่ตามปกติ หลังจากล้างหน้าแล้วให้ซับหน้าด้วยผ้าขนหนูผืนนิ่มๆ เพียงเบาๆ จากนั้นให้ใช้น้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์ประมาณ 2-3 หยด เทลงบนฝ่ามือหรือใช้หยดลงบนสำลีก็ได้ ทาให้ทั่วผิวหน้า ขณะที่หน้ากำลังหมาดๆ นวดเพียงเบาๆ แล้วทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที แล้วล้างออกให้สะอาด

มะนาววิเศษ ขจัดสิวเสี้ยน สิวหัวดำ

ขจัดสิวเสี้ยน สิวหัวดำ

มะนาวมีสารที่เป็นแอนตี้แบคทีเรีย ที่สามารถช่วยรักษาเรื่องสิว ๆ ได้ เพียงแค่ผ่ามะนาวเป็นครึ่งซีก คั้นเอาน้ำมะนาวทาตรงจุดที่มีปัญหาจากสิว ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที ทำอย่างนี้เป็นประจำ เจ้าสิวตัวร้ายจะค่อย ๆ หลุดออกจนคุณไม่ทันได้สังเกตเลยล่ะ

สวย ใส ดั่งใจ ทาเซรั่มบำรุงผิว

ทาเซรั่มบำรุงผิว

          ขั้นตอนต่อไปก็คือการทาเซรั่มบำรุงผิว โดยให้หยดเซรั่มลงบนฝ่ามือ ตบ ๆ และทาลงบนผิวหน้าให้ทั่ว ซึ่งเนื้อเซรั่มจะซึมซาบลงสู่ผิวได้เร็ว ทำให้ช่วยบำรุงผิวได้อย่างล้ำลึก และสำหรับใครที่อยากจะบำรุงผิวให้ขาวกระจ่างใส เคล็ดลับคือแนะนำให้เลือกใช้เซรั่มสูตรไวท์เทนนิ่งบำรุงผิวเป็นประจำ อย่าง Olay White Radiance Light Perfecting Essence Serum ที่มีส่วนผสมของ Niacinamide (Vitamin B3) ช่วยให้ผิวแลดูกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้ ตัวนี้ไม่ใช่แค่ทำหน้าที่เซรั่มบำรุงผิวอย่างดียวเท่านั้น แต่ยังเป็นทั้ง Treatment, Day cream และ Night cream จบในขวดเดียว เรียกว่าไม่ได้ตอบโจทย์แค่เรื่องขาวใสเปล่งปลั่ง ยังช่วยลดเลือนริ้วรอย จุดด่างดำ รวมถึงช่วยเติมความชุ่มชื้น ดูแลผิวสวยได้แบบครบสูตรกันเลย

สูตรแตงกวาผสมน้ำผึ้งแท้

แตงกวาผสมน้ำผึ้งแท้

สูตรนี้ถือว่าเบสิคสุดๆ เพราะแค่นำเอาแตงกวาที่ปอกเปลือกเรียบร้อยแล้ว ปั่นเข้ากับน้ำผึ้งแท้ประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ ให้ได้เนื้อครีมที่เนียนละเอียด เอามา ขัดผิว หรือพอกผิวประมาณ 5-10 นาที แล้วจึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด สูตรนี้จะช่วยในเรื่องของการเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับผิว ทำให้ผิวมีความนุ่มน่าสัมผัส

ลดอาการบวมใต้ตาด้วยช้อน จริงหรือไม่

ทำอย่างไรเมื่อตาช้ำ ใช้ช้อนแช่เย็นประคบ ดีหรือไม่ 

การใช้ช้อนที่นำไปแช่เย็นมาประคบที่ตานั้น จะให้แค่ความสบาย ลดอาการบวม แต่ไม่ได้ช่วยให้รอยคล้ำรอบดวงตาหายไปแต่อย่างใด แต่ในกรณีที่เป็นแตงกว่า หรือมะเขือเทศที่นำไปแช่เย็นแล้วมาประคบตานั้นสามารถช่วยได้บ้าง แต่ไม่มากนัก เพราะภายในมีกรดที่เรียกว่า AHA ซึ่งช่วยผลัดเซลล์ผิว ทำให้กระจ่างใสขึ้น แต่เนื่องจากเราไม่สามารถกะจำนวนของ AHA ในผักและผลไม้ดังกล่าวได้ บางครั้งหากใช้ก็อาจทำให้เกิดอาการระคายเคืองได้เช่นกัน

กรณีรอยดำใต้ตานั้น มีหลายสาเหตุการเกิด หากเป็นตั้งแต่เกิดนั้นเกิดจากกรรมพันธุ์ เป็นเรื่องของเม็ดสีผิวในร่างกายจึงยากที่จะแก้ไขได้ หรือกลุ่มคนที่ไม่เคยขอบตาคล้ำมาก่อน แต่มีเกิดการขอบตาคล้ำเนื่องจากอาการแพ้ เช่น แพ้ครีม หรือจากการนำสิ่งต่างๆ มาประคบและเกิดการระคายเคือง เมื่อหายแล้วก็กลายเป็นรอยดำ กรณีสามารถแก้ไขให้หายได้

ทั้งนี้เนื่องจากบริเวณรอบดวงตามีความบอบบางมาก คุณหมอแนะนำว่าเวลาทาครีมบำรุงผิวหน้าควรเว้นที่บริเวณเปลืองตาและถุงใต้ตา และใช้อายครีมเพิ่มความชุ่มชื้น

ไขข้อข้องใจ เมโสหน้าใสคืออะไร

เมโสหน้าใสคืออะไร 

คำว่า “เมโส” มีที่มาอย่างไร…?
คือทางลัดในการนำส่วนผสมที่มีอยู่ในครีมต่างๆ โดยเฉพาะตัวที่ดูดซึมจากการทาได้ยาก มาทำให้สามารถฉีดเข้าในชั้นผิวได้โดยตรง และออกฤทธิ์ไวขึ้น จากปกติอาจใช้เวลาเป็นเดือน ทำให้เริ่มเห็นผลได้ใน1อาทิตย์หลังฉีด

คำว่าเมโส มาจากคำว่า meso แปลว่าตรงกลาง หมายถึงการฉีดลงใน “ชั้นกลางของผิว”

สูตรดูแลหน้าใส ง่ายๆ หลากหลายวิธี

ดูแลหน้าใส ง่ายๆ หลากหลายวิธี

 เช็ดสิ่งสกปรกบนใบหน้า

อยากมีผิวที่สวยใสต้องใส่ใจตั้งแต่ขั้นตอนแรกนะคะ ถึงแม้ว่าเราจะไม่แต่งหน้าแต่ก็เจอมลภาวะต่างๆ ฉะนั้นแล้วเราควรเช็ดสิ่งสกปรกและคราบเครื่องสำอางด้วย Cleanser หรือ Remover ก่อนเป็นอันดับแรก

 ทำความสะอาดผิวหน้า

หลังจากเช็ดสิ่งสกปรกออกหมดแล้ว เริ่มเข้าสู่ขั้นตอนการล้างหน้าได้เลยค่ะ แนะนำให้ใช้แบบ Cleansing นะคะ เพราะมีคุณสมบัติในการทำความสะอาดผิวได้อย่างล้ำลึก หมดจด

ปรับสภาพผิวก่อน การบำรุง

ใช้ Toner เช็ดทำความสะอาดผิวหน้าหลังล้างหน้า ขั้นตอนนี้จะเป็นการเตรียมผิวให้พร้อมเพื่อเข้าสู่การบำรุงผิวได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

 บำรุงผิวด้วย Serum 

เป็นการบำรุง ฟื้นฟูสภาพผิวได้อย่างล้ำลึก เพราะ Serum  มีคุณสมบัติในการซึมซาบเข้าสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว บางเบา ไม่เหนียวเหนอะหนะ ซึ่งสาวๆสามารถเลือกใช้สูตรที่เหมาะสมกับสภาพผิวหน้าได้เลยค่ะ

บำรุงผิวด้วยครีมบำรุง

เป็นขั้นตอนสำคัญที่จะบำรุงให้ผิวหน้าของเราแข็งแรง สดใส และกักเก็บความความชุ่มชื้น ได้เป็นอย่างดีค่ะ ฉะนั้นแล้วเราควรเลือกครีมบำรุงที่เหมาะกับสภาพผิวหน้า เช่น สาวผิวแห้งควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีมอยเจอร์ไรเซอร์ เพื่อให้ผิวดูชุ่มชื้น อิ่มน้ำ เป็นต้นค่ะ

ปกป้องผิวด้วยครีมกันแดด

นับว่าเป็นสิ่งที่เราละเลยไม่ได้เด็ดขาดค่ะ การทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวัน แม้ว่าสาวๆ จะไม่ได้ออกจากบ้านก็ตาม แต่แสงไฟในบ้านหรือแม้แต่แสงจากหน้าจอมือถือ ก็มีผลทำให้ผิวหน้าหมองคล้ำได้เช่นเดียวกันนะคะ

มาส์กบำรุงผิวหน้า

ความถี่ในการมาส์ก ใช้เพียงสัปดาห์ละ 1-2 ครั้งก็เพียงพอ เพียงเท่านี้ผิวหน้าของสาวๆก็จะดูสวยใสอย่างเป็นธรรมชาติ และช่วยให้เครื่องสำอางค์ติดทนนานอีกด้วยค่ะ แต่สำหรับการมาส์กหน้า ไม่ควรนำแผ่นมาส์กกลับมาใช้ซ้ำนะคะ เพราะอาจทำให้เกิดสิวได้นั่นเองค่ะ

สูตรมะม่วงสุกพอกหน้าใส

มะม่วงสุกพอกหน้าใส

 เพียงนำมะม่วงสุกมาล้างให้สะอาด แล้วใช้มีดปอกเปลือกออกให้หมด จากนั้นหั่นมะม่วงเป็นชิ้นบางๆ แล้วใช้ส้อมยีหรือเครื่องปั่นบดให้ละเอียดจนเป็นเนื้อครีมเหลวๆ จากนั้นนำมาพอกให้ทั่วใบหน้า เว้นบริเวณ รอบดวงตา และริมฝีปาก ทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำเย็นค่ะ สูตรนี้แนะนำทำสัปดาห์ละ 2 ครั้งค่ะ

ผิวหน้าสวยด้วยตำลึง

                                   ใบตำลึง

ตำลึงผักริมรั้วมากด้วยคุณค่า ช่วยลดการอักเสบ เพิ่มความชุ่มชื้น ทำให้ผิวหนังสดชื่น ป้องกันผิวจากอนุมิสอิสระ คนโบราณนิยมใช้ตำลึงเป็นสมุนไพรแก้สิวและพอกหน้าเพื่อทำให้ผิวหน้าสดใส

การเตรียมตำลึง

ควรเลือกแต่ใบตำลึงสด ถ้าใช้ตำลึงตัวผู้ โบราณว่าจะได้ผลกว่า
ตำลึงตัวเมีย และต้องล้างให้สะอาด ก่อนที่จะนำมาปั่นเป็นครีม
หรือคั้นเอาน้ำ

วิธีการใช้

1 ใช้ใบตำลึงสดคั้นเอาแต่น้ำ ชุบสำลีแปะบนหัวสิวสักครู่ ประมาณ 
5-10 นาที ล้างออกด้วยน้ำอุ่น ทำบ่อยๆ สิวอักเสบจะหายได้และ
ไม่มีรอยแผลจากหัวสิวด้วย


2 ใช้ใบตำลึงประมาณ 1 กำมือ น้ำสะอาด 2-3 ช้อนโต๊ะ ปั่นเข้าด้วย
กันจนเป็นครีม นำข้าวสาร ถ้าเป็นข้าวกล้องได้ก็ดี 2 ช้อนชาไปแช่น้ำจนนิ่มนำไปบดให้ละเอียด แล้วผสมกับครีมตำลึง 

นำไปพอกหน้าทิ้งไว้จนแห้งจึงล้างออก จะช่วยกำจัดพิษบนใบหน้า แก้สิว ทำให้ผิวหน้าชุ่มชื่น หรือหากไม่สะดวกในการเตรียมข้าวสาร จะใช้ครีมตำลึงอย่างเดียวก็ได้

สูตร รักษาฝ้าด้วยหัวไช้เท้า

 

สูตร รักษาฝ้าด้วยหัวไช้เท้า   หัวไช้เท้ามีสารไกลโคไซด์ ที่อุดมไปด้วยกรดแอสคอบิก และวิตามินเอ ซึ่งเคยมีผลวิจัยออกมาแล้วว่าช่วยลดเรื่องฝ้า กระ และจุดด่างดำได้อย่างชัดเจน 

สูตร 1 หัวไช้เท้า+น้ำผึ้ง
วิธีทำ นำหัวไช้เท้ามาบดผสมกับน้ำผึ้งเล็กน้อย แล้วนำมามาส์กหน้าให้ทั่ว หรือแต้มเฉพาะจุดที่เป็นฝ้าไว้ 15-20 นาที
สูตรนี้นอกจากจะช่วยลดฝ้าแล้วยังช่วยเติมความชุ่มชื่นให้กับผิวทำให้ผิวไม่แห้งลอก ไม่แสบแดง


สูตร 2 หัวไช้เท้า+มะนาว
วิธีทำ นำหัวไช้เท้าบดผสมกับน้ำมะนาวเล็กน้อย แต้มที่รอยฝ้าหรือมาส์กหน้าให้ทั่ว 15-20 นาที
สูตรนี้จะช่วยรักษาผ้าและช่วยลดความมันบนใบหน้า ทำให้หน้ากระจ่างใสขึ้นลดจุดด่างดำได้อย่างรวดเร็ว


สูตร 3 หัวไช้เท้า+นมสด
วิธีทำ นำหัวไช้เท้าบดผสมกับนมสด นำมามาส์กหน้าให้ทั่ว 15-20 นาที
สูตรนี้จะทำให้หน้าเนียนนุ่มชุ่มชื่น กระตุ้นการผลิตคอลลาเจนทำให้ผิวยืดหยุ่นและทำให้หน้าขาวใสขึ้นด้วย


สูตร 4 หัวไช้เท้า+ไข่ขาว
วิธีทำ นำหัวไช้เท้าบดผสมกับไข่ขาว นำมามาส์กหน้าให้ทั่ว 15-20 นาที
หัวไชเท้ารักษาฝ้า กระ ให้จางลง และไข่ขาวก็จะช่วยดูดซับสิ่งสกปรก สิวเสี้ยนออกจากใบหน้าได้ด้วย


สูตร 5 หัวไช้เท้า+ว่านหางจระเข้
วิธีทำ หนำหัวไช้เท้ามาบดและผสมกับวุ้นว่านหางจระเข้ พอกทิ้งไว้ 15-20 นาที
สูตรนี้ทำให้หน้าขาวใส ลดรอยฝ้ากระจุดด่างดำได้เป็นอย่างดี

ใส ใส สูตรพอกหน้าด้วยมะเขือเทศ 🍅🍅🍅🍅🍅🍅

สูตรพอกหน้าด้วยมะเขือเทศ

มะเขือเทศเป็นอาหารผิวชั้นดี ที่อุดมไปด้วยวิตามินซี เบต้าแคโรทีน และกรด AHA ที่ช่วยบำรุงผิวให้มี

สุขภาพดี เต่งตึง ไม่แห้งกร้าน ช่วยในการรักษาสิว ฝ้า กระ จุดด่างดำให้ลดลง ช่วยผลัดเซลล์ผิว เป็น

สูตรหน้าใสที่ทำได้ง่ายๆ โดยนำมะเขือเทศ 1 ลูก มาบดหรือปั่นให้ละเอียด นำมานวดใบหน้าให้ทั่ว พอก

หน้าทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที จากนั้นค่อยล้างหน้าด้วยน้ำอุ่นให้สะอาด และล้างน้ำเย็นปิดท้าย เพื่อกระชับ

รูขุมขน

หน้าใส 10 วิธี

วิธีทําให้หน้าใส 10 วิธี

 1. รับประทานอาหารที่มีคุณค่าและดื่มน้ำสะอาดมาก ๆ อย่างน้อยวันละ 8 แก้ว สำหรับสาว ๆ ทั้งหลายที่เป็นสิวอยู่ ควรหลีกเลี่ยงของมันทุกชนิด แล้วเปลี่ยนมารับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อผิว อย่างผักสดและผลไม้ เช่น ส้ม ฝรั่ง กล้วย กีวี มะนาว มะเขือเทศ เป็นต้น

     2. ทำทรีทเม้นท์ผิวหน้า เพื่อฟื้นฟูและบำรุงไปพร้อม ๆ กัน อ๊ะ ๆ อย่าคิดว่ากำลังแนะนำให้สาว ๆ ไปทำทรีทเม้นท์ราคาแพง ๆ นะคะ เพราะนั่นไม่จำเป็นเลย ทรีทเม้นท์นั้นสามารถทำได้เองง่าย ๆ ที่บ้าน เช่น การพอกหน้าด้วยไข่ขาว หรือดินสอพองผสมมะนาว แค่นี้ก็ถือว่าเป็นทรีทเม้นท์ได้แล้วล่ะค่ะ แต่อย่าลืมล้างหน้าให้สะอาดหลังพอกหน้าทุกครั้งนะคะ

     3. หลังจากล้างหน้าทุกครั้ง ควรทาครีมบำรุงผิว เพื่อทดแทนความชุ่มชื่นที่เสียไปจากการล้างหน้า โดยหลัก ๆ จะมีเดย์ครีมและไนท์ครีม ซึ่งเดย์ครีมจะเป็นครีมบำรุงผิวหน้าสำหรับทาตอนกลางวัน ส่วนใหญ่จะมีสารป้องกันแสงแดดจากรังสียูวีในระหว่างวัน ส่วนไนท์ครีม ใช้สำหรับบำรุงผิวยามค่ำคืน

     4. นวดหน้าด้วยน้ำมัน การนวดหน้าด้วยน้ำมันฟังแล้วเหมือนจะเป็นวิธีที่ทำให้เกิดสิว แต่ความจริงไม่ใช่เลยค่ะ การนวดหน้าด้วยน้ำมันนั้นจะทำให้ผิวหน้าได้ผ่อนคลาย ซึ่งน้ำมันที่ใช้ในการนวดหน้านั้น ได้แก่ น้ำมันลาเวนเดอร์ หรือ เป๊ปเปอร์มินท์

     5. ทำความสะอาดรูขุมขนด้วยไอน้ำ สัปดาห์ละ 2 ครั้ง ซึ่งวิธีการทำนั้นก็ง่ายมาก ๆ เพียงนำน้ำเดือดมาตั้งแล้วยื่นหน้าไปอังให้ไอน้ำทำความสะอาดใบหน้าคุณ ไอน้ำจะช่วยเปิดรูขุมขนให้สิ่งสกปรกที่ตกค้างหลุดออกมาค่ะ

     6. พอกหน้า ช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับการพอกหน้า คือ หลังจากคุณอบไอน้ำใบหน้าแล้ว เพราะเป็นช่วงที่รูขุมขนคุณเปิด ทำให้มาส์กพอกหน้าซึมซับเข้าไปบำรุงผิวภายในได้ง่ายกว่าช่วงเวลาอื่น แต่หลังจากพอกหน้าแล้ว อย่าลืมล้างหน้าให้สะอาดอีกครั้งด้วยนะคะ

     7. อย่าขัดหน้าหรือสครับผิวหน้าบ่อยเกินไป แม้ว่าการขัดหน้าหรือสครับผิวหน้าจะทำให้คุณรู้สึกได้ถึงความสะอาดของผิวก็ตามที แต่การขัดหน้าหรือสครับผิวหน้าบ่อย ๆ นั้นจะไปกระตุ้นให้ผิวผลิตความมันออกมามากขึ้น และทำให้เกิดสิวได้ง่าย ความถี่ของการขัดหน้าหรือสครับผิวหน้าที่เหมาะสมอยู่ที่สัปดาห์ละ 2 ครั้งเท่านั้นนะจ๊ะสาว ๆ

     8. หากคุณเป็นคนชอบแต่งหน้า ควรเช็ดทำความสะอาดเครื่องสำอางออกจากผิวหน้าทุกครั้งก่อนล้างหน้า และไม่ควรเข้านอนโดยที่ยังไม่ได้ล้างหน้า ที่สำคัญ ควรทำความสะอาดแปรงแต่งหน้าเป็นประจำ อาจจะสัปดาห์ละครั้งหรือเดือนละ 2 ครั้งก็ไม่ว่ากัน แต่อย่าใช้งานติดต่อกันนานเป็นปีโดยไม่ซักล้าง เพราะมันสะสมสิ่งสกปรกได้ดีเลยทีเดียว

     9. ยิ้มเพื่อหน้าใส แน่นอนว่าการหมั่นทำอารมณ์ให้ดีอยู่เสมอ มองโลกในแง่ดี จะช่วยลดความเครียดที่เป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดสิวได้ ดังนั้น หันมายิ้มเยอะ ๆ กันนะจ๊ะสาว ๆ เพราะนอกจากจะทำให้สิวขึ้นได้ยากแล้ว อารมณ์ที่ดียังทำให้หน้าไม่แก่ก่อนวัยอีกด้วย

     10. ออกกำลังกายเป็นประจำทุกวัน หรือวันเว้นวัน อย่างน้อยวันละ 30 นาที สามารถช่วยให้คุณมีสุขภาพผิวที่ดี ดูเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวล ผุดผ่องสดใส แถมยังทำให้มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงอีกด้วย ทั้งนี้ อย่าลืมนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ วันละ 8 ชั่วโมงเป็นอย่างต่ำด้วยนะคะ

5 วิธีการฟื้นบำรุงผิวอย่างเป็นธรรมชาติ

สูตรความงามจากแตงกวา

1.แตงกวาผสมมะนาวและไข่ขาว
สูตรหน้าใสแรกที่เรานำมาฝากกันก็คือ การนำเอาแตงกวาที่ปอกเปลือกและปั่นจนละเอียด ผสมกับมะนาวและไข่ขาว จากนั้นนำมาพอกตัวหรือบริเวณผิวที่ต้องการบำรุงเป็นพิเศษ ทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที แล้วจึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด สูตรนี้จะช่วยให้ผิวมีความกระจ่างใสมากขึ้น และช่วยปรับผิวแห้งกร้านให้กลับมานุ่มขึ้นได้ แนะนำให้ทำเป็นประจำเพื่อผลลัพธ์ที่เห็นได้ชัดเจน



2.แตงกวาผสมน้ำผึ้งแท้และโยเกิร์ต
สูตรนี้ให้สับแตงกวาที่ปอกเปลือกแล้วให้ละเอียด คั้นเอาน้ำแตงกวาออก จากนั้นเอาแต่เนื้อแล้วนำไปผสมเข้ากับน้ำผึ้งแท้และโยเกิร์ต เมื่อผสมจนเป็นเนื้อเดียวกันให้เอามาขัดผิวแต่เพียงเบาๆ หรือหากจะพอกผิวควรพอกทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที แล้วจึงล้างออกให้สะอาด ความพิเศษของสูตรนี้คือช่วยเร่งการผลัดเซลล์ผิวใหม่ ส่งผลทำให้ผิวมีความสว่างมากขึ้น


3.แตงกวาผสมน้ำผึ้งแท้
สูตรนี้ถือว่าเบสิคสุดๆ เพราะแค่นำเอาแตงกวาที่ปอกเปลือกเรียบร้อยแล้ว ปั่นเข้ากับน้ำผึ้งแท้ประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ ให้ได้เนื้อครีมที่เนียนละเอียด เอามาขัดผิวหรือพอกผิวประมาณ 5-10 นาที แล้วจึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด สูตรนี้จะช่วยในเรื่องของการเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับผิว ทำให้ผิวมีความนุ่มน่าสัมผัส



4.แตงกวาผสมกับน้ำมะนาวแท้
เป็นอีกสูตรที่ช่วยในเรื่องการปรับผิวให้ กระจ่างใส เพียงนำเอาแตงกวาปอกเปลือก 2 ลูก และน้ำมะนาวแท้ 1 ผล นำมาปั่นให้ละเอียด จากนั้นเอามาขัดผิวแต่เพียงเบาๆ ไม่แนะนำให้ขัดแรงจนเกินไปเพราะอาจทำให้ผิวเป็นแผลได้ หรือหากจะพอกก็ควรพอกทิ้งไว้ประมาณ 5-10 นาทีเท่านั้น แล้วจึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด วิธีนี้ยังมีความพิเศษตรงที่ช่วยลดความมันที่เกิดกับผิวได้อีกด้วย


5.แตงกวาผสมมะเขือเทศและมะนาว
สูตรนี้ช่วยลดความหมองคล้ำของผิวได้เป็นอย่างดี เพียงนำแตงกวาปอกเปลือก มะเขือเทศ และน้ำมะนาวแท้ ปั่นเข้าด้วยกันให้ได้เนื้อละเอียด เอามาขัดผิวหรือพอกทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที ล้างออกด้วยน้ำสะอาด แค่นี้ก็ช่วยปรับผิวหมองคล้ำให้กลับมาขาวใสอย่างเป็นธรรมชาติได้แล้ว

หน้าเด็กได้ง่ายๆ ด้วย เคล็ดลับในการดูแลผิว

          

     ทั้งนี้เชื่อว่าหลายคนมีการบำรุงผิวกันอยู่แล้ว แต่อาจจะมีการบำรุงที่ผิดขั้นตอนและผิดวิธี ฉะนั้นเพื่อความเข้าใจที่ถูกต้อง วันนี้เรามีขั้นตอนการดูแลผิวหน้ามาฝากกันค่ะ รับรองว่าผิวหน้าจะขาวกระจ่างใสและสุขภาพดีอย่างแน่นอน

1  เช็ดสิ่งสกปรกบนใบหน้า
อยากมีผิวที่สวยใสต้องใส่ใจตั้งแต่ขั้นตอนแรกนะคะ ถึงแม้ว่าเราจะไม่แต่งหน้าแต่ก็เจอมลภาวะต่างๆ ฉะนั้นแล้วเราควรเช็ดสิ่งสกปรกและคราบเครื่องสำอางด้วย Cleanser หรือ Remover ก่อนเป็นอันดับแรก


 2  ทำความสะอาดผิวหน้า
หลังจากเช็ดสิ่งสกปรกออกหมดแล้ว เริ่มเข้าสู่ขั้นตอนการล้างหน้าได้เลยค่ะ แนะนำให้ใช้แบบ Cleansing นะคะ เพราะมีคุณสมบัติในการทำความสะอาดผิวได้อย่างล้ำลึก หมดจด


 3 ปรับสภาพผิวก่อน การบำรุง
ใช้ Toner เช็ดทำความสะอาดผิวหน้าหลังล้างหน้า ขั้นตอนนี้จะเป็นการเตรียมผิวให้พร้อมเพื่อเข้าสู่การบำรุงผิวได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

4 บำรุงผิวด้วย Serum 
เป็นการบำรุง ฟื้นฟูสภาพผิวได้อย่างล้ำลึก เพราะ Serum  มีคุณสมบัติในการซึมซาบเข้าสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว บางเบา ไม่เหนียวเหนอะหนะ ซึ่งสาวๆสามารถเลือกใช้สูตรที่เหมาะสมกับสภาพผิวหน้าได้เลยค่ะ


5 บำรุงผิวด้วยครีมบำรุง
เป็นขั้นตอนสำคัญที่จะบำรุงให้ผิวหน้าของเราแข็งแรง สดใส และกักเก็บความความชุ่มชื้น ได้เป็นอย่างดีค่ะ ฉะนั้นแล้วเราควรเลือกครีมบำรุงที่เหมาะกับสภาพผิวหน้า เช่น สาวผิวแห้งควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีมอยเจอร์ไรเซอร์ เพื่อให้ผิวดูชุ่มชื้น อิ่มน้ำ เป็นต้นค่ะ


 6 ปกป้องผิวด้วยครีมกันแดด
นับว่าเป็นสิ่งที่เราละเลยไม่ได้เด็ดขาดค่ะ การทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวัน แม้ว่าสาวๆ จะไม่ได้ออกจากบ้านก็ตาม แต่แสงไฟในบ้านหรือแม้แต่แสงจากหน้าจอมือถือ ก็มีผลทำให้ผิวหน้าหมองคล้ำได้เช่นเดียวกันนะคะ


7 มาส์กบำรุงผิวหน้า
ความถี่ในการมาส์ก ใช้เพียงสัปดาห์ละ 1-2 ครั้งก็เพียงพอ เพียงเท่านี้ผิวหน้าของสาวๆก็จะดูสวยใสอย่างเป็นธรรมชาติ และช่วยให้เครื่องสำอางค์ติดทนนานอีกด้วยค่ะ แต่สำหรับการมาส์กหน้า ไม่ควรนำแผ่นมาส์กกลับมาใช้ซ้ำนะคะ เพราะอาจทำให้เกิดสิวได้นั่นเองค่ะ

สูตรสครับผิวสวยด้วยแตงกวา

                    สูตรสครับผิวสวยด้วยแตงกวา 

แตงกวา + น้ำมะนาว

สูตรสครับผิว พอกผิวสวย ในแบบธรรมชาตินั้น สาวๆ รู้ดีว่าเป็นสูตรที่ปลอดภัย ไร้ผลข้างเคียงแถมยังเป็น สูตรความงาม ในราคาประหยัด 
มีงบไม่ต้องแพงมากก็สามารถเนรมิต สูตรสครับและพอกผิว ในตัวได้
อย่างง่ายดาย

ปอกเปลือกแตงกวาแล้วหั่นเป็นชิ้นๆ ปั่นรวมกับน้ำมะนาว 1 ลูก จนได้ส่วนผสมที่ละเอียดกลายเป็นเนื้อเดียวกัน

จากนั้นนำมา สครับลงบนผิวหน้าและผิวกาย อย่างเบามือ หลังจากสครับเสร็จแล้วก็พอกผิวทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที

จากนั้นล้างออกให้สะอาด สำหรับสูตรนี้แนะนำให้ทำเป็นประจำทุกสัปดาห์ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 ครั้ง

เพราะกรดจากน้ำมะนาวจะช่วยกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิว ทำให้ผิวขาวกระจ่างใสขึ้น และแตงกวายังบำรุงผิวให้นุ่มชุ่มชื้นเปล่งปลั่งอีกด้วย

โดยเฉพาะการใช้สูตรพอกหน้าแตงกวานั้น สาวผิวมันทั้งหลาย ปัญหาผิวมันเยิ้มจะลดน้อยลงอย่างมากทีเดียว

อยากมีผิวขาวกระจ่างใสนวลเนียนอย่างเป็นธรรมชาติ สาวๆ รู้ดีว่าเราจะต้องหมั่นขัดผิว หรือสครับผิวเป็นประจำนั่นเอง

สูตรลับดีๆ จากธรรมชาติที่ทำง่าย อยากสวยในราคาสุดประหยัด รู้แล้วก็อย่าลืมทำตามกันทุกสัปดาห์นะคะสาวๆ

แครอท ผิวสวย ใบหน้าขาวกระจ่างใส

           แครอท ผิวสวย ใบหน้าขาวกระจ่างใส 

แครอท เป็นผักที่ใช้ประกอบอาหารสุขภาพในหลายประเทศ
ทั่วโลก ซึ่งเมืองไทยเราก็ปลูกได้ดีในแถบภาคเหนือ การดื่มน้ำแครอทเป็นประจำเป็น ประโยชน์กับสุขภาพร่างกาย อย่างมากที
เดียวเพราะแครอทอุดมไปด้วยเบต้าแคโรทีนที่ร่างกายต้องการ

เพื่อเปลี่ยนเป็นวิตามินเอ ช่วยบำรุงสายตา ช่วยเสริมประสิทธิภาพของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ทั้งยังมีวิตามินบี 1 วิตามินบี 2 
วิตามินซี เหล็ก แคลเซียมฟอสฟอรัส ไนอาซิน มีสารต้านอนุมูลอิสระ 

ป้องกันการเกิดมะเร็ง แถมยังมีสรรพคุณที่ดีต่อผิวหนัง คือช่วยทำให้ผิวพรรณแข็งแรง เพื่มความยืดหยุ่นของผิว ช่วยกระชับรูขุมขน ชะลอการเกิดริ้วรอย ทำให้ผิวชุ่มชื้นสดใส

สูตรครีมขัดผิวจากแครอท

แครอทสดหั่นชิ้นเล็ก 1 ถ้วย
แครอทต้มสุก 1 ถ้วย
น้ำมะขามเปียก 2 ถ้วย
นมสด 1/2 ถ้วย

นำส่วนผสมทั้งหมดปั่นให้ละเอียด แล้วนำมาขัดผิวและพอกตัว ทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที แล้วจึงล้างออก ทำสัปดาห์ละครั้ง

สูตรครีมบำรุงผิวจากแครอท

แครอทต้มสุก 1/2 ถ้วย
โยเกิร์ต 2 ถ้วย
น้ำส้ม 2 ช้อนชา
น้ำมันมะพร้าว 2 ช้อนชา


นำส่วนผสมทั้งหมดปั่นรวมกันเป็นเนื้อครีม ทาครีมแครอทให้ทั่วหน้า นวดเบาๆ ด้วยปลายนิ้วประมาณ 2-3 รอบ พอกทิ้งไว้ 20 นาที จึงล้างออก ทำสัปดาห์ละครั้งจะช่วยทำให้ผิวหน้าเปล่งปลั่ง ลบเลือนริ้วรอยได้นะคะ

มาสก์หน้านมจืด กระจ่างใส เนียนนุ่ม

มาสก์หน้า นมจืด กับสำลีแผ่น 

          นำนมจืดมาเทใส่ถ้วย จากนั้นใช้สำลีแผ่นบาง ๆ มาชุบกับน้ำนมแล้วนำขึ้นมาแปะให้ทั่วใบหน้า เหมือนทำเป็นแผ่นมาสก์หน้า เสร็จแล้วให้พักทิ้งไว้จนสำลีแห้งหมาด ๆ หรือประมาณ 30 นาที แล้วค่อย ๆ แกะออก นำนมสดที่เหลือมานวดหน้าอีกครั้ง แล้วล้างหน้าให้สะอาดด้วยน้ำเย็น สูตรนี้จะช่วยทั้งเรื่องความกระจ่างใส เนียนนุ่ม และช่วยให้รูขุมขนกระชับขึ้นด้วยค่ะ

เคล็ดไม่ลับผิวสวยการบำรุงผิวหน้าก่อนนอน

ขั้นตอนการบํารุงผิวหน้าก่อนนอน❤💙❤💙

1. เช็ดเครื่องสำอางบนใบหน้าให้สะอาดด้วยคลีนซิ่ง

          อันดับแรกของขั้นตอนการบํารุงผิวหน้าก่อนนอนก็คือ ควรเช็ดหน้าและล้างเครื่องสำอางบนใบหน้าให้สะอาด โดยการใช้ "คลีนซิ่ง" เริ่มจากใช้สำลีชุปอายรีมูฟเว่อร์เช็ดเครื่องสำอางบริเวณช่วงตาให้สะอาดก่อน ไม่ว่าจะเป็นอายแชโดว์ อายไลเนอร์ และมาสคาร่า เป็นต้น เสร็จแล้วให้ใช้คลีนซิ่งชุปสำลีเช็ดบริเวณใบหน้าที่เหลือทั้งหมด เพื่อทำความสะอาดเครื่องสำอางที่อยู่บนใบหน้าให้หมดจด

2. มาสก์หน้า หรือสครับผิวหน้า

          สำหรับขั้นตอนนี้ถือเป็น วิธีดูแลผิวหน้าให้ใส ซึ่งสาว ๆ ควรทำอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง ครั้งละประมาณ 10-20 นาที ไม่ว่าจะเป็นการมาสก์หน้า หรือสครับผิวหน้า อย่างใดอย่างหนึ่งหรือจะทำสลับกันอาทิตย์ละอย่างก็ได้ค่ะ ทั้งนี้การมาสก์หน้าจะช่วยลดสิวเสี้ยน และลดการอุดตันของผิว ส่วนการสครับผิวหน้าจะช่วยขัดสิวเสี้ยนและเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดออก ทำให้ผิวขาวกระจ่างใส หน้าเนียน และไร้สิวเสี้ยนมากวนใจนั่นเอง

3. ล้างหน้าด้วยโฟมล้างหน้า

          สำหรับขั้นตอนสุดท้ายของการทำความสะอาดใบหน้าก็คือการล้างหน้าด้วย "โฟมล้างหน้า" ควรเลือกใช้โฟมล้างหน้าที่เหมาะกับสภาพผิว ล้างหน้าได้สะอาดหมดจด และหลังล้างไม่ทำให้รู้สึกว่าหน้าแห้งตึง ซึ่งจะช่วยลดการเกิดริ้วรอยก่อนวัย ทั้งนี้วิธีการล้างหน้าสาว ๆ ควรนวดโฟมล้างหน้าไปตามแนวรูขุมขน ไม่ควรนวดย้อนแนวรูขุมขน จะช่วยทำให้ล้างหน้าได้สะอาดและสิ่งสกปรกไม่อุดตันได้ค่ะ

4. ทาเอสเซนต์แบบน้ำ หรือเช็ดด้วยโทนเนอร์

          หลังจากล้างหน้าสะอาดแล้ว ก็เข้าสู่สเต็ปการบำรุงผิว โดยให้เริ่มจากใช้เอสเซนต์แบบน้ำทาลงบนผิวหน้า หรือเช็ดหน้าด้วยโทนเนอร์อย่างใดอย่างหนึ่ง ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการเตรียมผิวให้พร้อมก่อนการบำรุงด้วยครีมตัวอื่น ๆ นั่นเอง สำหรับเอสเซนต์หรือโทนเนอร์นั้นควรเลือกใช้สูตรที่ช่วยเรื่องความกระจ่างใส จะช่วยทำให้หน้าขาวเร็วขึ้นได้ด้วยนะคะ


5. ทาเซรั่มบำรุงผิว

          ขั้นตอนต่อไปก็คือการทาเซรั่มบำรุงผิว โดยให้หยดเซรั่มลงบนฝ่ามือ ตบ ๆ และทาลงบนผิวหน้าให้ทั่ว ซึ่งเนื้อเซรั่มจะซึมซาบลงสู่ผิวได้เร็ว ทำให้ช่วยบำรุงผิวได้อย่างล้ำลึก และสำหรับใครที่อยากจะบำรุงผิวให้ขาวกระจ่างใส เคล็ดลับคือแนะนำให้เลือกใช้เซรั่มสูตรไวท์เทนนิ่งบำรุงผิวเป็นประจำ อย่าง Olay White Radiance Light Perfecting Essence Serum ที่มีส่วนผสมของ Niacinamide (Vitamin B3) ช่วยให้ผิวแลดูกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้ ตัวนี้ไม่ใช่แค่ทำหน้าที่เซรั่มบำรุงผิวอย่างดียวเท่านั้น แต่ยังเป็นทั้ง Treatment, Day cream และ Night cream จบในขวดเดียว เรียกว่าไม่ได้ตอบโจทย์แค่เรื่องขาวใสเปล่งปลั่ง ยังช่วยลดเลือนริ้วรอย จุดด่างดำ รวมถึงช่วยเติมความชุ่มชื้น ดูแลผิวสวยได้แบบครบสูตรกันเลย


6. ทาอายครีม

          เนื่องจากผิวบริเวณรอบ ๆ ดวงตามีความบอบบาง และต้องการการดูแลเป็นพิเศษ ดังนั้นจึงควรเลือกใช้ครีมสูตรอ่อนโยนสำหรับผิวรอบ ๆ ดวงตาโดยเฉพาะ หรือที่รู้จักกันในชื่อ "อายครีม" นั่นเอง ซึ่งวิธีการใช้ให้ค่อย ๆ แตะเนื้อครีมอย่างเบามือที่บริเวณใต้ตา หรือทาจากทิศทางหัวตาไปยังหางตา เพื่อป้องกันการเกิดริ้วรอยตามมา

7. ทาครีมบำรุงผิวหน้า

          สำหรับขั้นตอนนี้จะเป็นวิธีบํารุงผิวหน้าให้ชุ่มชื่น สาว ๆ ควรเลือกใช้ครีมสูตรไนท์ครีมหรือครีมสำหรับทากลางคืนโดยเฉพาะ เนื่องจากไนท์ครีมจะมีมอยส์เจอร์ไรเซอร์เป็นส่วนประกอบหลัก ทำให้ผิวมีความชุ่มชื่น ซึ่งจะช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยได้ดี อีกทั้งยังจะช่วยให้ผิวซ่อมแซมและฟื้นฟูตัวเองได้อย่างเต็มที่ในเวลานอนอีกด้วย ทั้งนี้นอกจากทาครีมที่หน้าแล้ว อย่าลืมทาบริเวณคอด้วยนะคะ

8. ทายาแต้มสิว

          สำหรับคุณสาว ๆ ที่หน้าเป็นสิว หลังจากบำรุงผิวหน้าด้วยขั้นตอนต่าง ๆ ครบแล้ว ให้ปิดท้ายด้วยการใช้ยาแต้มสิว แต้มใบหน้าบริเวณที่เป็นสิวทุกครั้ง ซึ่งจะช่วยให้สิวยุบและหายได้เร็วขึ้นค่ะ


9. ทาลิปบาล์มที่ริมฝีปาก

          สุดท้ายหลังจากบำรุงผิวหน้าเสร็จสรรพครบทุกขั้นตอนแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่จะละเลยไม่ได้ก่อนนอน นั่นก็คือการบำรุงริมฝีปากด้วย "ลิปบาล์ม" นั่นเอง หรือจะใช้เจลปิโตรเลียมก็ได้ค่ะ ทั้งนี้ก็เพื่อบำรุงริมฝีปากให้ชุ่มชื่นตลอดคืน อีกทั้งยังจะช่วยป้องกันปากแห้ง ลอก และแตกเป็นขุยได้ดีอีกด้วย