คาสิโนออนไลน์

คาสิโนออนไลน์
คาสิโนออนไลน์

Sunday, July 28, 2019

วิธีดูแลผิวตามวัยให้สดใสตลอดการ



ดูแลผิวให้ถูกต้องตามวัย

 การดูแลผิวอย่างถูกต้องตามวัยและตามสภาพผิวอย่างนุ่มนวลจะช่วยทำให้ผิวสวยและคงความอ่อนเยาว์ได้ อย่างเช่น
เมื่อเข้าสู่วัยรุ่น จะเป็นวัยที่มีสิวมาก ควรหาวิธีขจัดความมันและรักษาสิวให้ถูกวิธีเพื่อไม่ให้เกิดรอยแผลเป็นจากสิว
เมื่อย่างเข้าวัย 20 ปี ควรจะดูแลผิวด้วยการพอกและขัดอย่างสม่ำเสมอทุกสัปดาห์ เพื่อทำความสะอาดและเพิ่มเติมสารอาหารบำรุงผิว พร้อมปกป้องผิวจากแสงแดดด้วยการทาครีมกันแดด
เมื่อย่างเข้าสู่วัย 30 ปี ผิวหนังจะเริ่มแห้งเหี่ยว มีน้ำมันออกมาตามผิวน้อยลง คุณควรเปลี่ยนไปใช้เครื่องสำอางให้เหมาะสม เช่น เครื่องสำอางที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ มีสารเพิ่มคอลลาเจน ฯลฯ และหมั่นกินอาหารที่มีวิตามินซีจากธรรมชาติทุกวัน
เมื่อย่างเข้าสู่วัย 40 ปี ผิวหนังจะแห้งลงมากและพบริ้วรอยมากขึ้น คุณควรใช้ครีมบำรุงที่อุดมไปด้วยน้ำมันเพื่อช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวได้อย่างยาวนาน
ในวัยย่างเข้า 50 ปี ผิวหนังจะหยุดการสร้างคอลลาเจน จนเกิดความหย่อนคล้อยของผิวได้อย่างชัดเจน คุณควรดูแลผิวด้วยการนวดหน้า กินอาหารให้ครบทุกหมู่ ทาครีมบำรุงผิวที่อุดมไปด้วยน้ำมันจากธรรมชาติและสารเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว เพื่อช่วยเพิ่มความยืดหยุ่น ทำให้ผิวหนังดีขึ้นและชะลอการเสื่อมโทรมลงได้มาก บาคาร่า 
ในวัย 60 ปีขึ้นไป ซึ่งเป็นวัยชราที่จะมีริ้วรอยเกิดขึ้นมาก คุณควรปลงในเรื่องสังขาร พยายามทำใจให้ได้ ไม่ต้องไปตกแต่งหรือทำศัลยกรรม หมั่นทำจิตใจให้ผ่อนคลาย ทำบุญ เข้าวัด ฯลฯ โดยที่ยังคงใช้ครีมบำรุงผิว นวดหน้า และดูแลผิวพรรณอยู่เช่นเดิม เพื่อเพิ่มความสง่างามได้ตามวัย

ขอบคุณแหล่งที่มา https://medthai.com

Friday, July 26, 2019

ขาหนีบดำทำไงดี?

ปัญหาขาหนีบดำ

ปัญหาขาหนีบดำหรือง่ามขาดำแม้ว่าจะดูเป็นเรื่องเล็ก ๆ ในที่ลับก็ตาม แต่ใครเลยจะรู้ว่าหากความดำมาเยือนขาหนีบแล้ว มันก็ทำให้สูญเสียความมั่นใจได้มากเลยทีเดียว โดยเฉพาะกับสาวสุดเปรี้ยวที่ชอบนุ่งบิกินี่ตัวจิ๋วหรือใส่ชุดว่ายน้ำก็มักจะเกิดอาการหวั่น ๆ ทำให้บางคนถึงกับไม่กล้าจะสวมใส่มันอีกเลยทีเดียว วันนี้เรามาดูวิธีแก้ปัญหาขาหนีบดำและคืนความขาวใสให้กับขาหนีบกันดีกว่า ด้วยวิธีง่าย ๆ ดังต่อไปนี้

วิธีแก้ขาหนีบดํา

หลีกเลี่ยงปัจจัยที่ทำให้ขาหนีบดำ แน่นอนว่าถ้าไม่รู้จักป้องกัน รักษาไปยังไงมันก็ไม่หาย โดยปกติแล้วเม็ดสีผิวบริเวณขาหนีบจะเกิดการเสียดสีได้ง่ายอยู่แล้ว จนทำให้เกิดรอยดำเป็นปื้น ๆ มากกว่าบริเวณอื่น โดยเฉพาะกับคนที่มีน้ำหนักตัวมาก ๆ ก็ควรจะเริ่มหันมาลดน้ำหนักอย่างจริงจัง โดยให้เน้นท่าออกกำลังกายกระชับต้นขาเพื่อช่วยลดการเสียดสี หรือใครที่ชอบสวมใส่กางเกงในหรือกางเกงยีนส์แบบรัด ๆ ก็จะยิ่งเป็นการเพิ่มการเสียดสีเข้าไปใหญ่ เพราะผ้าค่อนข้างหนา ดังนั้นถ้าเลี่ยงได้ก็ดี เพื่อป้องกันไม่ให้ขาหนีบดำถาวรและแก้ยากมากยิ่งขึ้น
ไม่ควรใส่กางเกงในตอนนอน แต่หากจำเป็นต้องใส่ก็ให้เลือกใส่กางเกงในที่ไม่มีตะเข็บ ใส่แล้วไม่รัดติ้ว และไม่ใส่รัดจนเกินไป
อะไรที่เลี่ยงได้เราก็ควรเลี่ยง แต่ถ้าเลี่ยงไม่ได้ เราอาจจะต้องหาอะไรมารองกันกระแทกบริเวณที่เสียดสีนั้น เช่น เวลานั่งควรจะเอาเบาะนุ่ม ๆ มารองก้นเพื่อลดการสัมผัส
รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ ได้แก่ วิตามินซี วิตามินอี โดยวิตามินอีสามารถพบได้มากในอาหารจำพวก นม ถั่ว ไข่ เนื้อสัตว์ ปลา ผัก ฯลฯ ส่วนวิตามินซีจะพบได้มากในผักและผลไม้ วิตามินทั้งสองชนิดนี้มีบทบาทที่เป็นประโยชน์ต่อผิว ทำให้ผิวแข็งแรงและลดการอักเสบได้
ขัดผิวซะบ้าง ให้ใช้ฟองน้ำหรือใยบวบขัดเบา ๆ บริเวณขาหนีบในขณะอาบน้ำ อาจขัดไปพร้อม ๆ กับตอนถูสบู่เลยก็ได้ โดยให้ทำอาทิตย์ละครั้งละสองครั้งพอ รอยดำบนขาหนีบของคุณจะค่อย ๆ จางลงอย่างแน่นอน แต่ขอย้ำนะครับว่า ควรขัดถูแบบเบา ๆ เพราะถ้ายิ่งลงแรงขัดมากเท่าไรก็อาจทำให้เกิดการอักเสบบวมแดงมากขึ้นเท่านั้น พอแดงมาก ๆ ความดำจากการเสียดสีก็จะมาเยือน และเยอะขึ้นกว่าเดิมด้วย บาคาร่า 
สครับผิวสูตรธรรมชาติ การขัดบำรุงผิวก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยเร่งการผลัดเซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้วบริเวณขาหนีบออกไป จึงช่วยคืนความขาวกระจ่างใสขึ้นมาได้ โดยคุณอาจเน้นเป็นสครับสูตรธรรมชาติ ดังต่อไปนี้ (ให้ทำเพียงอาทิตย์ละประมาณ 2-3 ครั้ง)
สูตรมะขามเปียกผสมน้ำผึ้ง นำมาทาถูทิ้งไว้ประมาณ 3-5 นาที แล้วล้างออก
สูตรมะนาว ใช้เปลือกมะนาวนำมาทาถูทิ้งไว้ประมาณ 2-3 นาที แล้วล้างออก
สูตรขมิ้นผง มะขามเปียก และนมสด นำมาผสมพอให้ข้นแล้วนำไปขัดวนบริเวณขาหนีบทั้งสองข้างเบา ๆ
สูตรน้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ น้ำมะนาวครึ่งลูก และน้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ นำมาผสมให้เข้ากันใช้สครับวนเป็นวงกลมจนน้ำตาลละลายทิ้งไว้ 5 นาที แล้วล้างออก
สูตรสครับน้ำผึ้งเปลือกส้ม เพียงแค่คุณนำมีดมากรีดเปลือกส้มเบา ๆ ให้มีรอยเปิด แล้วนำมาขยี้และบีบกับน้ำผึ้ง ใช้ขัดผิวเบา ๆ
สูตรน้ำมันอัลมอนด์ 1 ช้อนชา น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ, นมจืด 2/3 ช้อนโต๊ะ, น้ำมะนาวครึ่งลูก และเมล็ดอัลมอนด์บด นำมาผสมให้เข้ากัน แล้วนำมาทาบริเวณขาหนีบทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที จากนั้นก็ค่อย ๆ สครับออกกับน้ำสะอาด
สูตรโยเกิร์ตผสมกับเบคกิ้งโซดา แล้วนำมาขัดเบา ๆ (สูตรนี้หลายคนบอกว่าได้ผลนะ)
สูตรสารส้มผสมกับมะขามเปียก
สูตรผงวิเศษนิยมขัดกับมะนาว
บำรุงด้วยน้ำมันสกัดจากธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันมะกอก น้ำมันมะพร้าว น้ำมันคาโมมายล์ หรือน้ำมันดอกลาเวนเดอร์ ก็สามารถนำมาใช้ทาเพื่อช่วยลดเลือนรอยด่างดำ ลดปัญหาผิวหยาบกร้าน และทำให้ผิวเนียนนุ่มได้ เพียงแค่นำมาทาบริเวณขาหนีบเป็นประจำทุกวันก็จะช่วยทำให้ขาหนีบของคุณขาวขึ้นได้ แถมยังเป็นการบำรุงผิวไปในตัวอีกด้วย ส่วนระยะเวลาอาจจะขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลและสีผิวด้วย



ทาครีมลดรอยดำและเพิ่มความชุ่มชื้น อีกวิธีรักษาขาหนีบดํา คุณอาจเลือกใช้ครีมบำรุงผิวเฉพาะจุดสำหรับทาขาหนีบก็ได้ อย่างครีมทาขาหนีบดํา หรืออาจจะเป็นครีมที่มีส่วนผสมจากไวเทนนิ่งและวิตามินอี โดยให้นำมาทาเป็นประจำทุกครั้งหลังอาบน้ำ เพราะสิ่งเหล่านี้จะช่วยลดความหมองคล้ำบริเวณขาหนีบได้ ส่วนยี่ห้อที่แนะนำจากเท่าที่อ่าน ๆ มาก็จะมี ครีมหน้าขาวของหมอจุฬา ครีมกวนอิม สมูทอี
เลเซอร์ลดรอยดำ ในกรณีที่มีรอยดำคล้ำมากอาจต้องรักษาโดยใช้เลเซอร์เพื่อลบรอยดำ เพื่อยับยั้งการสร้างเม็ดสี ซึ่งการยิงเลเซอร์จะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง ๆ เช่น สีผิว เพราะคนผิวคล้ำจะเห็นผลได้ไม่ดีเท่าคนผิวขาว หรือใช้พวกไอพีแอล (IPL) เหมือนตอนเราใช้แก้ปัญหารอยดำของสิวบนใบหน้า หรือทำไอออนโตโฟเรซิส (lontophoresis) ซึ่เหล่านี้ก็สามารถนำมาใช้กับผิวบริเวณก้นและขาหนีบได้เช่นกัน
รักษาด้วยยากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ สำหรับใครที่รักษาด้วยยาทากรณีขัดก็แล้วบำรุงก็แล้วแต่ยังไม่เกิดผล ก็ต้องมาดูสภาพผิวกันก่อนว่า ดำหนามากไหม? และหมอจะให้ยาไปทาตามสภาพ ถ้าดำอย่างเดียวก็อาจจะให้ยาที่ลดการทำงานของเม็ดสี หรือถ้ามันมีอาการหนาตัวก็อาจจะใช้ยาที่ทำหน้าที่ผลัดเซลล์ผิวเล็กน้อย แต่ก็ต้องระวังกันหน่อยนะ เพราะผิวบริเวณนี้จะบางมาก หากจะไปซื้อยามาทาเองคุณควรถามเภสัชให้ดีก่อน
ขาหนีบดำระหว่างตั้งครรภ์ เกิดจากฮอร์โมนในระหว่างการตั้งครรภ์เกิดการเปลี่ยนแปลง ส่งผลให้ผิวของคุณแม่บางรายเกิดการเปลี่ยนแปลง คือ มีรอยดำคล้ำหรือมีสีเข้มขึ้นตามต้นคอ ข้อพับ รักแร้ ขาหนีบ และหัวนม ซึ่งรอยดำคล้ำต่าง ๆ นั้น ปกติแล้วจะหายไปเองภายหลังการคลอดบุตร ดังนั้นคุณแม่จึงไม่ต้องกังวลใจ ไม่ต้องไปทำการขัดถูหรือซื้อยามาทาแต่อย่างใด เพราะยาบางตัวอาจมีผลต่อทารกในครรภ์ได้ ดังนั้น คุณแม่ควรอดทนรอ และเมื่อเวลาผ่านไปความดำคล้ำก็ค่อย ๆ จางลง จนกลับมาสู่ปกติเอง
โรคผิวหนังช้าง (Acanthosis Nigricans) สำหรับผู้ที่ขาหนีบดำ โดยไม่ได้มีสาเหตุมาจากขี้ไคล ขัดเท่าไรก็ขัดไม่ออก คุณอาจเป็นโรคผิวหนังช้างก็ได้ ซึ่งโรคนี้เป็นโรคผิวหนังที่มีลักษณะผิวคล้ำ หนา และมีลักษณะเหมือนกำมะหยี่ ซึ่งมักจะเกิดขึ้นบริเวณคอ รักแร้ และขาหนีบ โดยมักจะเกิดขึ้นกับผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ที่มีอินซูลินมาก จนทำให้มีการกระตุ้นให้เซลล์ผิวหนังมีการเจริญมาก หากคุณเป็นโรคนี้ก็ควรจะปรับอาหารโดยการลดน้ำตาลและแป้ง และหาทางลดน้ำหนักให้ได้ แล้วภาวะ insulin resistance หมดไป รอยดำก็จะค่อย ๆ จางหายไปเองโดยไม่ต้องไปขัดผิวเลย
เมื่อรู้ปัญหาและวิธีแก้กันไปแล้ว ก็อย่าลืมนำไปทำตามกันดูนะค้ะ

ขอบคุณแหล่งที่มา https://medthai.com

เคล็ดไม่ลับผิวสวย ผิวดี ผิวสว่างกระจ่างใส

เคล็ดไม่ลับผิวสวยจากภายใน

ผิวพรรณที่ดี ดูสวยงาม เป็นส่วนสำคัญอย่างหนึ่งที่เกิดจากการดูแลผิวที่ดี จนทำให้ปัจจุบันการบำรุงผิวพรรณด้วยครีมบำรุงให้สวยงามต่างก็มีการโฆษณาแข่งขันกันมากมาย ทำให้ครีมบำรุงผิวบางชนิดมีราคาแพงจนหลาย ๆ บาคาร่า  คนไม่สามารถซื้อหามาใช้ได้ แต่วันนี้เรามีวิธีการดูแลผิวให้สวยใส ด้วยวิธีง่าย ๆ แบบธรรมชาติ ไม่ต้องสิ้นเปลืองเงินทองในกระเป๋ากันมากนัก แต่ก่อนอื่นเลยก็ต้องมาดูสาเหตุที่ทำให้ผิวพรรณเสื่อมโทรม แก่ชรา หมองคล้ำ เป็นฝ้า กระ และจุดด่างดำ กันเสียก่อนว่ามันมีสาเหตุมาจากอะไรบ้าง เพื่อที่เราจะได้หาทางป้องกันและแก้ไขได้ถูกวิธี



งดสูบบุหรี่ 
มีข้อเปรียบเทียบระหว่างฝาแฝดหญิง ฝั่งซ้ายไม่เคยสูบบุหรี่ ส่วนคนขวาสูบตั้งแต่อายุ 16 ผลปรากฏว่าผิวของเธอหมองคล้ำและมีรอยกระเต็มไปหมด เพราะสารในบุหรี่ส่งผลต่อผิวพรรณโดยตรง รวมถึงโรคต่างๆ ที่ตามมา

 ล้างเครื่องสำอางออกให้หมด
ผิวของคนเราย่อมต้องการการพักผ่อนและฟื้นฟูสภาพเช่นเดียวกับร่างกาย แต่ปัญหาที่เกิดขึ้น คือ ผิวถูกอุดตันด้วยสิ่งสกปรกทำให้ไม่สามารถซ่อมแซมตัวเองได้ สาเหตุหนึ่งมาจากการล้างหน้าไม่สะอาด ดังนั้นควรลบเมคอัพให้เกลี้ยง และขัดผิวเพื่อกำจัดเซลล์ที่ตายแล้วออกไป

 งดดื่มแอลกอฮอล์
ชายคนหนึ่งรับประทานอาหารที่ดี มีประโยชน์ โดยไม่จำเป็นต้องดื่มแอลกอฮอล์ร่วมไปด้วย 7 เดือนต่อมา ผิวพรรณเขาดูสดใสขึ้น แถมความจำเขายังแม่นยำขึ้น

อย่าสระผมบ่อยเกินไป
แพทย์ผิวหนังต่างยืนยันว่า เราไม่ควรสระผมบ่อยเกินไป เพราะน้ำมันบนหนังศีรษะจะถูกกำจัดออกไปด้วย ซึ่งน้ำมันเหล่านี้จะช่วยให้เส้นผมเงางาม ลดการเสียดสี และเส้นผมไม่พันกัน

ดื่มน้ำให้เพียงพอ
ใครที่ดื่มน้ำได้วันละ 1.8 ลิตรต่อวันภายใน 1 เดือน จะส่งผลดีกับผิวโดยตรง ผิวของคุณจะเนียนนุ่ม ชุ่มชื่น สิวลดลง เนื่องจากน้ำจะไปล้างสารพิษออกจนหมดเกลี้ยง

ทานผักผลไม้ที่มีวิตตามินซีมีประยชน์ต่อผิวทำให้ผิวชุ่มชื้นและต่อต้านอนุมูลอิสระเช่น ส้ม ฝรั่ง มะเขือเทศ แตงกวา และผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว

ทานวิตามิน
วิตามินเป็นส่วนสำคัญทำให้ผิวของคุณมีสุขภาพดี ซึ่งมีมากมายจนบางครั้งอาจต้องใช้วิธีปรึกษาแพทย์เพื่อดูว่าร่างกายต้องการวิตามินตัวไหนกันแน่

อย่ากังวลเรื่องรูปร่างหน้าตามากเกินไป
ผู้หญิงในรูปเคยควบคุมเกี่ยวกับรูปร่างและหน้าตาในช่วงที่กำลังเป็นนักเพาะกาย แต่เมื่อหลังจากที่เธอได้ปลดปล่อยสิ่งต่างๆ ทำให้ใบหน้าของเธอมีแต่รอยยิ้มที่มีความสุข ผิวพรรณดูอิ่มเอิบ
ขอบคุณแหล่งที่มา https://medthai.com

Tuesday, July 23, 2019

5 สเต็ปเทพ เพิ่มคอลลาเจนบนใบหน้า...





      วันนี้ขอนำเสนอเทคนิคเสริมคอลลาเจนบนใบหน้าให้ตัวเอง จากหนังสือชีวจิต กล่าวคือ คอลลาเจนเป็นส่วนประกอบของเนื้อเยื่อเกี่ยวพันที่ช่วยเสริมสร้างความยืดหยุ่นให้แก่ผิว ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์ นุ่มนวล โดยคุณลันดา เรย์ คอลัมนิสต์อิสระและกูรูด้านสุขภาพทางเลือก แนะนำการสร้างคอลลาเจนด้วยตัวเอง 5 วิธีดังนี้


1. กินอาหารที่อุดมไปด้วย วิตามินซี ซึ่งเป็นสารอาหารตั้งดันในการสร้างคอลลาเจน เช่น มะเขือเทศ บรอกโคลี บาคาร่า

2. กินข้าวกล้องเป็นประจำทุกมื้อ

3. กินอาหารบำรุงผิวที่มีส่วนสมของชาดำ ชาเขียว ที่อุดมไปด้วย สารแอนติออกซิแดนด์ ซึ่งมีคุณสมบัติยับยั้ง

4. กินกระเทียม เนื่องจากการอาหารบางชนิดในกระเทียมจะไปช่วยชะลอไม่ให้คอลลาเจนถูกทำลายก่อนวัยอันควร

5. กินอาหารที่มีสารแอนโทไชยานินปริมาณสูง เช่น ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ สารดังกล่าวจะไปเสริมสร้างเส้นใยคอลลาเจนให้แข็งแรงทำให้ผิวกระชับ

          อย่างไรก็ตาม ร่างกายควรได้รับคอลลาเจนจากอาหารธรรมชาติ และจะดีมากหากเป็นอาหารออร์แกนิก

สูตรเด็ดความงามแบบโบราณ ที่ช่วยให้คุณสวยจากภายในสู่ภายนอก



     


       สาวๆ สมัยนี้มักนิยมพึ่งพาเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มความสวยแบบทันใจ ทั้งโบท็อกซ์ ฟิลเลอร์ เลเซอร์ จนกลายเป็นเรื่องปกติธรรมดา แต่สิ่งที่ธรรมดาและหลายคนกลับมองข้ามไปคือ ความสวยแบบธรรมชาติ คำว่า “ธรรมชาติ” ในที่นี้คือความสวยที่แท้จริงไม่ใช่แค่ความสวยจากภายนอกอย่างที่เราเห็น แต่ต้องมาจากภายในด้วยจึงจะเป็นความสวยที่แท้จริงและยั่งยืน บาคาร่า ที่จะสะท้อนออกมาเป็นเสน่ห์และความงามในแบบของตัวเอง อย่างคนโบราณสมัยก่อนไม่มีเครื่องสำอาง เครื่องประทินความงาม น้ำหอมราคาแพงๆ ก็สามารถสวยได้ด้วยการใช้ธรรมชาติที่มีอยู่รอบตัวมาเพิ่มความสวย อาทิ ใช้ข่อยมาขัดฟันให้ฟันขาวสะอาด ใช้ขมิ้นมาถูตัวให้ผิวดูผุดผ่อง ใช้สมุนไพรมาทำเป็นน้ำอบประทินผิวกลิ่นเฉพาะตัว เป็นต้น

การดูแลตัวเองให้สวยโดยไม่ต้องพึ่งพาเทคโนโลยีทำได้ง่ายและไม่ยาก ตามรอยเคล็ดลับความงามแบบโบราณ “คนโบราณมักจะมีเคล็ดลับในเรื่องความงามต่างๆ มากมาย หลายครั้งที่เรานำสูตรเด็ดความงามแบบโบราณมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน และไม่ใช่การดูแลความงามแค่ภายนอก ยังเป็นการดูแลแบบองค์รวมให้สวยทั้งภายนอกและภายในที่แฝงอยู่ในเคล็ดลับความงามแบบโบราณอีกด้วย”

สูตรเด็ดความงามแบบโบราณ ที่ช่วยให้คุณสวยจากภายในสู่ภายนอก

ใบหน้า:

สวยภายในด้วยการทานอาหารที่มีสารไลโคปีน (อาทิเช่น มะเขือเทศ แตงโม) สารแอนตี้ออกซิแดนท์ (อาทิเช่น กระเจี๊ยบแดง ข้าวสีนิล กะหล่ำม่วง เบอร์รี่ต่างๆ) สารไฟโตเอสโตรเจน (อาทิเช่นผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง โสม เจียวกู่หลัน) เป็นต้น อาหารที่มีสารเหล่านี้จะช่วยให้ผิวหน้าดูอ่อนเยาว์

สวยภายนอกด้วยการใช้ สครับผิวอ่อนๆ โดยใช้สมุนไพร อาทิเช่น ขมิ้น ไพล มะขามเปียก หรือ มาส์กหน้าโดยเพิ่มส่วนผสมของน้ำผึ้ง

ผิวพรรณ:

สวยภายในด้วยการทานอาหารที่ช่วยบำรุงระบบน้ำเหลือง แก้น้ำเหลืองเสีย (อาทิเช่น ดอกสาย น้ำผึ้ง ดอกคำฝอย) อาหารที่ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือด ให้ผิวดูสดใสมีเลือดฝาด (อาทิเช่น โสม โสมตังกุย พุทราจีน แปะก้วย)

สวยภายนอกด้วยการขัดผิวเพื่อเอาเซลล์ที่เสื่อมสภาพออก สมุนไพรที่เลือกใช้ เช่น ขมิ้น ไพล มะขามเปียก สาหร่ายทะเล มะพร้าวขูด เป็นต้น อาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง ตามด้วยการนวดน้ำมันเช่นน้ำมันมะกอก น้ำมันโจโจ้บา น้ำมันมะพร้าว ที่มีอโรมาเพื่อผ่อนคลายผิว และให้ผิวชุ่มชื้น

ผม:

สวยภายในทานอาหารที่มีไบโอติน ป้องกันเส้นผมแตกปลาย (อาหารที่พบ อาทิเช่น ตับ ถั่ว เหลือง ข้าว สีนิล ไข่แดง) สารอาหารซิลิเนียม จำเป็นต่อการบำรุงเส้นผมให้สุขภาพดี ผมดก เงางาม (อาทิเช่น อัญชัน สาหร่ายทะเล มันฝรั่ง )

สวยภายนอกด้วยการใช้น้ำผึ้งผสมน้ำมันมะกอกอย่างละครึ่ง ชะโลมเส้นผมแล้วล้างออก ผมที่ได้จะนิ่ม  และเงางาม

การทำดีท็อกซ์ร่างกาย:

สวยแบบภายในด้วยการรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยแอนตี้ออกซิแดนท์ (อาทิเช่นผลไม้กลุ่มเบอร์รี่ ผลทับทิม ชาเจียวกู่หลัน เพื่อจะช่วยลดอนุมูลอิสระที่เป็นตัวการของความแก่) รับประทานอาหารที่มีกากใยอาหารสูง เพื่อขับพิษออกทางระบบน้ำเหลือง ระบบขับถ่าย (เช่น ลูกพรุน บาร์เล่ย์ สมุนไพรดอกสายน้ำผึ้ง ข้าวกล้อง เม็ดแมงลัก เป็นต้น) หรือวิธีการอดอาหาร เป็นอีกวิธีหนึ่งที่มีประสิทธิภาพในการกำจัดสารพิษออกจากร่างกาย (ผู้ที่มีโรคประจำตัวควรปรึกษาแพทย์)

สวยภายนอกด้วยสูตรเด็ดโบราณ การแช่น้ำอุ่นๆ เพื่อให้ร่างกายได้ออกเหงื่อก็จะทำให้สิ่งสกปรกถูกขับออกมาเป็นวิธีการง่ายๆ และประหยัดแทนการทำสปาได้ดีทีเดียว

การทำดีท็อกซ์จิตใจ:

เป็นสิ่งสำคัญที่สาวๆ ในยุคปัจจุบันหลงลืม คือ การทำจิตใจ โดยการนั่งสมาธิ การเข้าวัด การคิดในเชิง บวก ช่วยให้จิตใจคิดดี ทำดี อนุมูลอิสระ (สนิมแก่) จะเกิดน้อยลง ส่งผลดีต่อใบหน้า และผิวพรรณที่ผ่องใส


Monday, July 22, 2019

7 เคล็ดลับดูแลผิวช่วงหน้าหนาว




      พอใกล้ช่วงหน้าหนาวก็ได้เวลาเตรียมชุดสวยให้พร้อมรับลมหนาวที่กำลังจะมาถึง แต่อย่าลืมเตรียมดูแลผิวสวยให้พร้อมรับมือกับอากาศหนาวด้วย เพราะอากาศที่หนาวเย็นมาพร้อมกับอากาศที่แห้ง ทำให้ผิวแห้งตึง หรือแห้งลอกเป็นขุย แดงคันหรือระคายเคืองง่าย บาคาร่า ปล่อยไว้ไม่ดีแน่ Cetaphil ขอแนะนำ 7 วิธีดูแลผิวสวยให้สุขภาพดีท้าลมหนาว ให้คุณอวดผิวสวยโดยไม่ต้องห่วงกังวลกับปัญหาผิวแห้งกร้านจนเกิดริ้วรอยก่อนวัย


1. หลีกเลี่ยงการอาบน้ำหรือล้างหน้าด้วยน้ำร้อน

หน้าหนาวนี้การอาบน้ำร้อนอาจทำให้รู้สึกผ่อนคลาย แต่น้ำร้อนนั้นจะชะล้างไขมันบนผิวทำให้ผิวไม่สามารถเก็บกักความชุ่มชื้นเอาไว้ได้ นำไปสู่ปัญหาผิวแห้ง เพราะฉะนั้นควรหลีกเลี่ยงการอาบน้ำร้อนและหันมาใช้น้ำอุ่นเล็กน้อยแทน

2. บำรุงผิวทันทีหลังอาบน้ำ

การทาครีมบำรุงให้ผิวชุ่มชื้นนั้นควรจะบำรุงทันทีหลังจากอาบน้ำเสร็จ การทาครีมบำรุงลงบนผิวที่กำลังหมาดช่วยเก็บกักน้ำไว้ในผิว ลองเก็บมอยส์เจอไรเซอร์ไว้ในห้องน้ำและใกล้ซิงค์ล้างมือแล้วใช้ทุกครั้งหลังอาบน้ำหรือล้างมือ จะช่วยให้ผิวนุ่มชุ่มชื้น เนียนสวยตลอดวัน

3. อย่าลืมปกป้องผิว

ใส่ผ้าพันคอ หรือผ้าคลุมไหล่ เพื่อปกป้องผิวจากลมหนาวที่จะทำร้ายผิวให้แห้งยิ่งขึ้น ในขณะเดียวกันก็ควรทาครีมกันแดด เพราะแสงอาทิตย์ในฤดูหนาวนั้นก็ทำร้ายผิวได้ไม่แพ้แสดงแดดหน้าร้อนเช่นกัน

4. ดื่มน้ำให้เพียงพอ

เรามักจะดื่มน้ำน้อยลงในหน้าหนาวเพราะไม่รู้สึกร้อนหรือเสียเหงื่อมากนัก แต่อย่าลืมไปว่าผิวนั้นต้องการน้ำจากภายใน เพื่อผิวสวยนุ่มชุ่มชื้นสู่ภายนอก แทนที่จะดื่มกาแฟหรือชา ลองดื่มน้ำอุ่นผสมน้ำมะนาวเล็กน้อย นอกจากจะช่วยให้ชื่นใจ และอุ่นสบายตัวแล้ว ยังเติมน้ำเข้าสู่ร่างกายและผิวได้เป็นอย่างดี

5. บำรุงผิวก่อนนอน

ผิวส่วนที่แห้งเป็นพิเศษเช่น มือ เท้า ข้อศอก เป็นบริเวณที่ผิวบางและมักจะสูญเสียน้ำได้เร็วกว่าบริเวณอื่น ๆ ควรใช้ครีมบำรุงผิวที่ให้ความชุ่มชื้นอย่างเข้มข้นล้ำลึกก่อนนอน เลือกผลิตภัณฑ์ที่ให้ความชุ่มชื้นยาวนานตลอดคืน เพื่อตื่นมารับเช้าวันใหม่พร้อมกับผิวนุ่มชุ่มชื้นสุขภาพดี

6. หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่อาจก่อการระคายเคือง

ในช่วงหน้าหนาวนี้ผิวจะบอบบางเป็นพิเศษจากอากาศหนาว ทำให้เกิดอาการแพ้ การระคายเคืองได้ง่าย จึงควรหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่อาจมีสารกระตุ้นการระคายเคือง เช่น น้ำหอม และแอลกอฮอล์ หลีกเลี่ยงเสื้อผ้าที่มีเนื้อหยาบ เพราะอาจระคายเคืองผิวได้ง่าย เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวและครีมบำรุงผิวที่ถูกออกแบบมาเพื่อผิวบอบบาง ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ และผู้เชี่ยวชาญทางด้านผิวหนังรับรองว่าอ่อนโยน และปลอดภัยแม้ผิวบอบบางอย่าง Cetaphil ติดบ้านไว้ ถึงหนาวแค่ไหน ผิวก็เนียน นุ่ม ชุ่มชื้น กระจ่างใส ไม่ระคายเคือง

7. เพิ่มความชุ่มชื้นจากภายใน

การทานอาหารที่มีส่วนประกอบของน้ำจะช่วยบำรุงผิวให้ชุ่มชื้นจากภายใน ลองทานแตงโม แคนตาลูป แอปเปิ้ล ส้ม กีวี หรือผักที่อิ่มน้ำมากอย่าง ขึ้นฉ่าย มะเขือเทศ แตงกวา ฟัก หรือแครอท รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะวิตามินซี และ zinc ซึ่งมีส่วนช่วยในการผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินในผิว โอเมก้า-3 แบบเม็ดเสริมอาหาร หรือทานปลาที่มีไขมันดีเพื่อช่วยสร้างเกราะป้องกันผิว ให้ผิวดูเนียนนุ่มแข็งแรง สุขภาพดีจากภายในสู่ภายนอก

เพิ่มเติมด้วยผลิตภัณฑ์บำรุงจาก Cetaphil ช่วยดูแลผิวสวย เนียน นุ่ม ชุ่มชื้นท้าลมหนาว ด้วย Cetaphil DailyAdvance Ultra Hydrating Lotion โลชั่นบำรุงผิว สูตรเฉพาะจาก Cetaphil เหมาะสำหรับผิวบอบบาง ผิวแห้ง เนื้อโลชั่นบางเบาไม่เหนอะหนะ ซึมเข้าสู่ผิวอย่างรวดเร็ว ให้ผิวชุ่มชื้นทันทีและยาวนาน 24 ชม ใช้ได้ทั้งกับผิวหน้าและผิวกาย และ Cetaphil Moisturizing Cream ครีมบำรุงผิว เนื้อครีมช่วยมอบความชุ่มชื้นให้ผิวพร้อมทั้งช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นไม่ให้ผิวสูญเสียน้ำ ให้ผิวชุ่มชื้นเนียนนุ่มยาวนาน สำหรับผิวแห้งเป็นขุย ผิวเสียจากแสงแดด หรือแม้ผิวผื่นภูมิแพ้ เพราะปลอดภัย ผ่านจากทดสอบแล้วว่าไม่ก่อให้เกิดการแพ้ระคายเคือง

Sunday, July 21, 2019

เคล็ดลับลดหัวเข่าดำด้วยของจากห้องครัว






"เข่าดํา" หลายคนมีปัญหาโดยเฉพาะสาวๆที่เจอกับเข่าด้านทำให้ใส่เสื้อผ้าไม่ว่าจะเป็นกางเกงขาสั้นกระโปรงหรือว่าเดรสสั้นก็ทำเอาไม่มั่นใจที่ต้องโชว์ผิวบริเวณหัวเข่า จนอยากจะเอาเจ้าเข่าดำด้านหลบไปให้ไกลจะแก้ปัญหายังไงหากเข่าไม่สวย บาคาร่า วิธีที่จะช่วยจัดการง่ายๆด้วยสิ่งของใกล้ครัวลองเดินไปสำรวจดูตู้เย็นหรือของในครัวที่จะมาช่วยให้ผิวบริเวณเข่าสวยแล้วมาลองทำไปพร้อมๆกันดู

1.มะเขือเทศกับน้ำตาล

มะเขือเทศฝานบางๆนำไปชุบกับน้ำตาลให้ทั่วหรือจะเป็นมะเขือเทศปั่นผสมเข้ากับน้ำตาลพอให้ได้เป็นเนื้อสครับ นำมาขัดผิวช่วงหัวเข่าของเราบริเวณที่มีปัญหาดำด้านอย่างเบามือสครับวนๆ ให้เซลล์ผิวที่มีปัญหาค่อยๆหลุดลอกออกแล้วทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาทีหลังจากนั้นค่อยล้างออกและอาบน้ำได้ตามปกติทำซ้ำเป็นประจำอย่างน้อยอาทิตย์ละ 1-2ครั้ง AHA จากธรรมชาติของมะเขือเทศจะช่วยให้ผิวบริเวณนั้นกระจ่างใสได้ดียิ่งขึ้น


2. เกลือกับน้ำมันมะพร้าว

น้ำมันมะพร้าวที่อุดมไปด้วยวิตามินอีเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวได้เป็นอย่างดี หลายคนมีปัญหาผิวบริเวณหัวเข่าเกิดการแห้งจนเป็นผิวดำด้านอาจจะต้องมีตัวช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวด้วยสูตรน้ำมันมะพร้าวผสมเข้ากับเกลือเม็ดละเอียดเล็กน้อย ค่อยๆชโลมขัดเบาๆบริเวณหัวเข่าของเราแล้วทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที น้ำมันมะพร้าวจะช่วยให้ผิวของเรานุ่มชุ่มชื้น ใครที่มีปัญหาผิวแห้งตึงหลังจากการขัดผิว ใช้สูตรนี้รับรองจะไม่ผิดหวังจะเห็นได้ชัดว่าผิวของเราเนียนนุ่มไม่ด้านดำเหมือนเดิมอีกแล้ว

3.มะขามเปียกนมสด

สิ่งที่ได้จากก้นครัวทั่วๆไปของคนทำอาหารก็คงต้องมีมะขามเปียกไว้ติดบ้านเช่นกัน ลองหยิบมาทำสวยสักนิดสักหน่อยคงไม่เป็นไรเริ่มจากวิธีง่ายๆ ด้วยการนำมะขามเปียกคั้นจนได้น้ำข้นเนื้อเนียนผสมเข้ากับนมสดให้เจือจางความเปรี้ยวของมะขามลงในอัตราส่วนที่เท่ากัน แล้วนำมานวดวนที่บริเวณหัวเข่าทิ้งไว้ประมาณ 30 นาทีหลังจากนั้นค่อยล้างออก ความเป็นกรดของมะขามจากธรรมชาติจะช่วยทำให้ผิวของเราค่อยๆกระจ่างใสสวยงามไม่กลับมาดำด้านอีกต่อไป

4.น้ำผึ้งแตงกวา

แตงกวาเย็นๆบดละเอียดหรือนำไปปั่นผสมเข้ากับน้ำผึ้งเล็กน้อย คุณสมบัติทั้งสองอย่างจะช่วยให้ผิวมีความกระจ่างใสและนุ่มขึ้นได้ด้วยวิตามินอีจากธรรมชาติ นำส่วนผสมที่ได้มาขัดเบาๆให้ทั่วบริเวณหัวเข่าของเราพอกทิ้งเอาไว้ประมาณ 20 นาทีแล้วล้างออก ธรรมชาติของแตงกวาและน้ำผึ้งจะทำให้ผิวของเราบริเวณเข่านุ่มชุ่มชื้นลื่นเนียนสุดๆเลย

5.มะนาวกับโยเกิร์ต

สิ่งที่ได้มาด้วยกรดจากธรรมชาติเพื่อมาทำให้ผิวของเรากระจ่างใสได้ดีแบบไม่เป็นอันตรายเคล็ดลับง่ายๆจากของก้นครัว โยเกิร์ตสัก 1 ถ้วยและมะนาว 1 ซีก ผสมจนเข้ากันมาส์กบริเวณหัวเข่าของเราเอาไว้ประมาณ 20-30 นาทีเพื่อให้กรดจากธรรมชาติได้ทำงานในแบบของมัน หลังจากนั้นค่อยๆล้างออกด้วยน้ำสะอาด มาส์กเป็นประจำทำได้ประมาณ 1-2 ครั้งเสาร์อาทิตย์จะช่วยพิชิตให้ผิวบริเวณหัวเข่าของเราขาวและนุ่มขึ้นได้ในราคาไม่แพง



ใครที่แก้ปัญหาไม่ได้ลองทำตามสูตรนี้ดู ประหยัดแถมยังใช้ของไม่แพงหาได้ง่ายๆเพียงแค่เข้าครัว ทำได้ทั้งเข่าทั้งตัวสวยครบสูตรไม่ต้องกลัวเข่าดำด้านอีกแล้วจ้า จะแต่งตัวใส่เสื้อผ้ากางเกงขาสั้นหรือกระโปรงที่เหนือเข่าก็ไม่ต้องเอาอะไรมาปิดแล้วโชว์ไปเลยว่าขาวใสแล้วจ้า




Friday, July 19, 2019

การบำรุงผิวหน้าก่อนนอนให้ขาวกระจ่างใส่เพียง 9 ขั้นตอน





     การบำรุงผิวหน้าก่อนนอนให้ขาว รู้ไหมถ้าอยากมีหน้าขาวใสแบบสุขภาพดี ลำดับขั้นตอนการบํารุงผิวหน้าก่อนนอนที่ควรทำทุกคืนมีอะไรบ้าง ?


  ผิวหน้าที่ขาวใสและมีสุขภาพดีนั้น สาว ๆ รู้ไหมคะว่ามีจุดเริ่มต้นมาจากการดูแลผิวหน้าก่อนนอนนั่นเอง นั่นก็เพราะว่าในตอนกลางคืนขณะนอนหลับ บาคาร่า ผิวจะมีการซ่อมแซมและฟื้นฟูตัวเอง ดังนั้นวิธีบํารุงผิวหน้าก่อนนอนจึงมีความสำคัญมาก ๆ และเป็นสิ่งที่คุณสาว ๆ จะละเลยไม่ได้เด็ดขาด ทั้งนี้เชื่อว่าหลายคนอาจจะมีการบำรุงผิวก่อนนอนกันอยู่แล้ว แต่ก็อาจจะลําดับการทาครีมก่อนนอนไม่ถูก หรือขาดวิธีทาครีมบำรุงก่อนนอนส่วนใดส่วนหนึ่งไป ฉะนั้นเพื่อความเข้าใจที่ถูกต้อง วันนี้กระปุกดอทคอมจึงมีขั้นตอนการบํารุงผิวหน้าก่อนนอนมาฝากสาว ๆ กันค่ะ รับรองว่าบำรุงผิวหน้าตามลำดับนี้ก่อนนอน ตื่นขึ้นมาผิวหน้าจะขาวกระจ่างใสและสุขภาพดีอย่างแน่นอน

1. เช็ดเครื่องสำอางบนใบหน้าให้สะอาดด้วยคลีนซิ่ง

          อันดับแรกของขั้นตอนการบํารุงผิวหน้าก่อนนอนก็คือ สาว ๆ ควรเช็ดหน้าและล้างเครื่องสำอางบนใบหน้าให้สะอาด โดยการใช้ "คลีนซิ่ง" เริ่มจากใช้สำลีชุปอายรีมูฟเว่อร์เช็ดเครื่องสำอางบริเวณช่วงตาให้สะอาดก่อน ไม่ว่าจะเป็นอายแชโดว์ อายไลเนอร์ และมาสคาร่า เป็นต้น เสร็จแล้วให้ใช้คลีนซิ่งชุปสำลีเช็ดบริเวณใบหน้าที่เหลือทั้งหมด เพื่อทำความสะอาดเครื่องสำอางที่อยู่บนใบหน้าให้หมดจด

2. มาสก์หน้า หรือสครับผิวหน้า

          สำหรับขั้นตอนนี้ถือเป็น วิธีดูแลผิวหน้าให้ใส ซึ่งสาว ๆ ควรทำอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง ครั้งละประมาณ 10-20 นาที ไม่ว่าจะเป็นการมาสก์หน้า หรือสครับผิวหน้า อย่างใดอย่างหนึ่งหรือจะทำสลับกันอาทิตย์ละอย่างก็ได้ค่ะ ทั้งนี้การมาสก์หน้าจะช่วยลดสิวเสี้ยน และลดการอุดตันของผิว ส่วนการสครับผิวหน้าจะช่วยขัดสิวเสี้ยนและเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดออก ทำให้ผิวขาวกระจ่างใส หน้าเนียน และไร้สิวเสี้ยนมากวนใจนั่นเอง

3. ล้างหน้าด้วยโฟมล้างหน้า

          สำหรับขั้นตอนสุดท้ายของการทำความสะอาดใบหน้าก็คือการล้างหน้าด้วย "โฟมล้างหน้า" โดยสาว ๆ ควรเลือกใช้โฟมล้างหน้าที่เหมาะกับสภาพผิว ล้างหน้าได้สะอาดหมดจด และหลังล้างไม่ทำให้รู้สึกว่าหน้าแห้งตึง ซึ่งจะช่วยลดการเกิดริ้วรอยก่อนวัย ทั้งนี้วิธีการล้างหน้าสาว ๆ ควรนวดโฟมล้างหน้าไปตามแนวรูขุมขน ไม่ควรนวดย้อนแนวรูขุมขน จะช่วยทำให้ล้างหน้าได้สะอาดและสิ่งสกปรกไม่อุดตันได้ค่ะ

4. ทาเอสเซนต์แบบน้ำ หรือเช็ดด้วยโทนเนอร์

          หลังจากล้างหน้าสะอาดแล้ว ขั้นตอนต่อไปก็คือการบำรุง โดยเริ่มจากใช้เอสเซนต์แบบน้ำทาลงบนผิวหน้า หรือเช็ดหน้าด้วยโทนเนอร์อย่างใดอย่างหนึ่ง ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการเตรียมผิวให้พร้อมก่อนการบำรุงด้วยครีมตัวอื่น ๆ นั่นเอง ทั้งนี้สำหรับเอสเซนต์ หรือโทนเนอร์นั้นสาว ๆ ควรเลือกใช้สูตรที่ช่วยเรื่องความกระจ่างใส จะช่วยทำให้หน้าขาวเร็วขึ้นได้ด้วยนะคะ

5. ทาเซรั่มบำรุงผิว

          ขั้นตอนต่อไปก็คือการทาเซรั่มบำรุงผิว โดยให้หยดเซรั่มเพียงหยดเดียวลงบนฝ่ามือและทาลงบนผิวหน้าให้ทั่ว ซึ่งเนื้อเซรั่มจะซึมซาบลงสู่ผิวได้เร็ว ทำให้ช่วยบำรุงผิวได้อย่างล้ำลึก ซึ่งควรใช้คู่กับครีมเสมอ จะช่วยทำให้การบำรุงผิวมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งนี้หลังจากทาเซรั่มไปแล้ว ควรรอให้ซึมลงสู่ผิวก่อนประมาณ 3-5 นาที แล้วค่อยตามด้วยการทาครีมค่ะ

6. ทาอายครีม

          เนื่องจากผิวบริเวณรอบ ๆ ดวงตามีความบอบบาง และต้องการการดูแลเป็นพิเศษ ดังนั้นจึงควรเลือกใช้ครีมสูตรอ่อนโยนสำหรับผิวรอบ ๆ ดวงตาโดยเฉพาะ หรือที่รู้จักกันในชื่อ "อายครีม" นั่นเองค่ะ ซึ่งวิธีการใช้ให้ค่อย ๆ แตะเนื้อครีมอย่างเบามือที่บริเวณใต้ตา หรือทาจากทิศทางหัวตาไปยังหางตา เพื่อป้องกันการเกิดริ้วรอยนั่นเองค่ะ

7. ทาครีมบำรุงผิวหน้า

          สำหรับขั้นตอนนี้จะเป็นวิธีบํารุงผิวหน้าให้ชุ่มชื่น โดยสาว ๆ ควรเลือกใช้ครีมสูตรไนท์ครีมหรือครีมสำหรับทากลางคืนโดยเฉพาะ เนื่องจากไนท์ครีมจะมีมอยส์เจอร์ไรเซอร์เป็นส่วนประกอบหลัก ทำให้ผิวมีความชุ่มชื่น ซึ่งจะช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยได้ดี อีกทั้งยังจะช่วยให้ผิวซ่อมแซมและฟื้นฟูตัวเองได้อย่างเต็มที่ในเวลานอนอีกด้วย ทั้งนี้นอกจากทาครีมที่หน้าแล้ว อย่าลืมทาบริเวณคอด้วยนะคะสาว ๆ

8. ทายาแต้มสิว

          สำหรับคุณสาว ๆ ที่หน้าเป็นสิว หลังจากบำรุงผิวหน้าด้วยขั้นตอนต่าง ๆ ครบแล้ว ให้ปิดท้ายด้วยการใช้ยาแต้มสิว แต้มใบหน้าบริเวณที่เป็นสิวทุกครั้ง ซึ่งจะช่วยให้สิวยุบและหายได้เร็วขึ้นค่ะ

9. ทาลิปบาล์มที่ริมฝีปาก

          สุดท้ายหลังจากบำรุงผิวหน้าเสร็จสรรพครบทุกขั้นตอนแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่จะละเลยไม่ได้ก่อนนอน นั่นก็คือการบำรุงริมฝีปากด้วย "ลิปบาล์ม" นั่นเอง หรือจะใช้เจลปิโตรเลียมก็ได้ค่ะ ทั้งนี้ก็เพื่อบำรุงริมฝีปากให้ชุ่มชื่นตลอดคืน อีกทั้งยังจะช่วยป้องกันปากแห้ง ลอก และแตกเป็นขุยได้ดีอีกด้วย

          เป็นยังไงบ้างคะ สำหรับขั้นตอนการบํารุงผิวหน้าก่อนนอนให้ขาวทั้ง 9 Step นี้ ไม่ยากเลยใช่ไหมล่ะคะสาว ๆ ^^ ทีนี้เมื่อรู้ขั้นตอนที่ถูกต้องกันแล้ว ก็อย่าลืมนำไปปฏิบัติกันด้วยนะคะ คอนเฟิร์มเลยว่าใบหน้าของคุณสาว ๆ จะขาวกระจ่างใส สุขภาพดี แบบไร้สิวมากวนใจอย่างแน่นอน


7 ประโยชน์และเคล็ดลับในการดื่มน้ำ ให้อาหารผิวและหุ่น



     

         หลายๆคนคงรู้ว่าการดื่มน้ำเป็นสิ่งสำคัญต่อร่างกายและผิวพันธ์ของเรา แต่เดี๋ยวนี้มีเครื่องดื่มที่แสนอร่อยมากมาย จนใครๆหลายๆคนแทบจะไม่ดื่มน้ำเปล่ากันเลยทีเดียว ซึ่งการที่เดิมน้ำอื่นๆ เช่น น้ำอัดลม หรือ น้ำหวาน เป็นต้น แทนน้ำเปล่าคุณรู้หรือไม่ว่า อาจจะทำให้ร่างกายของเรานั้นแย่ลงไปทุกวัน ฉะนั้นเราจึงมีประโยชน์ดีดี ว่าการที่ดื่มน้ำเปล่ามันดียังไง  และอยากให้ทุกคนหันมาดื่มเปล่าแทนน้ำอัดลมและน้ำหวานมากขึ้น  ไปดูกันเลยค่ะ.....



ขับของเสียออกจากร่างกาย

          การดื่มน้ำเยอะ ๆ จะช่วยให้การทำงานของลำไส้ใหญ่ดีขึ้น บาคาร่า จึงทำให้ปัญหาท้องผูกหมดไป อีกทั้งยังทำให้ขับปัสสาวะบ่อย ซึ่งของเสียในร่างกายก็จะถูกขับออกมาด้วย งานนี้สุขภาพร่างกายของคุณจะดีขึ้นโดยไม่ต้องทำอะไรมากเลยแหละ

 ช่วยเผาผลาญแคลอรี

          รู้หรือไม่ว่าการดื่มน้ำเย็นใส่น้ำแข็งช่วยในการเผาผลาญแคลอรีได้ เพราะเวลาดื่มน้ำเย็นเข้าไป ร่างกายก็ต้องใช้พลังงานเพื่อทำให้น้ำอุ่นขึ้น ซึ่งนี่แหละคืออีกหนึ่งวิธีในการเผาผลาญแคลอรีได้แบบง่าย ๆ เลยจ้า


 ช่วยลดความอยากอาหาร

          ในวันหนึ่งคุณดื่มน้ำเยอะมากเท่าไร ร่างกายก็จะรู้สึกอิ่มมากเท่านั้น ซึ่งก็หมายถึงว่าจะช่วยลดความอยากอาหารหรือกินจุบจิบ ซึ่งเป็นสาเหตุของความอ้วนฉุได้

 ผิวดีมีออร่า

          สาว ๆ ที่มีปัญหาผิวหมองคล้ำ เป็นสิว และริ้วรอย บอกเลยว่าถ้ายังดื่มน้ำน้อยอยู่ ไม่ว่าจะประโคมสกินแคร์ราคาแพงแค่ไหนก็ไม่ช่วยแน่นอน ฉะนั้นคุณควรหันมาดื่มน้ำเยอะ ๆ วันละ 1 แกลลอน รับรองว่าผิวจะสวยใสเปล่งออร่า ปัญหาสิว ริ้วรอย หรือผิวหมองคล้ำจะหายไปได้อย่างไม่น่าเชื่อ งานนี้เอาเงินที่ทุ่มทุนซื้อสกินแคร์ไปซื้อน้ำดื่มดีกว่าอีกเนอะ


 กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันโรค

          ถ้าไม่อยากให้ตัวเองเกิดอาการเจ็บป่วยละก็ บอกเลยว่าไม่ใช่แค่กินยาป้องกันโรค แต่ควรดื่มน้ำเยอะ ๆ เข้าไว้ต่างหากล่ะ เพราะการดื่มน้ำเยอะจะช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันโรค ซึ่งจะป้องกันคุณจากไข้หวัด มะเร็ง และโรคต่าง ๆ เช่น โรคหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน

 ลดอาการปวดหัว

          คงไม่มีใครอยากเจอกับ อาการปวดหัว หรอกใช่ไหมล่ะ เพราะเป็นทีไรก็รู้สึกทรมานทุกที ถ้าอย่างนั้นก็ต้องดื่มน้ำเยอะ ๆ แล้วนะคะ เพราะการปวดหัวก็เกิดขึ้นเพราะร่างกายสูญเสียน้ำนั่นเอง

 แก้อาการมีกลิ่นปาก

          การมีกลิ่นปากเป็นสัญญาณบอกได้ว่าคุณกำลังดื่มน้ำไม่เพียงพอ เพราะการดื่มน้ำจะช่วยให้ปากของคุณชุ่มชื้นและช่วยล้างแบคทีเรียในปากได้ยังไงล่ะ ถ้ามัวแต่ปล่อยให้เป็นแบบนี้ ระวังจะไม่มีใครคุยด้วยนะคะ ทางที่ดีมาแก้ปัญหาโดยการดื่มน้ำให้เพียงพอกันเถอะ


เห็นไหมล่ะว่าการดื่มน้ำเปล่ามีคุณประโยชน์มากแค่ไหน และไม่ยุ่งยากในการดื่มอีกด้วย แถมยังทำให้เรา สุขภาพอีกสุดๆๆไปเลย ฉะนั้นหันมาดื่มน้ำเปล่าเพื่อสุขภาพที่ดีกันเยอะๆๆนะคะ ^0^


ขอบคุณแหล่งที่มา   kapook.com


Thursday, July 18, 2019

การดูแลผิวหน้าให้สวยสู้แดดในหน้าร้อน





    ร้อนนี้เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมและลดปัญหาผิวเสียในช่วงซัมเมอร์ กระปุกดอทคอมขอเอาใจสาว ๆ ผู้รักผิว ด้วยการนำวิธีดูแลผิวพรรณในช่วงหน้าร้อนมาให้เพื่อน ๆ ได้ดูแลผิวกันไว้แต่เนิ่น ๆ เนื่องจากในช่วงนี้คุณจะต้องเจอทั้งไอแดดอันแสนร้อนระอุ ฝุ่นละออง และมลภาวะต่าง ๆ ซึ่งเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้ผิวดูหมองคล้ำ หยาบ และแห้งกร้านมากกว่าปกติ  บาคาร่า  งานนี้สาวๆๆหลายคนต้องนั่งกลุ่มใจกันแน่ถ้าเป็นแบบนั้น เราเลยมีวิที่มา แนะนำกันค่ะ

1. ทำความสะอาดผิวให้สะอาดหมดจด

          เพราะในแต่ละวันผิวหน้าและผิวกายของคุณต้องเจอฝุ่นละออง ควันพิษ รวมถึงเหงื่อไคล และคราบความมันอีกไม่รู้เท่าไหร่ ดังนั้นสิ่งที่สาว ๆ ควรใส่ใจมาเป็นอันดับแรก คือการล้างทำความสะอาดผิว ด้วยเจลล้างหน้า หรือสบู่สูตรอ่อนโยนให้ผิวสะอาดเกลี้ยงเกลา สำหรับใครที่แต่งหน้าทุกวัน เมื่อกลับถึงบ้านควรรีบล้างทำความสะอาดด้วยเมคอัพรีมูฟเวอร์ แล้วใช้เจลล้างหน้าล้างอีกครั้ง เพื่อช่วยลดการอุดตันและสิ่งตกค้างบนผิว


2. บำรุงผิวอย่างพอเหมาะ 

          สาว ๆ หลายคนอาจคิดว่าการบำรุงผิว จะทำให้ผิวมันเหนอะหนะ ขอบอกเลยว่าคุณคิดผิด ! เพราะวิธีนี้จะยิ่งทำให้ผิวแห้งขาดสมดุล จนทำให้หน้ามันง่ายกว่าเดิมด้วยนะคะ ทางที่ดีคุณควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวให้เหมาะกับสภาพผิวของแต่ละคน ทั้งตอนเช้าและก่อนนอน เพื่อช่วยให้ผิวชุ่มชื่นและได้รับการบำรุงอย่างเต็มที่ ส่วนผิวกายอาจเลือกเป็นโลชั่นบำรุงสูตรบางเบา เพื่อให้ผิวรู้สึกสบายไม่หนักผิวมากเกินไป 

  3. ปกป้องผิวด้วยครีมกันแดด 

          นับเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการปกป้องผิวของคุณสาว ๆ ที่ห้ามลืม (ทา) โดยเด็ดขาด แม้ว่าจะอยู่นอกบ้านหรือในบ้าน ผิวก็จำเป็นจะต้องเผชิญกับรังสียูวีเอและยูวีบีอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ที่สำคัญช่วงหน้าร้อนแดดจัด สาว ๆ จึงควรใช้ครีมกันแดดที่ป้องกันได้ทั้ง UVA และ UVB โดยมีค่า SPF 50 ขึ้นไป ทาให้ทั่วผิวหน้าและผิวกายทุกครั้ง เพื่อช่วยปกป้องผิวสวยและยับยั้งปัญหาผิวคล้ำเสีย

4. สวมใส่เสื้อผ้ามิดชิด 

          แต่ช่วยระบายอากาศได้ดี ไม่ต้องมาคอยกังวลว่าเรียวขา ท่อนแขน จะดำคล้ำเป็นสีแบบทูโทน แค่เลือกหาเสื้อเชิ้ตแขนยาว กางเกงขายาว หรือเสื้อคลุม ที่มีเนื้อผ้าเบาสบาย หรือโปร่งระบายได้ดีอย่างผ้าฝ้ายมาสวมใส่ แล้วเสริมด้วยพร็อพเก๋ ๆ อย่าง หมวกปีกกว้าง แว่นตาอีกนิด งานนี้ช่วยลดปัญหาผิวคล้ำไหม้แดดได้อีกเพียบเลยล่ะ

5. เสริมความแข็งแรงให้ผิวด้วยอาหาร 

          คงไม่มีอะไรดีไปกว่าการบำรุงผิวสวยใสจากภายในด้วยอาหารอีกแล้ว ไม่ว่าจะเป็นผักและผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินเอ บี 1,2,3  ซี อี และแร่ธาตุต่าง ๆ มากมาย รวมถึง นม ไข่แดง โยเกิร์ต และธัญพืช ซึ่งมีส่วนช่วยต้านอนุมูลอิสระ ซ่อมแซมผิวให้ผิวดูเปล่งปลั่งดูดีอยู่เสมอ


6. ผิวสวยดูดีอยู่เสมอ แค่ดื่ม ! 

          นอกเหนือจากการทาครีมบำรุง และเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อผิวพรรณแล้ว น้ำเปล่า ยังถือเป็นอาหารผิวชั้นเยี่ยมที่ช่วยให้เซลล์ผิวหนังทำงานได้อย่างเป็นปกติ ลดการสูญเสียน้ำในร่างกายในช่วงหน้าร้อน และเปลี่ยนให้ผิวสวยนุ่มชุ่มชื่นขึ้นได้ ดังนั้นใครที่รู้ตัวดื่มน้ำน้อย หรือดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และน้ำอัดลมมากกว่าน้ำเปล่า ควรหันมาดื่มน้ำสะอาดเพิ่มมากขึ้น ไม่ต่ำกว่าวันละ 6-8 แก้ว กันดีกว่าจ้า

7. เลี่ยงแดด คือ วิธีที่ดีที่สุด 

          โดยเฉพาะช่วงเวลาที่มีรังสียูวีมาก ตั้งแต่ 10.00-16.00 น. พยายามหลบแดดด้วยการอยู่ในที่ร่มไว้จะช่วยป้องกันผิวเสียได้ดีที่สุด


ขอบคุณแหล่งที่มา  kapook.com

Wednesday, July 17, 2019

ผิว ขาว ใส แบบ เร่ง ด่วน แค่ 6 วิธี ที่ เป็น เคล็ด ไม่ ลับ





วิธีทําให้ผิวขาวแบบเร่งด่วน รวมสูตรเด็ดวิธีทำให้ผิวขาวเร็วแบบได้ผล จะมีสูตรไหนบ้าง ตามมาดูกันเลย

ผิวคล้ำ ผิวหม่นหมอง ใคร ๆ ก็อยากจะหลีกหนีให้ไกล บางคนถึงขั้นที่รับไม่ได้ต้องหันไปเพิ่งทางการแพทย์ อย่างการฉีดกลูต้าไธโอน กินคอลลาเจน เพื่อทำให้ผิวขาวขึ้นแบบทันใจ แต่สาว ๆ รู้ไหมคะ ว่ายังมีอีกตั้งหลายวิธีที่จะทำให้ผิวของคุณขาวเร็วขึ้นได้ โดยที่ไม่ต้องพึ่งอะไรเสี่ยง ๆ แบบนี้เลย ซึ่งวันนี้กระปุกดอทคอมมีสูตรทำให้ผิวขาวแบบเร่งด่วนมาฝากกันแล้ว บาคาร่า  รับรองว่าปลอดภัย และขาวขึ้นทันใจได้อย่างแน่นอน คอนเฟิร์ม !

สูตรที่ 1 สครับผิวด้วยเกลือทะเล

          นำเกลือทะเลไปตำให้ละเอียด จากนั้นผสมผงขมิ้นและนมสดลงไปเล็กน้อย คนให้เข้ากัน จากนั้นให้นำมาขัดผิว โดยให้ขัดวนบนผิวอย่างเบามือจนทั่วตัว เสร็จแล้วทิ้งไว้ประมาณ 20-30 นาที ค่อยล้างออกให้สะอาด เช็ดตัวให้แห้งแล้วทาโลชั่นสูตรผิวขาวทันที สูตรนี้ควรทำสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง จะช่วยผลัดเซลล์ผิวทำให้ขาวเร็วขึ้นอย่างได้ผล

สูตรที่ 2 ขัดผิวด้วยมะขามเปียก

          นำมะขามเปียกมาผสมกับน้ำอุ่น คั้นเข้ากันพอให้ข้น ๆ จากนั้นนำมาขัดผิวโดยให้ขัดวน ๆ เป็นวงกลมให้ทั่วตัว เสร็จแล้วทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที ใช้ใยบวบขัดซ้ำอีกที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด วิธีนี้สามารถทำได้สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง จะช่วยทำความสะอาดผิว และเร่งกำจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดออก ซึ่งผิวจะค่อย ๆ ขาวใสขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

สูตรที่ 3 พอกผิวด้วยโยเกิร์ตและมะนาว

          นำโยเกิร์ตรสธรรมชาติมาผสมกับน้ำมะนาวสด คนให้เข้ากัน จากนั้นนำมาพอกผิวให้ทั่ว ทิ้งไว้ประมาณ 30-40 นาที แล้วค่อยล้างออก โดยให้พอกอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 ครั้ง วิธีนี้จะช่วยขจัดเซลล์ผิวเก่าที่คล้ำเสียออกไป และช่วยทำให้ผิวขาวเร็วขึ้นได้ง่าย ๆ

สูตรที่ 4 ขัดผิวด้วยเบกกิ้งโซดา

          นำเบกกิ้งโซดามาผสมกับมะขามเปียก เกลือ และนมสด คนให้เข้ากัน ทิ้งไว้สักพักแล้วค่อยนำส่วนผสมที่ได้มาขัดผิวให้ทั่ว จากนั้นทิ้งไว้ประมาณ 20-30 นาที แล้วค่อยล้างน้ำออกให้สะอาด สูตรนี้สามารถทำได้สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง จะช่วยทำให้ผิวเนียนนุ่ม และขาวกระจ่างใสขึ้นแบบทันใจเลยล่ะค่ะ

สูตรที่ 5 สครับผิวด้วยน้ำตาลทรายแดง

          นำน้ำตาลทรายแดงมาผสมกับน้ำมะนาวและนมสดเล็กน้อย คนให้เข้ากันพอให้เป็นเนื้อเหลว ๆ และน้ำตาลไม่ละลายจนหมด จากนั้นให้นำมาสครับผิวโดยขัดวน ๆ ให้ทั่วตัว ทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที แล้วค่อยล้างน้ำออกให้สะอาด สูตรนี้สามารถทำได้สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง ผิวจะขาวปิ๊งและกระจ่างใสอย่างสังเกตเห็นได้ชัด และยังจะช่วยให้ผิวเนียนนุ่มขึ้นอีกด้วย

สูตรที่ 6 ขัดผิวด้วยขมิ้นชัน

          นำขมิ้นชันสดมาตำให้ละเอียด พร้อมกับผสม มะขามเปียก และนมสดลงไปเล็กน้อย คนให้เข้ากัน จากนั้นให้นำมาขัดผิวให้ทั่วตัว จากนั้นปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 20-30 นาที แล้วค่อยล้างน้ำออกให้สะอาด สูตรนี้สามารถทำได้สัปดาห์ละ 2 ครั้ง ผิวจะค่อย ๆ ขาวขึ้นเรื่อย ๆ รับรองไม่เกิน 1 เดือน เห็นผล !

เป็นไงกันบ้างค่ะสาวๆ กับขั้นตอนการบำรุงผิวแบบเร่งด่วน เพียงแค่6วิธีการขาวกระจ่างใสได้ง่ายและที่สำคัญวัตถุดิบยังหาได้ง่ายมากๆอีกด้วย

Tuesday, July 16, 2019

ขั้นตอนดูแลผิวกายขาวได้ในแบบสาว เกาหลี




      ปัจจุบันนี้แฟชั่น เกาหลี ไม่ว่าจะเป็นเสื้อ เครื่องแต่งกายต่างๆ  และแน่นอนค่ะก็คงจะเป็นในเรื่องของผิวพรรณของ เกาหลี ที่สาวไทยอย่างเราๆ ต่างก็อิจฉา เรามาดูกันเลยค่ะว่ามีวิธีไหนที่จะทำให้สาวไทยมีผิวสวยแบบสาว เกาหลี บ้าง บาคาร่า



1.รับประทานผักผลไม้และธัญพืชเป็นประจำ

สาวๆ หลายๆ คนที่อยากมีผิวพรรณสดใส่เปล่งปลั่งเหมือนสาว เกาหลี ก็ต้องประทาน ผัก ผลไม้ และธัญพืชต่างๆ ที่มี วิตามินต่างๆ คอลลาเจน กลูต้าไธโอน เป็นต้น  ก็จะช่วยเร่งในเรื่องของการผลัดเซลล์ผิวใหม่  ก็จะช่วยให้ผิวกระจ่างใสอย่างสาว เกาหลี ได้นะค่ะ



2.เลือกใช้ผลิตภัณฑ์หรือครีมบำรุงผิว

สาวๆ ต้องเลือกผลิตภัณฑ์ หรือ ครีมบำรุงผิวให้เหมาะกับสภาพผิวของตัวเอง โดยมากจะเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ สารกันแดด วิตามินบี และไวท์เทนนิ่ง ซึ่งจะมีคุณสมบัติปกป้องแสงยูวี



3.ขจัดเซลล์ด้วยการสครับผิว

ทั้งสาวไทยและสาว เกาหลี มักจะชื่นชอบการสครับผิวกันค่ะ  เพื่อเป็นการผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วและสิ่งสกปรกออก

อาจจะใช้เกลือขัดผิว  ขัดผิวให้ทั่วร่างกายเลยนะค่ะ จะช่วยให้ผิวพรรณของสาวๆ ขาวขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ ทีนี้สาวๆ ก็จะมีผิวสวยเหมือนสาว เกาหลี ได้ไม่ยากเลยนะค่ะ



หากว่าสาวๆ บำรุงดูแลผิวกายเป็นประจำ สาวๆ อย่างเราๆ ก็จะมีผิวพรรณที่สุขภาพดี และดูขาวกระจ่างใสไม่แพ้ไปกว่าสาวๆ เกาหลี เลยค่ะ ลองไปทำตามดูได้นะค่ะ จะได้มีผิวสวยเหมือนสาว เกาหลี  กันทุกคนนะค่ะ

Monday, July 15, 2019

เคล็ดลับแสนง่ายช่วยให้ผิวสวยสุขภาพดี



การดูแลผิวกายให้ขาวใส เคล็ดลับดี ๆ ที่หลายคนอยากรู้ วันนี้กระปุกดอทคอมมีทริคดี ๆ มาบอกต่อ สาว ๆ ทั้งหลาย ห้ามพลาดเด็ดขาดเลยจ้า

          ใคร ๆ ก็อยากมีผิวกายขาวใสสุขภาพดีกันทั้งนั้น เพราะผิวขาวเปรียบเสมือนใบเบิกทางที่จะทำให้สาว ๆ มีความกล้าและมั่นใจเวลาเข้าสังคมมากยิ่งขึ้น ไม่เว้นแม้แต่ทำให้เป็นที่น่าจับตามองและเป็นจุดสนใจให้ใครหลายคนอิจฉา ทั้งนี้จึงทำให้สาว ๆ หลายคนที่มีผิวพรรณหม่นหมองทั้งหลายต้องหันไปเพิ่งยาและอาหารเสริมอย่างเช่น กลูต้าไธโอน หรือคอลลาเจน และสารพัดวิธีอีกมากมาย เพื่อต้องการสวยทางลัดและเพื่อให้ผิวขาวขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งบางครั้งอาจเป็นอันตรายต่อผิว หรือบางกรณีอาจไม่ขาวยั่งยืนจนต้องกินยาและอาหารเสริมอยู่บ่อย ๆ ทำให้สิ้นเปลืองเงินทอง และอาจมีผลเสียตามมาได้ในระยะยาว บาคาร่า

          สำหรับกรณีแบบนี้สาว ๆ ควรแก้ไขด้วยการหันมาใส่ใจตนเองด้วยการให้ความสำคัญกับการบำรุงผิวกายให้ขาวใสแบบตรงจุดน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด ที่สำคัญยังไม่ต้องกลัวอีกด้วยว่าในระยะยาวจะมีผลเสียตามมา เพราะการดูแลและบำรุงผิวอย่างสม่ำเสมอมีแต่จะให้ประโยชน์ดี ๆ กับตัวคุณเองทั้งนั้น สำหรับสาว ๆ คนไหนที่อยากรู้วิธีที่จะทำให้ผิวขาวใสเนียนนุ่มน่าสมผัสด้วยเคล็ดลับง่าย ๆ ตามมาดูกันเลยจ้า

 บำรุงผิวขาวด้วยการขัดผิว

          การขัดผิว ถือเป็นการผลัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพให้หลุดลอกออกไป ซึ่งจะช่วยเผยผิวกายให้กระจ่างใสมากขึ้น สำหรับการขัดผิวนั้นสามารถทำได้หลายวิธี เช่น ขัดผิวด้วยฟองน้ำ แปลง ใยบวบ หินสำหรับขัดผิว หรือแม้แต่การใช้ครีมอาบน้ำที่มีเม็ดสครับผิว เป็นต้น โดยส่วนใหญ่แล้วจะนิยมขัดผิวขณะอาบน้ำ แต่ทั้งนี้การขัดผิวควรขัดอย่างเบามือและไม่ควรขัดบ่อยจนเกินไป ประมาณสัปดาห์ละ 1-2 ครั้งก็ถือว่าเพียงพอแล้ว เพราะถ้าหากขัดผิวบ่อยจนเกินไปจะทำให้ผิวเสียความชุ่มชื้น และอาจกระตุ้นให้เกิดการอักเสบและผื่นคันบริเวณผิวหนังได้ง่าย

 บำรุงผิวขาวด้วยด้วยสมุนไพรไทย

          สำหรับตัวช่วยอย่างสมุนไพรไทยที่จะช่วยให้ผิวกายของสาว ๆ ขาวใสขึ้นได้และเป็นที่นิยมอย่างมากคือ มะขามเปียก และขมิ้น โดยมะขามเปียกจะช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดออกทำให้ผิวกระจ่างใส ส่วนขมิ้นจะช่วยทำให้ขาวผ่องมากขึ้น เพียงแค่นำมะขามเปียกไปแช่ในน้ำต้มสุกและนำขมิ้นมาปอกเปลือกตำให้ละเอียด จากนั้นให้เอาสมุนไพรทั้งสองตัวมาผสมเข้าด้วยกันกับน้ำผึ้ง ซึ่งน้ำผึ้งจะมีคุณสมบัติช่วยให้ผิวเนียนนุ่มมากยิ่งขึ้น เมื่อผสมเข้ากันดีแล้วให้นำมาขัดให้ทั่วตัวแล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด เพียงเท่านี้ผิวของคุณก็จะขาวสว่างใสขึ้นได้ทันตาเลยล่ะคะ

 บำรุงผิวขาวด้วยรับประทานอาหารที่มีประโยชน์

          สำหรับอาหารที่รับประทานแล้วจะช่วยบำรุงผิวกายให้ขาวใสขึ้นได้ สาว ๆ ควรเน้นทานผักและผลไม้ให้ได้ทุกมื้อ เพราะประโยชน์ของผักและผลไม้จะช่วยในเรื่องของการขับถ่าย ซึ่งหากระบบการขับถ่ายดีก็จะทำให้ผิวพรรณดูขาวใสและเปล่งปลั่งขึ้นได้ทันตาเห็น นอกจากนี้ผักและผลไม้ยังมีสารแอนตี้อ็อกซิแดนซ์ที่จะช่วยกระชับให้ผิวสวยมากขึ้นอีกด้วย เรียกได้ว่ามีประโยชน์มากมายเลยทีเดียว

 บำรุงผิวขาวด้วยการออกกำลังกาย

          สาว ๆ ควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมออย่างต่ำวันละ 30 นาที ประมาณ 4-5 วันต่อสัปดาห์ เพราะการออกกำลังกายจะช่วยขับเหงื่อไคลและสิ่งสกปรกใต้ผิว รวมถึงสารพิษต่าง ๆ ภายในร่างกายออกมา ซึ่งจะทำให้ผิวกายของคุณดูสว่างสดใสขึ้นได้ นอกจากนี้การออกกำลังกายยังช่วยลดการอุดตันของสิ่งสกปรกใต้ผิวหนัง ซึ่งสามารถจะช่วยแก้ปัญหาเรื่องสิวบริเวณผิวหนังได้อีกด้วย

 บำรุงผิวขาวด้วยครีมทาผิว

          สิ่งสำคัญอย่างหนึ่งที่สาว ๆ ควรทำเป็นประจำทุกวันคือต้องทาครีมบำรุงผิวหลังอาบน้ำ เพื่อให้ผิวชุ่มชื้นและขาวขึ้น แต่ทั้งนี้ครีมบำรุงผิวที่เลือกใช้ควรจะมีส่วนประกอบของไวท์เทนนิ่ง มอยส์เจอร์ไรเซอร์ และมีวิตามินที่สำคัญสำหรับผิวอย่างเช่น วิตามินซี วิตามินเอ และวิตามินอี เป็นต้น นอกจากนี้ก่อนออกจากบ้านสาว ๆ ควรทาครีมกันแดดก่อนประมาณ 20 นาที เพื่อปกป้องผิวจากรังสียูวี ทั้งนี้ควรเลือกใช้ครีมกันแดดที่มี SPF ระหว่าง 15 - 29 ซึ่งถือว่ากำลังพอเหมาะกับการใช้ชีวิตประจำวันทั่วไปค่ะ

 บำรุงผิวขาวด้วยน้ำนม

          หลาย ๆ คนคงจะเคยได้ยินคำว่าอาบน้ำแร่แช่น้ำนมกันอยู่บ่อย ๆ ซึ่งสาว ๆ เชื่อไหมคะว่าน้ำนมนั้นเหมาะสำหรับที่จะใช้บำรุงผิวกายอย่างมาก เพราะนมอุดมไปด้วยแร่ธาตุและสารอาหารที่ดีต่อผิว อีกทั้งยังช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดลอกออกไปได้ด้วย เพียงแค่นำน้ำนมมาทาบริเวณผิวกายให้ทั่ว รอสักพักพอเริ่มแห้งแล้วให้ขัดอย่างเบามือ จากนั้นก็ล้างออกด้วยน้ำสะอาด ทำอย่างนี้แค่สัปดาห์ละครั้ง รับรองว่าผิวของสาว ๆ จะค่อย ๆ แลดูขาวขึ้นได้แน่นอนจ้า

 บำรุงผิวขาวด้วยการดื่มน้ำมาก ๆ

          การดื่มน้ำมาก ๆ จะช่วยคืนความชุ่มชื้นให้กับผิวได้เป็นอย่างดี ซึ่งสาว ๆ ทุกคนควรดื่มน้ำให้ได้อย่างต่ำวันละประมาณ 8-10 แก้ว เพียงเท่านี้ผิวกายของสาว ๆ ก็จะสวยใสสุขภาพดีได้แล้วค่ะ

          เห็นไหมคะว่า ผิวกายขาวใส คุณสามารถสร้างเองได้ง่าย ๆ ด้วยวิธีการบำรุงผิวให้ถูกวิธี หากสาว ๆ ปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอเป้าหมายผิวขาวใสก็อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมอย่างแน่นอนค่ะ เมื่อรู้เคล็ดลับดี ๆ แบบนี้แล้วอย่ามัวแต่เก็บไว้คนเดียวนะคะสาว ๆ บอกต่อไปเลยจ้า


ขอบคุณแหล่งที่มา kapook.com

Sunday, July 14, 2019

5 วิธีดูแลผิวสไตล์ 'ดิว อริสรา' ขาวใสผิวนีออน



    เป็นอีกหนึ่งสาวที่ผิวขาวใสแบบสุดสำหรับนางร้ายหน้าเป๊ะ 'ดิว' อริสรา ทองบริสุทธิ์ ที่เธอผิวขาวใสแบบนี้จะแต่งตัวยังไงก็ไม่ผิด และยิ่งเป็นคนที่แต่งตัวตามแฟชั่นอยู่แล้ว การมีผิวขาวใส ก็ช่วยทำให้การเลือกใส่เสื้อผ้า ง่ายขึ้น และได้ทุกแบบโดยไม่ต้องกังวลนั่นเอง

ขอเคล็ดลับจากเธอมาด่วนๆ ถึงวิธีการดูแลตัวเอง สไตล์ ดิว อริสรา ที่สาวๆ หลายคนคงอยากรู้ว่าเธอมีเคล็ดลับอย่างไรถึงผิวเนียนขาว นุ่มน่าสัมผัสแบบนี้ บาคาร่าโดยดิว บอกกับเรา ว่าเทคนิคของเธอคือทาครีม เฉพาะส่วน ให้ถูกกับบริเวณ เปลืองหน่อยแต่ผิวดีทุกจุด จ้าาาา ....

1. ดื่มน้ำเยอะ! นี่สำคัญ
ทาครีม ดื่มน้ำเยอะ ใช้ชีวิตหนักหน่วง เที่ยวหนักทุกคนรู้ (หัวเราะ) มี 24 ชั่วโมง เอนจอยชีวิตคือเราเต็มที่ มันก็ต้องดูแลตัวเองทั้งภายนอกและภายใน อะไรก็ตามที่เป็นการบำรุงทั้งหมด ไม่งั้นจะไม่รอดมาถึงขนาดนี้ได้

เป็นผู้หญิงที่เปลือยหน้าสดแล้วสวยมากที่สุดคนหนึ่ง?
ไม่ได้มั่นใจขนาดนั้นกับสิ่งที่คนอื่นพูด (หัวเราะ)



2. ผิวขาวดูแลไม่ยาก

มันมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ข้อดีคือดิวไม่ค่อยเป็นสิว แต่ถ้าเป็นคือจะหายยากมาก ข้อเสียคือมันจะเหี่ยว มันจะดูแก่ เราต้องคุมให้มันชุ่มชื้นมีน้ำในผิวตลอดเวลา เพื่อวันหนึ่งมันจะได้ไม่เหี่ยว


เรื่องจริงไม่กินน้ำเปล่า ไม่อร่อย กินน้ำผลไม้ติดน้ำผลไม้ ถ้าให้เลือกกินอาหารกับผลไม้ เลือกผลไม้ ไม่เลือกอาหาร ดิวชอบผลไม้ทุกชนิดเลยอะ ไม่มีไม่กินอะไร กินทุกอย่าง เลิฟอะ แต่ไม่ชอบกินน้ำเปล่า ฉะนั้นวิธีการของดิว อยากให้ตัวเองกินน้ำเยอะๆ เหยาะน้ำแดงอ่อนๆ นิดๆ เพราะไม่กินหวาน แค่อยากให้มันมีกลิ่น ถ้าไม่กินน้ำผิวแห้งมาก

 ขอบคุณแหล่งที่มา  www.thairath.co.th
3. วิตามินไม่กิน
ที่บอกว่าไม่กิน ไม่ต้องใช้ตัวช่วยเพราะเป็นคนทานอาหารครบทุกอย่างอยู่แล้ว ไม่หนักวิตามิน หนักผักผลไม้ มันไปทดแทนกัน ชอบมาก กินเปล่าๆ กินแทนๆ ได้ บลูเบอร์รี นี่กรอกใส่ปากเลย

ไม่ชอบอะไรที่มันจืดชืด ให้มีรสนิดๆ


4. ช่วงนี้ออกกำลังกาย
ก็รู้สึกว่าผอมไปไม่ได้ดูสวยมาก แต่ต้องแข็งแรงค่ะ เพราะฉะนั้นเลยเลือกที่จะออกกำลังกายคู่ไปกับการกินของเรา อย่างน้อยเรากินไม่ได้ไม่ดีใช่มั้ย การเอาออกก็ไม่ต้องหนักหน่วง บ้าพลังอะไรขนาดนั้น


5. นอกจากดื่มน้ำ กินผลไม้ ทาครีมต้องแน่น
ครีมคอ ครีมหน้าไม่ขาด ครีมหน้าอก จริงๆ แล้วทุกส่วนเรามีผิวที่แตกต่างกันตรงไหนผิวจะต้องเต่งตึง ตรงไหนย่นเร็วต้องทากระชับหรืออะไร หรือตรงไหนต้องดูแลมากเป็นพิเศษ ครีมของดิวก็จะแยกให้หมด ครีมก้น ครีมขา ดิวจะค่อนข้างใส่ใจรายละเอียดเรื่องพวกนี้มากๆ เพราะทุกส่วนเราไม่เหมือนกัน ถึงแม้มันจะเป็นผิวของเรา แต่มันไม่ได้เหมือนกันทุกส่วนค่ะ

เปลืองนะ? ที่ต้องซื้อหลายแบบหลายส่วน

ก็เปลืองแหละแต่ผิวเราอะ มันต้องดูแลปะคะ (ยิ้ม) นี่ไงเทคนิคดีของดิว

เอาเป็นว่าสาวดิวไม่หวงเคล็ดลับนะจ๊ะ... ส่วนใครที่อยากมีผิวขาวออร่ากระจ่างใสแบบเธอ ก็ลองดูได้เลยค่ะ

Thursday, July 11, 2019

5 วิธีดูแลผิวให้สวยสดใส สาวๆ ทุกคนทำได้ ง่ายนิดเดียว



ผิวพรรณเปล่งปลั่ง สวยใส ดูมีออร่า ย่อมเป็นที่ต้องการของสาวๆ ทุกคน 

         แต่การที่จะทำให้ไปถึงจุดนั้นได้ ก็ต้องประกอบไปด้วยขั้นตอนในการดูแลผิวหลายอย่าง ทั้งนี้เราจะต้องมีความสม่ำเสมอและทำต่อเนื่องแบบยาวนานพอสมควรจึงจะช่วยเสริมให้เรามีผิวสวยใสได้อย่างใจต้องการ และวันนี้เราก็มีวิธีดูแลผิวให้สวยมาฝาก อยากรู้รึยังคะว่าเป็นยังไง ตามไปดูกันเลย

1.สครับผิวเพื่อเผยผิวใหม่

เป็นการขจัดเซลล์ที่ตายแล้วให้ออกไปจากผิวของเรา บาคาร่า โดยการใช้สครับที่เหมาะกับสภาพผิวอาจเลือกใช้สครับสำเร็จรูปแบบที่ขายทั่วไป แต่ต้องดูว่ามีมาตรฐานรับรองหรือไม่ด้วย หรืออาจใช้ใยบวบขัดเบาๆ ขณะอาบน้ำก็ได้ หรือจะใช้จากวัตถุดิบจากธรรมชาติ เช่น มะขามเปียก หรือมะนาวผสมกับเกลือทะเลก็ได้ ขึ้นอยู่ตามความชอบและตามความสะดวก โดยทำสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง ก็จะช่วยเผยผิวใหม่ที่กระจ่างใสยิ่งขึ้น

2.ใช้ครีมบำรุงผิวเป็นประจำ

หากเป็นผิวกายก็ควรจะต้องบำรุงอย่างต่อเนื่องจึงจะเรียบเนียนเห็นผลแบบผิวหน้า โดยควรทาหลังอาบน้ำเช้าและก่อนนอน นี่คือวิธีที่จะช่วยรักษาความชุ่มชื้นให้แก่ผิวเป็นอย่างดี โดยเฉพาะสาวออฟฟิศ ที่นั่งตากแอร์อยู่ทั้งวัน ความเย็นจะทำให้ผิวเราแห้งง่าย แต่ไม่ว่าจะอยู่ในวัยไหน หากปล่อยนานไป ผิวจะแห้งเสียแน่นอน


3.ทาครีมกันแดดทุกวัน

ครีมกันแดดจะช่วยปกป้องผิวไม่ให้ไหม้ หรือคล้ำเสียจากแสงแดด สามารถช่วยป้องกันการเกิดฝ้า กระ จุดด่างดำ ชะลอการเกิดรอยเหี่ยวย่นบนผิว แต่จะต้องเลือกใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF ที่เหมาะสมกับการใช้งานนอกบ้าน หากต้องตากแดดตอนเช้า ครีมกันแดดควรใช้แค่ SPF 10-15 ก็เพียงพอแล้ว แต่หากต้องอยู่กลางแดดจ้าควรจะต้องหาครีมที่มีค่า SPF 50 ขึ้นไปมาใช้ และควรทาซ้ำทุก 1-2 ชั่วโมงเพื่อให้การปกป้องผิวจากรังสี UVA และ UVB ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพแท้จริง

4.ออกกำลังกายสม่ำเสมอ

การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้การไหลเวียนเลือดทำงานดีไปทั่วร่างกาย ทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งดูมีเลือดฝาด อีกทั้งยังเป็นการขับสารพิษ เพราะเมื่อมีการเสียเหงื่อมากๆ ร่างกายจะขับเอาสารพิษออกมาทางเหงื่อนั่นเอง

5.หลีกเลี่ยงการทานอาหารที่ไม่มีประโยชน์

งดอาหารหมักดอง พวกน้ำอัดลม แอลกอฮอล์ เนื้อปิ้งย่างไหม้ๆ ขนมหวาน อาหารแปรรูป และอาหารกระป๋อง เพราะอาหารเหล่านี้นอกจากจะอ้วนแล้ว ยังทำลายคอลลาเจนในผิวหนังได้อีกด้วย โดยอาจทำให้เป็นสิว ผิวซีด ผิวพรรณแห้งเสียเกิดริ้วรอยง่าย และควรดื่มน้ำมากๆ ให้ได้อย่างน้อยวันละ 8-10 แก้ว ควบคู่กับการกินผักผลไม้เยอะๆ จะดีที่สุด เพื่อบำรุงผิวให้สวยสดใสจากภายใน

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับวิธีดูแลผิวให้สวยในแบบง่ายๆ สาวๆ คนไหนปรารถนาการมีผิวสวยก็อย่าลืม
วิธีดูแลผิวกันตามนี้ รับรองผิวสาวจะสวยสดใสอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมแน่นอน

ขอบคุณแหล่งที่มา  www.sanook.com

Wednesday, July 10, 2019

ดูแลผิว ทั้งภายในและภายนอก แบบ เต้ย จรินทร์พร

ดูแลผิว ทั้งภายในและภายนอก แบบ เต้ย จรินทร์พร

ดูแลผิว เต้ยถือเป็นหนึ่งใน นักแสดง ที่ยิ้มสวยจนได้ฉายา Princessof Smile เป็นห่วงเรื่องริ้วรอยตรงหางตาบ้างไหม
ห่วงมากเพราะเต้ยชอบยิ้ม ตอนนี้ก็เริ่มมีตีนกาหน่อย ๆ แต่เต้ยว่าสิ่งสำคัญที่สุดในการดูแลตัวเองและดูแลผิวคือ การพักผ่อน บาคาร่า แค่นอนให้พอและออกกำลังกายก็ช่วยได้มากแล้ว อีกอย่างคือ ควรเลือกครีมบำรุงให้เหมาะกับผิว เสริมด้วยการ
ทำทรีตเมนต์ตามคลินิกบ้าง อย่าง Phono Treatment หรือการใช้คลื่นเสียงผลักครีมบำรุงเข้าผิว สิ่งเหล่านี้ก็ช่วยได้



แต่งานยุ่งขนาดนี้ เต้ยทำได้อย่างที่คิดไว้ไหม
คิดว่าตัวเองนอนหลับเพียงพอแล้ว แต่เรื่องการออกกำลังกายถือเป็นจุดอ่อนของเต้ยนะ (หัวเราะ) ต้องใช้ความพยายามค่อนข้างมาก อย่างการฝึกโยคะหรือชกมวยซึ่งสนุกกว่าการเข้าฟิตเนสเยอะ แต่ก็ยังไม่ค่อยได้ไปอยู่ดี ทุกปีใหม่จะมี New Year’s Resolution ว่าอยากออกกำลังให้พอแต่ก็ไม่ได้เริ่มทำจริงจังสักที



แล้วมีวิธีเลือกครีมให้เหมาะกับผิวอย่างไร
ขั้นแรกก็ต้องมีลองผิดลองถูกกันจนหน้าแพ้เป็นผื่นบ้าง แต่พอเราเจอผลิตภัณฑ์ที่ใช้ดี เราก็ต้องยึดติดกับตัวนั้น เป็นพื้นฐานในการบำรุง อย่างเต้ยใช้ Olay AquAction Night Cream เนื้อบางเบาซึ่งเข้ากับผิวตัวเองมาก ก็จะใช้ครีมตัวนี้เป็นหลักเลย ปกติแล้วเต้ยมีผิวมันบริเวณทีโซนหากใช้ครีมที่เข้มข้นเกินไป ตื่นเช้ามาหน้าจะเยิ้มหนืดมากไม่สบายผิว แต่ตัวนี้ทำให้ผิวชุ่มฉ่ำ โดยไม่เหนอะ

ขอขอบคุณแหล่งที่มา  www.blogger.com

Tuesday, July 9, 2019

เกร็ดน่ารู้คู่การดูแลผิวให้สวยสุขภาพดีในทุกๆ วัน

เกร็ดน่ารู้คู่การดูแลผิวให้สวยสุขภาพดีในทุกๆ วัน

อยากมีผิวที่ดูเรียบเนียนและขาวกระจ่างใส การดูแลผิว ถือมีเป็นสิ่งที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นผิวหน้าหรือผิวกายก็ตาม บาคาร่า ซึ่งวันนี้เราก็มีเกร็ดน่ารู้กับการดูแลผิวมาฝากกันด้วย รับรองว่าเมื่อทำแล้ว คุณจะมีผิวสุขภาพดีขึ้นอย่างแน่นอน ว่าแต่จะมีอะไรบ้างนั้นเรามาดูกันเลย



ทาโลชั่นบำรุงผิวเป็นประจำ

ควรทาโลชั่นบำรุงผิวเป็นประจำทุกวัน เพื่อให้ผิวมีความชุ่มชื้นอยู่เสมอ แต่ทั้งนี้จะต้องเลือกโลชั่นที่มีความเหมาะกับสภาพผิวของคุณด้วย เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการบำรุงผิวมากที่สุดนั่นเอง โดยมีวิธีเลือกโลชั่นบำรุงผิวให้เหมาะกับสภาพผิวแต่ละแบบดังนี้

- ผิวแห้ง ควรเป็นโลชั่นที่อุดมไปด้วยมอยเจอไรเซอร์ และมีส่วนผสมของ oil เพื่อให้ผิวมีความชุ่มชื้นมากขึ้น พร้อมลดริ้วรอยก่อนวัยด้วย

- ผิวมัน ควรเป็นโลชั่นที่ไม่มีส่วนผสมของ oil และมีมอยเจอไรเซอร์น้อยที่สุดหรือไม่มีเลย เพราะสิ่งเหล่านี้อาจทำให้ผิวหน้ามันมากกว่าเดิมได้นั่นเอง

- ผิวบอบบาง ควรเป็นโลชั่นที่มีความอ่อนโยนต่อผิว และไม่ก่อให้เกิดการแพ้ได้ง่าย




เติมความชุ่มชื้น เนียนนุ่มด้วยปิโตรเลียมเจล

แค่ความชุ่มชื้นอาจยังไม่พอ ผิวจะมีต้องมีความเนียนนุ่มน่าสัมผัสด้วย และอีกตัวช่วยหนึ่งที่จะช่วยในการเพิ่มความเนียนนุ่มให้แก่ผิวได้ดี ก็คือปิโตรเลียมเจลนั่นเอง เพียงแค่ทาเป็นประจำทุกวัน ก็จะทำให้ผิวของคุณมีสุขภาพดีได้ดั่งใจแล้ว อีกทั้งยังมีความอ่อนโยนต่อผิว ไม่ต้องกลัวว่าจะทำให้ผิวเกิดการแพ้ได้อีกด้วย

ทาครีมกันแดดก่อนออกจากบ้านทุกครั้ง

แสงแดดนี่ล่ะคือตัวการทำร้ายผิวที่ต้องระวังเป็นอย่างมากกันเลย ดังนั้นก่อนออกจากบ้านทุกครั้ง จึงควรทาครีมกันแดดอยู่เสมอ เพื่อปกป้องผิวจากรังสี UV ร้ายตลอดเวลาที่เผชิญกับแสงแดดนั่นเอง นอกจากนี้ อาจจะใส่เสื้อแขนยาว กางเกงขายาว และเสริมด้วยหมวกสักใบ เพื่อป้องกันแสงแดดด้วยก็ได้

หลีกเลี่ยงการขัดผิวบ่อยๆ

การขัดผิว อาจช่วยให้ผิวมีความกระจ่างใส และดูขาวขึ้นได้ แต่หากทำบ่อยเกินไปก็อาจทำให้ผิวขาดความชุ่มชื้นและเกิดการแห้งกร้านได้เหมือนกัน ดังนั้นจึงไม่ควรขัดผิวบ่อยมากนัก อย่างดีแค่สัปดาห์ละ 1 ครั้งหรือเดือนละ 2 ครั้งก็พอ

อยากมีผิวสุขภาพดี และดูขาวกระจ่างใสมากขึ้น เกร็ดน่ารู้เหล่านี้ช่วยคุณได้อย่างแน่นอน มาดูแลผิวให้เรียบเนียนด้วยเกร็ดน่ารู้เหล่านี้กันนะ


ขอขอบคุณแหล่งที่มา www.blogger.com





Monday, July 8, 2019

10 ข้อที่ต้องทำทุกคืน ตื่นมาสวยปิ๊งแน่นอน

10 ข้อที่ต้องทำทุกคืน ตื่นมาสวยปิ๊งแน่นอน

สาว ๆ หลายคนคงเคยเผชิญปัญหาตื่นนอนปุ๊บ ส่องกระจก แล้วถึงกับต้องร้องอุทาน...นี่เธอเป็นใคร? ไหนจะหน้ายับ ริมฝีปากแห้ง ตาเป็นหมีแพนด้า ผิวก็หมองคล้ำ ดูไม่สดชื่นกระจ่างใสอีก ทั้ง ๆ ที่เมื่อคืนก็เข้านอนไวแล้วแท้ ๆ ถ้าใครกำลังเป็นแบบที่เล่าไป อย่าเพิ่งกลุ้มใจไปค่ะ
ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจก่อนนะคะว่า บาคาร่า ช่วงกลางคืนที่เรานอนหลับเป็นช่วงเวลานาทีทองที่ร่างกายของเราจะซ่อมแซมเซลล์ผิวหนังหรืออวัยวะที่สึกหรอ และยังช่วยปรับสมดุลฮอร์โมนของร่างกาย ดังนั้น ถ้าเราพักผ่อนเพียงพอ 7-8 ชั่วโมง ร่างกายเราก็จะฟื้นตัวซ่อมแซมทดแทนในส่วนที่เราใช้งานหนักและผิวที่ผจญกับแสงแดดและฝุ่นควันในช่วงกลางวัน แต่เดี๋ยวก่อนค่ะ! ไม่ใช่ว่าอยู่ ๆ เรานอนหลับอย่างเดียวพอตื่นมาปุ๊บ จะสวยปิ๊งใสเหมือนใจสั่งนะคะ มันต้องมีตัวช่วยกันหน่อย



วันนี้เราจึงนำเคล็ดลับ 10 ข้อที่ต้องทำทุกคืน ตื่นมาสวยปิ๊งแน่นอนมาฝากกันค่ะ

1.ทำความสะอาดผิวให้สะอาดหมดจด

ผิวหน้าของเราถือเป็นด่านแรกที่ต้องเจอทั้งเครื่องสำอาง แสงแดด มลพิษ และฝุ่นควันทั้งวัน เพราะฉะนั้นขั้นตอนนี้สำคัญมาก ต้องกาดอกจันใหญ่ ๆ ไว้เลย อย่างการล้างหน้าด้วยน้ำเปล่า อาจไม่เพียงพอโดยเฉพาะกับคนที่ต้องแต่งหน้าทุกวัน ดังนั้นควรใช้ Makeup Remover และ Cleansing ควบคู่กันไปด้วย หรือจะใช้ Baby Oil ก็ได้ค่ะ

ตอนล้างหน้าก็ต้องระวัง อย่าถูหน้าแรง ควรใช้นิ้วนวดเบา ๆ เพื่อเป็นการผ่อนคลายและช่วยในการไหลเวียนของเลือด และใช้มือกวักน้ำขึ้นมาล้างเบา ๆ จากนั้นใช้ผ้าขนหนูค่อย ๆ ซับให้แห้ง บอกเลยว่า สตรีทุกคนควรให้เวลากับการล้างหน้าและฝึกให้เป็นนิสัย ถ้าล้างไม่สะอาดหมดจด บำรุงดีแค่ไหน ก็รับรองว่า รูขุมขนอุดตัน สิวถามหาแน่นอน

2.โบกครีมบำรุงแบบเน้น ๆ

หลังจากล้างหน้าจนสะอาดปราศจากสิ่งสกปรกแล้ว ห้ามลืมทาครีมบำรุงผิวหน้าเด็ดขาด โดยเฉพาะการเติมมอยส์เจอร์ไรเซอร์เพื่อเพิ่มความชุ่มชื่นให้แก่ผิวหน้า และลดการระคายเคืองจากการถูกแสงแดดช่วงกลางวัน สาว ๆ ควรเลือกครีมบำรุงที่เหมาะกับสภาพผิวของตัวเอง และเลือกใช้ครีมให้ถูกประเภท เช่น ก่อนนอนใช้ไนท์ครีมเพราะถูกออกแบบสูตรมาให้เหมาะสมกับการฟื้นฟูผิวในช่วงเรานอนหลับ จะทำให้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบำรุงอย่างสูงสุด



3.มาร์กหน้าด้วยน้ำผึ้ง

หาซื้อง่ายมาก แนะนำเลยค่ะ ในร้านสะดวกซื้อก็ได้ค่ะ หลังล้างหน้าเพียงแค่ทาน้ำผึ้งทั่วหน้าแล้วให้นิ้วนวดเบา ๆ แล้วพอกทิ้งไว้ 10-15 นาที จากนั้นล้างออกด้วยน้ำอุ่น น้ำผึ้งมีคุณสมบัติช่วยกักเก็บความชุ่มชื่น ทำให้ผิวเรียบเนียน ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองจึงเหมาะสำหรับสาว ๆ ที่ผิวแพ้ง่ายสามารถกำจัดสิวโดยไม่ต้องใช้สารเคมีรุนแรงใด ๆ นอกจากนี้ถ้าหยดน้ำมะนาวลงไปสัก 1-2 หยด ยังสามารถช่วยรักษารอยด่างดำจากสิวได้อีกด้วยค่ะ

4.อายครีมสำคัญ!

ทราบไหมคะว่า ผิวรอบดวงตาเป็นส่วนที่บอบบางและเกิดริ้วรอยง่ายที่สุด เพราะเราใช้สายตาหนักหน่วงทั้งวันทำให้กล้ามเนื้อบริเวณรอบดวงตาอ่อนล้าและแห้งกร้าน ดังนั้น ก่อนนอนเราจึงควรทา Eye Cream บำรุงรอบดวงตาเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น ลดความหมองคล้ำ ริ้วรอย และให้เนื้อครีมไปช่วยฟื้นฟูผิวระหว่างเราหลับค่ะ

5.อย่าลืมทาครีมที่มือและเท้า

สังเกตไหมคะว่า มือกับเท้าเป็นส่วนที่เราใช้งานหนักตลอดและผิวบริเวณนั้นมักจะแห้งกร้าน ส้นเท้าแตกระแหงยังเอาเท้าไปผ่านผ้าห่มไม่ได้นะ ขุยผ้าติดมาเลยจ้า ยิ่งสาวคนไหนที่นอนห้องแอร์เป็นประจำ ซึ่งอากาศจะแห้งกว่าปกติ ก็จะยิ่งทำให้ผิวทั่วทั้งตัวแห้งตึงได้ แม้แต่การล้างจานไม่กี่ใบ น้ำยาล้างจานเนี่ยแหละค่ะตัวดีเลย แนะนำให้เลือกชนิดอ่อนโยน เมื่อล้างเสร็จแล้วก็ล้างน้ำเปล่าให้เกลี้ยง แล้วทางที่ดีก่อนนอนควรทาครีมเพื่อเพิ่มควรชุ่มชื่นก่อนนอนเป็นประจำ



6.เพิ่มความชุ่มชื้นให้ริมฝีปากด้วยการทาลิปบาล์ม

ทาลิปสติกมาทั้งวัน ได้เวลาปรนนิบัติฟื้นฟูริมฝีปากของเราด้วยการทาลิปบำรุงเพื่อเพิ่มความชุ่มชื่น และยังป้องกันริมฝีปากแห้งลอกเป็นขุยตอนตื่น ก่อนนอนอย่าลืมทาลิปบาล์มบำรุงทุกคืน จะได้ตื่นมาพร้อมริมฝีปากที่ชุ่มชื่นอ่อนนุ่มน่าจุ๊บ

7.งดอาหารมื้อใหญ่ในช่วงเย็น

นอกจากจะทำให้อ้วนแล้ว ยังทำให้ร่างกายเกิดอาการรวน นอนไม่หลับ ท้องอืด กรดไหลย้อน พอตื่นเช้าก็จะรู้สึกไม่สบายตัว ตัวบวมอืดได้ ทางที่ดีควรทานก่อนนอนซัก 2-3 ชั่วโมงค่ะ

8.นอนหงายให้เป็นนิสัย

หลายคนบางวันตื่นนอนมาแล้วหน้ายับย่นยู่ยี่ ก็มาจากท่านอนคว่ำหรือนอนตะแคง ไม่เอาไม่ดีค่ะ มันทำให้ผิวหน้าของเราไปเสียดสีกับหมอนทำให้เกิดริ้วรอย แล้วก็ควรจะนอนหงายโดยหนุนหมอนสูงประมาณ 2-4 นิ้ว จะช่วยให้มีการไหลเวียนของน้ำเหลืองและเลือด ซึ่งทำให้ดูดีมีเลือดฝาดและรู้สึกสดชื่นในตอนเช้า

9.รวบผมก่อนหัวถึงหมอน

บางวันที่กลับถึงบ้านดึกไม่มีเวลาสระ-ไดร์ผมก่อนนอน การที่ปล่อยผมแล้วนอนทำให้ผิวหน้าสัมผัสกับผมโดยตรง ซึ่งมีทั้งสารเคมีจากสเปรย์ใส่ผมและฝุ่นควัน ทำให้วันรุ่งขึ้นสิวจะมาหาได้ เพราะฉะนั้นการรวบผมหลวม ๆ ป้องกันใม่ให้ผมมาโดนหน้าในช่วงที่หลับเป็นอีกวิธีที่จะช่วงให้หลีกเลี่ยงการเกิดสิวได้ แต่ก็อย่ารวบตึงเกินไป ไม่อย่างนั้นจะทำให้เลือดไม่ไหลเวียนและปวดหัวได้

10.เปิดเพลงเบา ๆ ก่อนนอน

การเปิดเพลงคลอก่อนนอนสัก 45 นาที จะช่วยให้สมองของเราผ่อนคลาย นอนหลับสบายมากขึ้น แนะนำให้เปิดเพลงคลาสสิกหรือเพลงบรรเลงจังหวะช้า ๆ สบาย ๆ (อารมณ์เพลงเสียงน้ำไหล เสียงนกจิ๊บๆ นั่นแหละค่ะ) จะดีกว่าเพลงที่มีเนื้อร้องเพราะสมองของเราอาจจะคิดตามเนื้อเพลง ทำให้ร้องเพลินจนร่างกายตื่น นอนไม่หลับซะงั้น ถ้าไม่มีลิสต์เพลงในใจแนะนำให้โหลดแอปฯเพลงสำหรับเปิดตอนนอน มีอยู่เยอะเลยค่ะ


เป็นอย่างไรบ้างคะ กับ 10 วิธีแสนง่ายที่จะช่วยให้ตื่นมาสวยปิ๊งสดชื่นโดยไม่ต้องเสียเงินเยอะ (ส่วนใครเมื่อคืนปาร์ตี้หนัก ตามมาอ่านบทความที่นี่ได้เลยนะ) แถมไม่ต้องตกใจตัวเองเวลาส่องกระจกตอนตื่นนอนอีกแล้ว จะได้ตื่นขึ้นมาพร้อมความมั่นใจเต็มพิกัด ลุยงาน ลุยรัก ลุยชีวิตได้เต็มที่

ขอขอบคุณแหล่งที่มา  www.blogger.com


Tuesday, July 2, 2019

5 สูตรปรนนิบัติผิวเท้าให้ขาวกระจ่างใสเนียนนุ่ม

5 สูตรปรนนิบัติผิวเท้าให้ขาวกระจ่างใสเนียนนุ่ม


เป็นผู้หญิงต้องดูดี สวยงามตั้งแต่ หัวจรดเท้า เพราะเท้าก็ถือเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญและต้องใส่ใจดูแลเช่นกัน โดยวันนี้เราก็มี 5 วิธีดูแลเท้าให้ขาวสวย เนียนนุ่มมาฝาก ไปดูกันเลยว่ามีวิธีดูแลอย่างไรบ้าง


1.สูตรฟื้นฟูผิวเท้าด้วยไข่ขาว
เนื่องจากไข่ขาวมีสารลูทีน (Lutein) ซึ่งเป็นสารที่ช่วยในเรื่องของการต่อต้านอนุมูลอิสระ บาคาร่า จึงสามารถทำให้เท้าที่ดูหมองคล้ำกลับมาขาวขึ้นได้ด้วยสูตรนี้ โดยวิธีการทำให้ตีไข่ขาวจนเกิดเป็นฟองนุ่ม จากนั้นจึงนำมาพอกทิ้งไว้ให้ทั่วบริเวณเท้าของเรา แล้วทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที แล้วล้างออกให้สะอาด เพียงเท่านี้ก็จะทำให้เท้าดูขาวใสและมีความเนียนนุ่มมากขึ้นแล้ว



2.สูตรสครับเท้าด้วยน้ำมะนาวและเกลือ
เพียงใช้น้ำมะนาวผสมกันกับเกลือประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ เสร็จแล้วนำส่วนผสมที่ได้มาขัดนวดเบาๆ ที่ผิวหน้า และนิ้วเท้าประมาณ 5 นาที จากนั้นให้ทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที โดยสูตรนี้จะช่วยกำจัดสิ่งสกปรกที่ตกค้างอยู่ตามผิวหนังและซอกนิ้วเท้าให้หมดไป จึงทำให้เท้ามีความขาวสวยและมีสุขภาพเท้าที่ดียิ่งขึ้น

เป็นผู้หญิงต้องดูดี สวยงามตั้งแต่หัวจรดเท้า เพราะเท้าก็ถือเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญและต้องใส่ใจดูแลเช่นกัน โดยวันนี้เราก็มี 5 วิธีดูแลเท้าให้ขาวสวย เนียนนุ่มมาฝาก ไปดูกันเลยว่ามีวิธีดูแลอย่างไรบ้าง

3.สูตรขจัดเซลล์ผิวเก่าด้วยน้ำมะนาวและน้ำผึ้ง
สาเหตุหลักอีกประการหนึ่งที่ทำให้เท้าของสาวๆ แลดูหมองคล้ำ เกิดจากเซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้วยังไม่ถูกขจัดออกไป เราจึงขอนำเสนอสูตรนี้เพื่อจัดการกับเซลล์ผิวเก่าโดยเฉพาะ ซึ่งวิธีการทำก็เพียงนำน้ำมะนาวและน้ำผึ้งอย่างละ 1 ช้อนโต๊ะ เทรวมกันและคนให้เป็นเนื้อเดียว จากนั้นจึงนำส่วนผสมที่ได้มาสครับอย่างเบามือตรงบริเวณหลังเท้า และส้นเท้าทิ้งไว้ประมาณ 20 – 30 นาที แล้วจึงล้างออก เพียงเท่านี้ผิวเท้าก็จะขาวเนียนใสขึ้นอย่างทันใจ



4.สูตรเท้าขาวด้วยว่านหางจระเข้
เนื่องจากว่านหางจระเข้ เป็นตัวช่วยอย่างดีในเรื่องของการลดเลือนจุดด่างดำ การนำวุ้นใสจากว่านหางจระเข้ มาทาบริเวณหลังเท้าที่มีจุดด่างดำเกิดขึ้น โดยปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที แล้วล้างออกให้สะอาด ก็จะทำให้เท้าดูขาวกระจ่างใสและมีสีผิวที่เรียบเนียนสม่ำเสมอมากกว่าเดิม


5.สูตรบำรุงผิวเท้าด้วยน้ำมะนาวและน้ำแตงกวา
สำหรับสูตรนี้ให้นำน้ำมะนาวและน้ำแตงกวาในปริมาณเท่าๆ กัน มาพอกทาทิ้งไว้จนแห้ง เสร็จแล้วล้างออกให้สะอาดด้วยน้ำเย็น ก็จะช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ และทำให้เท้าของสาวๆ กลับมาชุ่มชื้น ไม่หยาบกร้านอีกต่อไป ใครอยากมีผิวเท้าที่ขาวเนียนนุ่มก็ต้องลองสูตรนี้กันเลย


เป็นอย่างไรกันบ้าง สำหรับสูตรเท้าขาวทั้ง 5 วิธีที่เรานำมาแนะนำกัน อาจจะใช้เวลาในการฟื้นฟูสักหน่อย แต่ก็ได้ผลลัพธ์ที่ดีจริงอย่างแน่นอน


ขอขอบคุณแหล่งที่มา  www.blogger.com

Monday, July 1, 2019

ผิวมัน ดูแลยังไงให้หน้าเนียนเด้ง ไร้สิว

ผิวมัน ดูแลยังไงให้หน้าเนียนเด้ง ไร้สิว

ผิวมัน หากรู้วิธีดูแล ก็เนียนใสไร้สิวได้
สาวๆ ผิวมัน มักมีข้อสงสัยในใจ ทำมันต้องผิวมัน ทำไมถึง รูขุมขนกว้าง สิวยังขึ้นง่ายอีก แล้วจะดูแลอย่างไร ให้หน้าใสเหมือนคนอื่นเค้าบ้าง วันนี้เรามีเคล็ดลับจากผู้เชี่ยวชาญมาบอกต่อ บาคาร่า รับรองว่าจะช่วยชีวิตสาวผิวมันได้แน่ๆ



ผิวมัน ทำไมปัญหาเยอะ
ศาสตราจารย์ดร. นายแพทย์ธัมม์ทิวัตถ์  นรารัตน์วันชัย ที่ปรึกษาสำนักวิชาเวชศาสตร์ชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพ โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง กรุงเทพมหานคร ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับสภาพผิวมันไว้ดังนี้

“คนผิวมันมีรูขุมขนกว้างเห็นชัดเจน มีโอกาสเกิดสิวได้ง่าย หลังจากล้างหน้าเพียง 1 ชั่วโมงจะรู้สึกว่ามีน้ำมันบางๆเคลือบทั่วผิวหน้า สร้างความกังวลใจ ทำให้ต้องซับหน้าอยู่บ่อยๆหรือล้างหน้าบ่อยๆ

“โดยฮอร์โมนจะเป็นตัวควบคุมต่อมไขมันในการหลั่งไขมันปริมาณมากหรือน้อย นอกจากนี้ความเครียดและความร้อนก็เป็นปัจจัยกระตุ้นการหลั่งไขมันด้วย แต่จะพบว่า ในช่วงวัยรุ่นต่อมไขมันจะทำงานมากกว่าปกติ ทำให้หน้ามันมากขึ้น และเชื่อว่าพันธุกรรมก็มีส่วนเกี่ยวข้อง ซึ่งส่งผลให้หน้ามันและเกิดสิวมากน้อยแตกต่างกันไป”

สาวผิวมันควรดูแลผิวหน้าอย่างไร
คุณหมอธัมม์ทิวัตถ์แนะนำวิธีดูแลผิวมันในเบื้องต้นไว้ ดังนี้

1. ไม่ควรล้างหน้าบ่อย เช่น ล้างทุกๆ 2 ชั่วโมง เพราะการล้างหน้ามากเกินไปจะทำให้ผิวหนังชั้นกำพร้ามีอาการบวมน้ำ เกิดการระคายเคือง และทำให้เกิดอาการแพ้ได้ ควรล้างหน้าให้สะอาดวันละ 2-3 ครั้งก็เพียงพอ

2. สำหรับคนที่มีรูขุมขนกว้าง ควรล้างหน้าให้สะอาดเพื่อทำให้ความมันบนใบหน้าลดลง ไม่ควรใช้ครีมชนิดที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นแก่ผิว
ควรใช้โลชั่นที่มีฤทธิ์กระตุ้นการหมุนเวียนเลือด

3. หลีกเลี่ยงอาหารบางชนิด หนังสือ เคล็ดลับรับมือทุกปัญหาสิวเพื่อผิวสวย สำนักพิมพ์อมรินทร์สุขภาพ โดย แพทย์หญิงธิดากานต์ รัตนบรรณางกูร แนะนำอาหารที่ควรหลีกเลี่ยงสำหรับคนผิวมันไว้ดังนี้ นมและผลิตภัณฑ์จากนม เช่น ชีส ไอศกรีม ของหวาน เช่น เค้ก ช็อกโกแลต



เลือกผลิตภัณฑ์สำหรับคนผิวมัน
ข้อมูลจาก แพทย์หญิงเลสลี่  เบามานน์  ผู้เขียนหนังสือ The Skin Type Solution สำนักพิมพ์Bantam Books เเนะนำไว้ดังนี้

ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าและผิวกาย

ปัจจุบันมีเนื้ออยู่หลายประเภททั้งชนิดครีม (Cream) โลชั่น (Lotion) เจล (Gel) อิมัลชั่น (Emulsion) และซีรั่ม (Serum) สำหรับคนผิวมัน ควรเลือกชนิดโลชั่น เพราะเนื้อบางเบา ซึมได้เร็ว มีส่วนประกอบของน้ำมากกว่าน้ำมัน ระเหยง่าย สามารถดูดซึมเข้าสู่ผิวได้เร็ว ไม่เหนียวเหนอะหนะ และไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน (Oil Free)

ข้อมูลจากหนังสือกฎแห่งผิวสวย ของแพทย์หญิงโยะชิคิ โนะบุโกะ สำนักพิมพ์อมรินทร์สุขภาพ ระบุว่า เนื่องจากปริมาณน้ำมันในผิวได้รับผลกระทบจากฮอร์โมน การบำรุงผิวจึงไม่สามารถลดความมันบนผิวได้ง่าย ๆ แทนที่จะพยายามลดความมัน ควรเน้นเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวด้วย จึงแนะนำให้ผู้มีผิวมันทาซีรั่มผสมเซราไมด์ เพื่อคืนความสมดุลและช่วยป้องกันไม่ให้ผิวขับน้ำมันออกมามากเกินไป

สำหรับคนผิวมันที่เป็นสิวนั้น แพทย์หญิงเลสลี่ เบามานน์แนะนำให้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมดังนี้ เบนซอยล์เปอร์ออกไซด์(Benzoyl Peroxide) น้ำมันต้นชา (Tea Tree Oil) เรตินอล (Retinol) ซิงค์ (Zinc) กรดซาลิไซลิก (Salicylic Acid)

สบู่

เลือกสบู่ชนิดธรรมดา ชนิดที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน หรือชนิดที่มีส่วนผสมของเกลือทะเล ข้าวโอ๊ต น้ำตาลทรายเเดง และเมล็ดลูกพีช เพราะมีคุณสมบัติที่ดีต่อผิวมัน

ครีมกันเเดด

ไม่ควรเลือกชนิดที่มีส่วนผสมของน้ำมัน ควรเลือกชนิดมีส่วนผสมของซิงค์ออกไซด์(Zinc Oxide) และไทเทเนียมไดออกไซด์ (Titanium Dioxide) เพื่อป้องกันการเกิดสิวอุดตันในกรณีผิวดำคล้ำให้เลือกครีมกันแดดชนิดเจลหรือโฟมแทนชนิดครีม

คลีนเซอร์หรือผลิตภัณฑ์ล้างหน้า

คลีนเซอร์หรือผลิตภัณฑ์ล้างหน้ามีมากมายหลายชนิด เช่น ครีม โฟม ผง เจล เป็นต้น ผู้ที่มีผิวมันไม่ควรเลือกใช้คลีนเซอร์ชนิดโฟมหรือครีม เพราะมีน้ำมันเป็นองค์ประกอบอยู่ถึง 30 เปอร์เซ็นต์ จึงทำให้มีน้ำมันตกค้างบนผิวหน้า ควรเลือกชนิดที่มีน้ำ (Water Base) เป็นส่วนผสมหลัก

หนังสือ Alwaysfluke’s Best Tips for Men ดูดีเรื่องง่ายๆ ทำได้เดี๋ยวนี้ สำนักพิมพ์Steps แนะนำว่า

คนผิวมันไม่ควรใช้คลีนเซอร์ที่เน้นความอ่อนโยนมากเกินไป เพราะจะกำจัดน้ำมันส่วนเกินได้ไม่ดีพอ ควรเลือกผลิตภัณฑ์ประเภทเจล เพราะมีส่วนผสมที่ปราศจากน้ำมันและมีค่าความเป็นด่างน้อยกว่าสบู่ ข้อดีอีกประการคือ ล้างออกง่าย

หากต้องการมีผิวสวย ผิวสุขภาพแข็งแรง นอกจากเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสมกับสภาพผิวแล้ว ยังต้องปรับพฤติกรรมการกินอยู่ พักผ่อน นอนหลับให้สมดุลก็จะช่วยให้คุณมีทั้งผิวและสุขภาพแข็งแรงตลอดไป

ขอขอบคุณแหล่งที่มา  www.blogger.com