การดุแลผิวหน้าไม่ให้หมองคล้ำ
1.ชำระล้างผิวหน้า
กระบวน การ ทำความสะอาดผิวหน้า เป็นเรื่องสำคัญ โดยก่อนล้างหน้าล้างตา ควรจะขัดถูเครื่องแต่งหน้าให้ออกหมดก่อนด้วยสินค้าชำระล้างสำหรับผิวหน้า เมื่อชำระล้างเสร็จและจากนั้นก็ล้างหน้าล้างตาด้วยสินค้าล้างหน้าล้างตาที่เหมาะสมกับภาวะผิวของตัวเอง บาคาร่า
2 ผลัดเซลล์ผิวเก่าออก
เพราะเหตุใดจำเป็นต้องให้เซลล์ผิวเก่าถูกกำจัดออกไป เนื่องจากว่ามูลเหตุหนึ่งที่ทำให้ผิวหน้าหมองคล้ำ ก็เพราะว่าเซลล์ผิวเก่าไม่หลุดลอกออกไปหรือหลุดลอกช้า นำไปสู่การสะสมของเซลล์ผิวที่หมดสภาพจำนวนมากจ้ะ ซึ่งนอกเหนือจากที่จะทำให้ผิวหมองคล้ำแล้วยังส่งผลให้ผิวแข็งกระด้างด้วย และก็นำมาซึ่งการทำให้การดูดซึมของครีมบำรุงลงสู่ชั้นผิวหนังได้ลดลง
3 ประคบผิวหน้าด้วยละอองน้ำรวมทั้งทาครีมบำรุง
แนวทางกล้วยๆสำหรับการประคบผิวหน้าด้วยละอองน้ำ เป็น จัดเตรียมน้ำอุ่นไว้ แล้วนำผ้าขนหนูชุบน้ำอุ่นรวมทั้งบิดหมาดๆเสร็จแล้วเอามาประคบบนผิวหน้า เพื่อช่วยทำให้รูขุมขนเปิดออกและก็กระตุ้นการไหลเวียนของโลหิตบนบริเวณใบหน้า ภายหลังจากประคบหน้าแล้วหลังจากนั้นก็ทาครีมบำรุงต่างๆได้เลย ด้วยเหตุว่าเมื่อรูขุมขุนเปิด การทาครีมบำรุงกลุ่มนี้ก็จะสามารถลงไปถึงชั้นที่ลึกที่สุดได้ สำหรับคนหน้ามันอุตสาหะเลี่ยงการใช้ครีมบำรุงที่มีส่วนผสมของน้ำมันจ้ะ
4 ทาโลชั่นที่เอาไว้สำหรับป้องกันแดด
ขั้นตอนนี้เป็นอีกขั้นตอนสำคัญ เนื่องจากว่าในชีวิตประจำวันพวกเราจะต้องพบเจอกับแดด รวมทั้งแสงสว่างจากหน้าจอคอมพิวเตอร์รวมทั้งโทรศัพท์เคลื่อนที่ ซึ่งมีผลต่อผิวหน้าของพวกเรา โดยเหตุนี้จำเป็นจะต้องทาโลชั่นที่เอาไว้กันแดดทุกหน เผื่อคุ้มครองจากแสงสว่างกลุ่มนี้ ซึ่งจะมีผลให้กำเนิดฝ้า กระ ริ้วรอยต่างๆขึ้นมาได้จ้ะ
5 บริหารร่างกายเป็นประจำ
พวกเราควรจะบริหารร่างกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อเลือดสูบฉีดไปเลี้ยงทุกส่วนของร่างกาย รวมทั้งช่วยผ่อนคลายเพื่อไม่ให้เกิดความเคร่งเคลียดด้วยจ้ะ ซึ่งจะก่อให้ผิวพรรณผ่องใส รู้สึกชื่นบานได้วันแล้ววันเล่าจ้ะ
ขอบคุณแหล่งที่มา https://www.apexprofoundbeauty.com
Monday, September 23, 2019
Sunday, September 22, 2019
มะเขือเทศกับสรรพคุณบำรุงผิว
มะเขือเทศ
ผลไม้ที่เป็นตัวช่วยชั้นยอดที่มีทั้งวิตามินและแร่ธาตุ รวมถึงสารต้านอนุมูลอิสระช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยแห่งวัย ให้สาว ๆ นำมาหั่นเป็นแว่นหนาประมาณครึ่งนิ้วสำหรับสครับใบหน้าก่อนอาบน้ำเพื่อขจัดเซลล์ผิวเก่า สิวเสี้ยน ลดความหมองคล้ำ หรือจะสับละเอียดแล้วนำมาพอกหน้าสัก 30 นาทีก่อนเข้านอน เมื่อตื่นมาตอนเช้าผิวจะดูเปล่งปลั่ง สดใสขึ้น ขาวขึ้นอย่างเห็นได้ชัดค่ะ บาคาร่า
Saturday, September 21, 2019
การดูแลผิวหน้า ให้ดูสมวัยอย่างสม่ำเสมอ
การดูแลผิวหน้า ให้ดูสมวัยอย่างสม่ำเสมอ
วัยขบเผาะไปจนถึงวัยทำงาน อายุประมาณ 15-20 ปี
ปัญหาผิว ที่พบบ่อยในวัยนี้คือ สิวกวนตัวและ สิวกวนใบหน้า โดยเจ้าสิวทั้งเม็ดเล็ก เม็ดใหญ่ สิวเสี้ยน สิวหัวช้างจะมาเต็มไปหมด นั่นเป็นเพราะฮอร์โมนของวัยที่แรงดีมากเป็นพิเศษในช่วงวัยนี้ ยิ่งช่วงใกล้มีประจำเดือนหรือมีเรื่องเครียดด้วยแล้ว เจ้าสิวเม็ดโตจะประดังกันเข้ามาแบบไม่ขาดสาเลยล่ะค่ะ
วิธีแก้ปัญหสภาพผิว กายาและดูแล
อันดับแรกก็คือ ไม่ควรทำรุนแรงกับสิวด้วยการบีบ แกะ เค้น เพราะมือที่สกปรกและแรงกดจะทำให้สิวยิ่งอักเสบและใบหน้าเกิดรอยช้ำเข้าไปใหญ่หากทนไม่ไหวเพราะสิวมันมาเต็มหน้าจนนอนไม่หลับ แนะนำให้ไปปรึกษาเภสัชกร หรือแพทย์ผิวหนังเฉพาะทาง อีกอย่างที่สำคัญคือเรื่องของความเครียด ดังนั้น คนในวัยนี้ที่รู้ตัวว่าเป็นคนเครียดง่ายก็หัดปล่อยวางลงบ้างควรทำความสะอาดหน้าวันละ 2-3 ครั้ง ด้วยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่อ่อนโยนเหมาะกับสภาพผิวของตัวเอง หากมีกิจกรรมนอกบ้าน หรือต้องออกกำลังกายกลางแจ้ง ควรใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF 15+ ขึ้นไปหลังจากดูแลผิวหน้าก็อย่าลืมดูแลผิวกายด้วยการอาบน้ำให้สะอาดวันละ 2 ครั้ง ในตอนเช้าและตอนเย็น และหลังอาบน้ำต้องทามอยส์เจอร์ไรเซอร์เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นยืดหยุ่นให้ผิวกายด้วยนะคะ บาคาร่า
วัยทำงานไฟแรงสูง อายุประมาณ 25-29 ปี
ปัญหาผิวของสาววัยนี้คือผิวจะเหมือนเด็กก็ไม่ใช่ จะเหมือนแก่ก็ไม่เชิง เพราะเป็นวัยคาบเกี่ยวระหว่างเด็กวัยใสกับผู้ใหญ่วัยทำงาน คนในวัยนี้จะมีปัญหาสิวแบบช่วงวัยรุ่นน้อยลง แต่จะเป็นมากหน่อยก็ช่วงมีประจำเดือนเท่านั้น ปัญหาหลักเลยคือเรื่องของการเริ่มมีริ้วรอย เพราะเมื่อเข้าสู่เลข 25 อะไรๆ ก็อาจจะเสื่อมลง เนื่องจากคอลลาเจนและอิลาสตินที่สร้งความแข็งแรงยืดหยุ่นให้ผิวได้ถูกทำลายลงนั่นเอง หากไม่รีบใส่ใจดูแลผิวในช่วงนี้จะทำให้ผิวโทรมลงอย่างรวดเร็ว
วิธีแก้ไขและดูแลสภาพผิว
สาวๆ วัยนี้ควรทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 15+ ขึ้น ไปเมื่อออกจากบ้านทุกครั้ง ผิวจะได้ขาวใส ไม่ไหม้เกรียม ไม่เกิดริ้วรอยก่อนวัยอันควร
ควรบำรุงผิวหน้าและผิวกายด้วยมอยส์เจอร์ไรเซอร์ในทุกวันเวลาก่อนนอน เพื่อผิวจะได้ไม่ขาดความชุ่มชื้น มีความยืดหยุ่น ไม่แห้งกร้านอยู่เสมอ ทางที่ดีควรใช้ครีมบำรุงที่มีส่วนผสมของ AHA สักสัปดาห์ละครั้ง เพื่อช่วยผลัดเซลล์ผิวใหม่ ทำให้ผิวดูสดใสไม่หมองคล้ำ
หมั่นกินอาหารบำรุงผิวให้สดใสเปล่งปลั่งด้วยการกินผัก ผลไม้ที่มีแอนติออกซิแดนซ์ซึ่งช่วยชะลอวัยทำให้ผิวพรรณเต่งตึงขึ้น และควรกินเป็นประจำทุกวันอย่างต่อเนื่อง ไม่ควรกินๆ หยุดๆ นะคะ
ขอบคุณแหล่งที่มา https://goodlifeupdate.com
วัยขบเผาะไปจนถึงวัยทำงาน อายุประมาณ 15-20 ปี
ปัญหาผิว ที่พบบ่อยในวัยนี้คือ สิวกวนตัวและ สิวกวนใบหน้า โดยเจ้าสิวทั้งเม็ดเล็ก เม็ดใหญ่ สิวเสี้ยน สิวหัวช้างจะมาเต็มไปหมด นั่นเป็นเพราะฮอร์โมนของวัยที่แรงดีมากเป็นพิเศษในช่วงวัยนี้ ยิ่งช่วงใกล้มีประจำเดือนหรือมีเรื่องเครียดด้วยแล้ว เจ้าสิวเม็ดโตจะประดังกันเข้ามาแบบไม่ขาดสาเลยล่ะค่ะ
วิธีแก้ปัญหสภาพผิว กายาและดูแล
อันดับแรกก็คือ ไม่ควรทำรุนแรงกับสิวด้วยการบีบ แกะ เค้น เพราะมือที่สกปรกและแรงกดจะทำให้สิวยิ่งอักเสบและใบหน้าเกิดรอยช้ำเข้าไปใหญ่หากทนไม่ไหวเพราะสิวมันมาเต็มหน้าจนนอนไม่หลับ แนะนำให้ไปปรึกษาเภสัชกร หรือแพทย์ผิวหนังเฉพาะทาง อีกอย่างที่สำคัญคือเรื่องของความเครียด ดังนั้น คนในวัยนี้ที่รู้ตัวว่าเป็นคนเครียดง่ายก็หัดปล่อยวางลงบ้างควรทำความสะอาดหน้าวันละ 2-3 ครั้ง ด้วยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่อ่อนโยนเหมาะกับสภาพผิวของตัวเอง หากมีกิจกรรมนอกบ้าน หรือต้องออกกำลังกายกลางแจ้ง ควรใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF 15+ ขึ้นไปหลังจากดูแลผิวหน้าก็อย่าลืมดูแลผิวกายด้วยการอาบน้ำให้สะอาดวันละ 2 ครั้ง ในตอนเช้าและตอนเย็น และหลังอาบน้ำต้องทามอยส์เจอร์ไรเซอร์เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นยืดหยุ่นให้ผิวกายด้วยนะคะ บาคาร่า
วัยทำงานไฟแรงสูง อายุประมาณ 25-29 ปี
ปัญหาผิวของสาววัยนี้คือผิวจะเหมือนเด็กก็ไม่ใช่ จะเหมือนแก่ก็ไม่เชิง เพราะเป็นวัยคาบเกี่ยวระหว่างเด็กวัยใสกับผู้ใหญ่วัยทำงาน คนในวัยนี้จะมีปัญหาสิวแบบช่วงวัยรุ่นน้อยลง แต่จะเป็นมากหน่อยก็ช่วงมีประจำเดือนเท่านั้น ปัญหาหลักเลยคือเรื่องของการเริ่มมีริ้วรอย เพราะเมื่อเข้าสู่เลข 25 อะไรๆ ก็อาจจะเสื่อมลง เนื่องจากคอลลาเจนและอิลาสตินที่สร้งความแข็งแรงยืดหยุ่นให้ผิวได้ถูกทำลายลงนั่นเอง หากไม่รีบใส่ใจดูแลผิวในช่วงนี้จะทำให้ผิวโทรมลงอย่างรวดเร็ว
วิธีแก้ไขและดูแลสภาพผิว
สาวๆ วัยนี้ควรทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 15+ ขึ้น ไปเมื่อออกจากบ้านทุกครั้ง ผิวจะได้ขาวใส ไม่ไหม้เกรียม ไม่เกิดริ้วรอยก่อนวัยอันควร
ควรบำรุงผิวหน้าและผิวกายด้วยมอยส์เจอร์ไรเซอร์ในทุกวันเวลาก่อนนอน เพื่อผิวจะได้ไม่ขาดความชุ่มชื้น มีความยืดหยุ่น ไม่แห้งกร้านอยู่เสมอ ทางที่ดีควรใช้ครีมบำรุงที่มีส่วนผสมของ AHA สักสัปดาห์ละครั้ง เพื่อช่วยผลัดเซลล์ผิวใหม่ ทำให้ผิวดูสดใสไม่หมองคล้ำ
หมั่นกินอาหารบำรุงผิวให้สดใสเปล่งปลั่งด้วยการกินผัก ผลไม้ที่มีแอนติออกซิแดนซ์ซึ่งช่วยชะลอวัยทำให้ผิวพรรณเต่งตึงขึ้น และควรกินเป็นประจำทุกวันอย่างต่อเนื่อง ไม่ควรกินๆ หยุดๆ นะคะ
ขอบคุณแหล่งที่มา https://goodlifeupdate.com
Friday, September 20, 2019
การเช็ดโทนเนอร์ปรับสมดุลผิว พร้อมบำรุง
เช็ดโทนเนอร์ปรับสมดุลผิว
หลายคนมักมองข้ามขั้นตอนนี้ไป ด้วยคิดว่าไม่มีความสำคัญและผิวไม่ดีขึ้นเลยสักนิด ซึ่งความจริงแล้วการเช็ดหน้าด้วยโทนเนอร์จำเป็นอย่างยิ่งกับทุกสภาพผิว เพราะหลังจากล้างหน้า ความสมดุลก็หายไป ต่อให้ทาครีมบำรุงดีแค่ไหนผิวก็ไม่เปิดรับ แต่ถ้าเช็ดหน้าด้วยโทนเนอร์แล้ว สภาพผิวจะกลับมาเป็นปกติพร้อมรับการบำรุงอย่างเต็มที่แน่นอน บาคาร่า
Thursday, September 19, 2019
ชาสมุนไพรเพื่อผิวสวยสุขภาพดี
สวยและสุขภาพดีรู้แล้วต้อบจิบซะหน่อยชาสมุนไพร
ชา มีประโยชน์ต่อสุขภาพ ยิ่งถ้าอากงอาม่ายังมีชีวิตอยู่นะคะ จะเห็นท่านดื่มกันตั้งแต่ตื่นนอนตอนเช้าจนถึงตอนเย็นกันเลยทีเดียวค่ะ ชาช่วยรักษาร่างกายให้ชุ่มชื้น ทำให้ผิวพรรณมีน้ำมีนวล แลดูอ่อนเยาว์ และยังช่วยป้องกันไวรัสและแบคทีเรีย นอกจากนี้ ชายังเต็มไปด้วยสารแอนติออกซิแดนท์และฟลาโวนอยด์ ซึ่งช่วยในการปกป้องอาการเจ็บป่วยต่าง ๆ อีกด้วยนะคะ บาคาร่าผู้คนทั่วโลกหันมานิยมดื่มชากันมากขึ้น ซึ่งมีมากมายหลายหลากชนิดเหลือเกินค่ะ ไม่ว่าจะเป็นชาดำ ชาแดง เอิร์ลเกรย์ ดาร์จีลิง อัสสัม ชามีคาเฟอีน หรือชาดีคาฟ และอื่น ๆ อีกมากมาย
ซึ่งรายชื่อสมุนไพรที่น่าสนใจก็เช่น ชารางจืด, ชาชุมเห็ดเทศ, ชาเถาย่านางแดง, ชาบอระเพ็ด, ชากำลังเสือโคร่ง, ชากะเม็ง, ชาหญ้าดอกขาว, ชาหญ้าหนวดแมว, ชาหญ้าหวาน, ชาพลูคาว, ชาฟ้าทะลายโจร,
ชาเห็ดหลินจือ, ชาเจียวกู้หลาน, ชามะตูม, ชาเขียว, ชาดำ, ชาใบหม่อน, ชาใบแปะก๊วย, ชาใบบัวบก, ชาดอกคำฝอย, ชาดอกกระเจี๊ยบ เป็นต้น โดยใช้ชงดื่มจืด ๆ จะช่วยทำให้สุขภาพร่างกายดีและผิวพรรณงดงามขึ้นได้
Wednesday, September 18, 2019
การสครับผิวให้สะอาดใส
สครับผิวให้สะอาดใส
นอกจาก 2 ขั้นตอนตามที่บอกไปข้างต้น ในแต่ละสัปดาห์ก็ควรหาเวลาว่างขัดถูขี้ไคลที่ฝังลึกตามผิวหนังออกไปบ้าง ทั้งผิวหน้าและผิวกาย สำหรับผิวหน้าให้ใช้สครับที่อ่อนโยนที่สุด เพื่อป้องกันอาการแพ้ ถูนวดวนเบาๆ ให้ทั่วใบหน้า 5-10 นาที แล้วล้างออก จากนั้นล้างหน้าตามปกติ แล้วก็อย่าลืมนวดกดจุดบนใบหน้าด้วยเพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดบนผิวหน้า บาคาร่า
ส่วนผิวกายสามารถใช้เกลือสปา กากกาแฟ หรือน้ำตาลสครับผิว มาใช้ในการขัดผิวได้ ขัดนวดวนให้ทั่วเรือนร่าง 15-20 นาที ตามจุดต่างๆ เน้นที่หัวเข่า ข้อศอก และตาตุ่มเป็นพิเศษ ผิวจะได้เนียนเรียบเสมอกัน
Tuesday, September 17, 2019
การดูแลผิวหน้าด้วยการทำความสะอาดผิวให้ล้ำลึก
ทำความสะอาดผิวให้ล้ำลึก
ขั้นตอนแรกของการบำรุงผิวให้สวยใส เด้ง มีออร่า ก็คือ การทำความสะอาดผิวที่ถูกต้อง และสะอาดล้ำลึก เริ่มจากการทำความสะอาดผิวหน้า ถ้าคุณแต่งหน้าเป็นประจำ สิ่งแรกที่ต้องทำคือใช้คลีนเซอร์ล้างเครื่องสำอางให้หมดจด หลายๆ รอบ จนกว่าคราบเครื่องสำอางออกหมดจริงๆ จากนั้นล้างหน้าด้วยโฟมถ้าเป็นคนผิวมัน ก็ควรล้างด้วยเจลล้างหน้า 1-2 รอบ จากนั้นเช็ดหน้าให้แห้ง แล้วตามด้วยโทนเนอร์สูตรไม่มีแอลกอฮอล์อีก 1 ครั้ง แค่นี้ผิวหน้าของเราก็จะสะอาดล้ำลึกอย่างแท้จริง
ส่วนผิวกายก็ต้องฟอกสบู่ให้ทั่ว ทิ้งไว้ 1-2 นาทีก่อน ค่อยล้างคราบสบู่ออก วิธีนี้จะทำให้ฟองสบู่จับกับคราบไคล และสิ่งสกปรกออกจากผิวของเราได้ดียิ่งขึ้น บาคาร่า
Monday, September 16, 2019
กำจัดขี้แมลงวันด้วยน้ำแอปเปิ้ลไซเดอร์
น้ำแอปเปิ้ลไซเดอร์
น้ำส้มสายชูแบบแอปเปิ้ลไซเดอร์ เป็นน้ำส้มสายชูที่มีสารต้านอนุมูลอิสระและยังช่วยเร่งการผลัดเซลล์ผิว รวมถึงรักษาแผลเป็นให้จางได้เร็ว จึงมีประโยชน์มากกับคนที่ต้องการกำจัดขี้แมลงวันนะคะวิธีใช้แค่ทาลงบนใบหน้า โดยสามารถทาได้ทั่วใบหน้าเลยนะคะเพราะน้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลไซเดอร์ มีความอ่อนโยนต่อผิว แล้วทิ้งเอาไว้จนแห้งไปเองแล้วค่อยล้างหน้า หรือจะทิ้งไว้ 20 นาทีแล้วล้างออกก็ได้ค่า บาคาร่า
Sunday, September 15, 2019
วิธีกำจัดขี้แมลงวันโดยใช้ปูนแดง
ปูนแดงกำจัดขี้แมลงวัน
จะใช้ปูนแดงงแบบที่คนแก่กินกับหมากผสมกับสบู่ที่มีด่างเยอะๆ นะคะ ยกตัวอย่างก็สามารถใช้สบู่ซันไลต์ได้ ผสมกันอย่างละครึ่ง แต้มเฉพาะจุดเท่านั้น อย่าให้โดนตรงอื่นนะคะ แล้วทิ้งเอาไว้ อาจจะรู้สึกระคายเคืองบ้างนะคะ พอแห้งแล้วก็ล้างออกบางคนทำครั้งเดียวก็หาย บางคนก็ต้องซ้ำถึง 2 ครั้ง แต่ถ้าใครที่มีแผลตกสะเก็ด อย่าไปแกะนะคะ ให้ลอกไปเอง เท่านี้ก็ได้ผิวที่ไม่มีขี้แมลงวันแล้วค่ะ วิธีนี้ ยังใช้กำจัดไฝได้อีกด้วยนะคะ บาคาร่า
Friday, September 13, 2019
การลดถุงใต้ตาด้วยวัตถุดิบจากธรรมชาติ
ลดถุงใต้ตา ด้วยวัตถุดิบจากธรรมชาติ อย่างไร?
1.แตงกวานำแตงกวามาแช่เย็น ล้างให้สะอาด จากนั้นหั่นเป็นแว่น แล้วแปะที่ดวงตา ทิ้งไว้ 25 นาที ฤทธิ์เย็นของแตงกวาจะช่วยลดการอักเสบและลดการบวมได้ แถมดวงตายังสดใสเป็นประกายด้วย บาคาร่า
2.เกลือ
ใช้เกลือครึ่งช้อนโต๊ะผสมละลายกับน้ำอุ่น จากนั้นนำสำลีแผ่นกลมชุบแปะที่ดวงตาทิ้งไว้ 5 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำเย็น จะช่วยลดการบวมและอักเสบ ฟื้นฟูระบบการไหลเวียนของเส้นเลือดฝอยรอบดวงตาได้
3.นมจืด
นำนมจืดแช่เย็นชุบด้วยสำลีแผ่นกลม แปะที่ดวงตาทิ้งไว้นาน 20 นาที วิธีนี้จะดีมากต่อปัญหาการคั่งน้ำบริเวณดวงตาที่เป็นสาเหตุของการบวม ทำให้ถุงใต้ตายุบลงอย่างเห็นได้ชัด แถมบำรุงผิวรอบดวงตาให้นุ่มชุ่มชื่นอีกด้วย
4.ไข่ขาว
นำไข่ขาวมาทาบริเวณใต้ตาที่บวม จากนั้นให้ทิ้งไว้ 20 นาทีจนไข่ขาวแห้งตึง วิธีนี้จะช่วยให้ผิวบริเวณรอบดวงตากระชับขึ้นและทำให้ถุงใต้ตายุบลงได้อย่างรวดเร็วทันใจ
5.ถุงชา
ถุงชาที่แช่เย็นก็สามารถลดถุงใต้ตาได้ โดยให้นำถุงชามาจุ่มในน้ำเย็นอีกครั้ง แล้วแปะที่ดวงตาทิ้งไว้ 25 นาที จะช่วยให้การไหลเวียนของเลือดบริเวณรอบดวงตาเป็นปกติและช่วยลดความบวมลงได้ ถุงใต้ตาก็จะค่อยๆ หายไป
6.มันฝรั่งดิบ
หลายคนอาจสงสัยว่ามันฝรั่งช่วยได้จริงเหรอ เพราะไม่รู้ว่ามันฝรั่งอุดมไปด้วยสตาร์ช น้ำ และวิตามินเค วิตามินซีและวิตามินบี ซึ่งมีส่วนช่วยให้ถุงใต้ตายุบลง ลดการบวมได้เป็นอย่างดี วิธีทำก็ง่ายแสนง่าย เพียงนำมันฝรั่งดิบมาล้างให้สะอาด ฝานออกมาเป็นแว่น จากนั้นก็นำไปแปะที่ตาไว้ 20 นาทีเท่านี้ก็เรียบร้อย
7.น้ำมันสกัดจากวิตามินอี
นำน้ำมันสกัดจากวิตามินอีมาหยดลงในน้ำเย็น ผสมให้เข้ากัน จากนั้นนำสำลีแผ่นกลมมาชุบแล้วแปะที่ดวงตา ทิ้งไว้ 20 นาที ก็จะช่วยลดการบวมลงได้ ที่สำคัญก็คือ ช่วยลดริ้วรอยรอบดวงตาและเพิ่มความชุ่มชื้นได้ดีทีเดียว
Thursday, September 12, 2019
น้ำมันอะโวคาโด้ออยล์ใช้กับผิวหน้าอย่างไร?
วิธีใช้น้ำมันอะโวคาโด้ออยล์กับทาผิวหน้า
สามารถใช้น้ำมันอะโวคาโดในการดูแลผิวได้หลายวิธี โดยใช้เพียง 1-2 หยดและทาบนผิวของคุณให้ทั่ว สามารถใช้ได้ทุกวัน โดยไม่มีผลข้างเคียงใดๆใช้เป็นโลชั่นสำหรับผิวแตกลาย นวดน้ำมันอะโวคาโดให้เข้าสู่ผิวของคุณหลังจากอาบน้ำ โดยใช้น้ำมันอะโวคาโดเพียงไม่กี่หยด หยดใส่ลงโลชั่นหรือครีมบำรุงผิวของคุณที่ใช้ในชีวิตประจำวัน หรือสามารถผสมร่วมกับน้ำมันหอมระเหย เช่น น้ำมันหอมระเหยลาเวนเดอร์ เมื่อผสมแล้วก็คนให้เข้ากันแล้วทาเพื่อเป็น moisturizer ให้กับผิว บาคาร่า
Wednesday, September 11, 2019
ที่สุดแห่งสมุนไพรบำรุงผิวที่คุณอาจไม่รู้
ที่สุดแห่งสมุนไพรบำรุงผิว
ชาสมุนไพรเพื่อสุขภาพผิว ซึ่งรายชื่อสมุนไพรที่น่าสนใจก็เช่น ชารางจืด, ชาชุมเห็ดเทศ, ชาเถาย่านางแดง, ชาบอระเพ็ด, ชากำลังเสือโคร่ง, ชากะเม็ง, ชาหญ้าดอกขาว, ชาหญ้าหนวดแมว, ชาหญ้าหวาน, ชาพลูคาว, ชาฟ้าทะลายโจร, ชาเห็ดหลินจือ, ชาเจียวกู้หลาน, ชามะตูม, ชาเขียว, ชาดำ, ชาใบหม่อน, ชาใบแปะก๊วย, ชาใบบัวบก, ชาดอกคำฝอย, ชาดอกกระเจี๊ยบ เป็นต้น โดยใช้ชงดื่มจืด ๆ จะช่วยทำให้สุขภาพร่างกายดีและผิวพรรณงดงามขึ้นได้ บาคาร่าMonday, September 9, 2019
ผิวแตกลายทำอย่างไร วิธีรักษารอยแตกลายบนผิว
วิธีรักษารอยแตกลายบนผิว
ขัดผิวการขัดผิวจะช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดออกแล้วผลิตเซลล์ใหม่ขึ้นมาทดแทน ซึ่งเป็นการช่วยเสริมสร้างกระบวนการยืดหยุ่นของผิว ช่วยให้ผิวดูอ่อนเยาว์ การขัดผิวนั้นควรขัดวนไปมาเบาๆ โดยเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ขัดผิวที่มีความอ่อนโยน นอกจากนี้คุณควรบำรุงผิวด้วยครีมบำรุงเพื่อป้องกันไม่ให้ผิวแห้งคุณสามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการขัดผิวได้ที่นี่ บาคาร่า
เพิ่มความชุ่มชื่นให้กับผิว
หมั่นบำรุงผิวไม่ให้แห้งกร้านผิวที่เสียควรได้รับความชุ่มชื่นเพื่อช่วยให้สภาพผิวดีขึ้น ช่วยให้ผิวแตกลายเรีหลังการอาบน้ำ คุณควรทาครีมบำรุงผิวอย่าง วาสลีน ปิโตรเลี่ยม เจลลี่ โดยการทาแบบวนเป็นวงกลม วาสลีน ปิโตรเลี่ยม เจลลี่สามารถกักเก็บความชุ่มชื่นและช่วยซ่อมเเซมผิวที่แห้งกร้าน รวมถึงการเร่งกระบวนการรักษาผิวตามธรรมชาติให้มีประสิทธิภาพขึ้น
ว่านหางจระเข้สามารถช่วยลดผิวเเตกลายได้ เนื่องจากว่านหางจระเข้นั้นอุดมไปด้วยวิตามินที่ดีต่อผิว ไม่ว่าจะเป็นวิตามินอี ที่มีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยฟื้นฟูและซ่อมแซมเซลล์ผิวหนังที่เสื่อมสภาพให้กลับมาดูอ่อนเยาว์สดใส นอกจากนี้ยังช่วยลดผิวแตกลายได้โดยช่วยปรับสภาพให้ผิวให้ชุ่มชื่นในบางครั้งผิวแตกลายนั้นอาจก่อให้เกิดความคัน ซึ่งสามารถบรรเทาอาการได้ด้วยว่านหางจระเข้ที่มีคุณสมบัติลดอาการอักเสบ และยังช่วยให้ผิวดูเรียบเนียนมากขึ้นในเวลาเดียวกัน
คุณสามารถนำว่านหางจระเข้สดมาปลอกเปลือกแล้วใช้น้ำวุ้นทาลงบนผิวโดยตรง คุณสามารถใช้เป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีสารสกัดจากว่างหางจระเข้ทาลงบนบริเวณผิวที่แตกลาย เพื่อผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้นคุณ ควรใช้ครีมบำรุงที่มีส่วนผสมของว่านหางจระเข้ทุกวัน เช่นครีมบำรุงที่ให้ความชุ่มชื่นผสมสารสกัดจากว่านหางจระเข้บริสุทธิ์และมีส่วนผสมของกลีเซอรีนที่มีประสิทธิภาพในการฟื้นฟูผิวได้อย่างล้ำลึก ช่วยลดอาการแห้งแตกของผิวได้
รับประทานอาหารที่อุดมด้วยวิตามินที่ดีต่อสุขภาพผิว
รับประทานอาหารที่อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่สามารถช่วยปกป้องและบำรุงผิว เช่น ผักและผลไม้สด รวมถึงอาหารที่มีวิตามินอีและวิตามินเอ วิตามินอีนั้นมีคุณสมบัติในการปกป้องเยื่อหุ้มเซลล์ผิวซึ่งหาได้จาก ถั่ว หรืออโวคาโดส่วนวิตามินเอนั้นมีประโยชน์ในการซ่อมเเซมเนื้อเยื่อใต้ชั้นผิว
ควบคุมน้ำหนัก
การที่มีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วนั้นจะทำให้ผิวหนังเกิดการขยายตัวจนเป็นเหตุให้ผิวแตกลายได้ คุณควรควบคุมน้ำหนักโดยการรับประทานอาหารในปริมาณที่เหมาะสม และหลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง นอกจากนี้คุณควรออกกำลังกายเป็นประจำเพื่อรักษาระดับน้ำหนักให้คงที่อยู่เสมอ
Sunday, September 8, 2019
ผิวแพ้ง่ายมีสัญญานเตือนอย่างไร?
สัญญาณของผิวแพ้ง่าย
หลายคนที่ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าบางชนิดแล้วเกิดอาการระคายเคืองมักเข้าใจว่าตนเองมีผิวแพ้ง่าย แต่ในความเป็นจริงอาจเกิดจากการแพ้ส่วนประกอบตัวใดตัวหนึ่งเพียงตัวในผลิตภัณฑ์นั้น ๆ รวมถึงการใช้ผลิตภัณฑ์ในปริมาณที่มากเกินไปก็อาจทำให้เกิดการระคายเคืองได้ โดยวิธีสังเกตว่าตนเองมีผิวแพ้ง่ายหรือไม่ ทำได้ดังนี้ผิวแดงง่าย อาการนี้มักเกิดขึ้นทันทีหลังสัมผัสสิ่งกระตุ้น เช่น การใช้โฟมล้างหน้า หรือการปะทะลมแรง แม้ดูเหมือนเป็นเรื่องปกติ แต่อาจเป็นอาการของผิวแพ้ง่ายจากผื่นผิวหนังอักเสบชนิดโรซาเซีย (Rosacea) ซึ่งเป็นภาวะที่หลอดเลือดฝอยบริเวณใบหน้าแตก ร่วมกับมีตุ่มเล็ก ๆ ขึ้นตามคาง แก้ม และจมูก
ผิวหลุดลอกเป็นขุย อาการนี้มักเกิดกับผิวที่ขาดความชุ่มชื้น ซึ่งอาจมีสาเหตุมาจากการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารเร่งการผลัดเซลล์ผิว เช่น กรดไกลโคลิก เรตินอยด์ AHA หรือ BHA ในปริมาณมากเป็นเวลานาน
แสบผิว ผิวพุพองง่าย ผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายนั้นมีเกราะป้องกันผิวที่อ่อนแอและบอบบางกว่าคนทั่วไป อาจทำให้ผิวไวต่อส่วนประกอบ ซึ่งอาจเกิดการระคายเคืองตามมาหลังใช้การผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เช่น เครื่องสำอาง สารทำความสะอาด ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว เป็นต้น บาคาร่า
อาการคันจากผิวแห้ง ผิวที่บอบบางไม่เพียงแต่ทำให้ง่ายต่อการระคายเคืองแล้ว แต่ยังอาจส่งผลให้ผิวกักเก็บความชุ่มชื้นได้น้อยลง ทำให้ผิวแห้งกร้านและอาการคันผิวหนังตามมา
Saturday, September 7, 2019
ปัญหาผิวแตกลายวิธีรักษารอยแตกลายบนผิว
ผิวแตกลายนั้นจะเกิดขึ้นได้อย่างไร
ผิวแตกลายนั้นมักจะเกิดขึ้นที่ผิวหนังแท้ (ผิวหนังชั้นกลาง) ที่มีการยืดขยายมากเกินไป ทำให้เกิดการฉีกขาดของหนังแท้ ส่งผลให้เกิดผิวแตกลายบนผิวชั้นนอก บาคาร่าการยืดขยายของผิวหนังที่มากจนเกินไปมักเกิดขึ้นกับผู้ที่มีน้ำหนักมากขึ้นและลดลงอย่างรวดเร็วเช่น หญิงมีครรภ์ และคนที่กำลังลดความอ้วน ทั้งนี้ยังสามารถเกิดขึ้นได้จากความแปรปรวนของฮอร์โมนในวัยรุ่น รวมไปถึงการยกของที่มีน้ำหนักมาก หรือคนที่รับประทานยาในกลุ่มสเตียรอยด์มาเป็นเวลานาน ซึ่งสาเหตุเหล่านี้เป็นการทำลายคอลลาเจนและความยืดหยุ่นภายใต้ชั้นผิว ก่อให้เกิดรอยแตกตามผิวหนังในที่สุด
ถึงแม้การรักษาผิวแตกลายตามต้นขา ทรวงอก ท้องแขน หน้าท้อง บั้นท้าย และสะโพกให้หายสนิทจะเป็นไปได้ยาก แต่หากได้รับการรักษาผิวแตกลายที่ถูกวิธี ผิวของคุณก็มีโอกาสกลับมาเนียนสวยได้
วิธีรักษารอยแตกลายบนผิว
ขัดผิวการขัดผิวจะช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดออกแล้วผลิตเซลล์ใหม่ขึ้นมาทดแทน ซึ่งเป็นการช่วยเสริมสร้างกระบวนการยืดหยุ่นของผิว ช่วยให้ผิวดูอ่อนเยาว์ การขัดผิวนั้นควรขัดวนไปมาเบาๆ โดยเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ขัดผิวที่มีความอ่อนโยน นอกจากนี้คุณควรบำรุงผิวด้วยครีมบำรุงเพื่อป้องกันไม่ให้ผิวแห้งคุณสามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการขัดผิวได้ที่นี่
เพิ่มความชุ่มชื่นให้กับผิว
หมั่นบำรุงผิวไม่ให้แห้งกร้านผิวที่เสียควรได้รับความชุ่มชื่นเพื่อช่วยให้สภาพผิวดีขึ้น ช่วยให้ผิวแตกลายเรีหลังการอาบน้ำ คุณควรทาครีมบำรุงผิวอย่าง วาสลีน ปิโตรเลี่ยม เจลลี่ โดยการทาแบบวนเป็นวงกลม วาสลีน ปิโตรเลี่ยม เจลลี่สามารถกักเก็บความชุ่มชื่นและช่วยซ่อมเเซมผิวที่แห้งกร้าน รวมถึงการเร่งกระบวนการรักษาผิวตามธรรมชาติให้มีประสิทธิภาพขึ้น
ว่านหางจระเข้สามารถช่วยลดผิวเเตกลายได้ เนื่องจากว่านหางจระเข้นั้นอุดมไปด้วยวิตามินที่ดีต่อผิว ไม่ว่าจะเป็นวิตามินอี ที่มีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยฟื้นฟูและซ่อมแซมเซลล์ผิวหนังที่เสื่อมสภาพให้กลับมาดูอ่อนเยาว์สดใส นอกจากนี้ยังช่วยลดผิวแตกลายได้โดยช่วยปรับสภาพให้ผิวให้ชุ่มชื่นในบางครั้งผิวแตกลายนั้นอาจก่อให้เกิดความคัน ซึ่งสามารถบรรเทาอาการได้ด้วยว่านหางจระเข้ที่มีคุณสมบัติลดอาการอักเสบ และยังช่วยให้ผิวดูเรียบเนียนมากขึ้นในเวลาเดียวกัน
คุณสามารถนำว่านหางจระเข้สดมาปลอกเปลือกแล้วใช้น้ำวุ้นทาลงบนผิวโดยตรง คุณสามารถใช้เป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีสารสกัดจากว่างหางจระเข้ทาลงบนบริเวณผิวที่แตกลาย เพื่อผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้นคุณ ควรใช้ครีมบำรุงที่มีส่วนผสมของว่านหางจระเข้ทุกวัน เช่นครีมบำรุงที่ให้ความชุ่มชื่นผสมสารสกัดจากว่านหางจระเข้บริสุทธิ์และมีส่วนผสมของกลีเซอรีนที่มีประสิทธิภาพในการฟื้นฟูผิวได้อย่างล้ำลึก ช่วยลดอาการแห้งแตกของผิวได้
รับประทานอาหารที่อุดมด้วยวิตามินที่ดีต่อสุขภาพผิว
รับประทานอาหารที่อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่สามารถช่วยปกป้องและบำรุงผิว เช่น ผักและผลไม้สด รวมถึงอาหารที่มีวิตามินอีและวิตามินเอ วิตามินอีนั้นมีคุณสมบัติในการปกป้องเยื่อหุ้มเซลล์ผิวซึ่งหาได้จาก ถั่ว หรืออโวคาโดส่วนวิตามินเอนั้นมีประโยชน์ในการซ่อมเเซมเนื้อเยื่อใต้ชั้นผิว
ควบคุมน้ำหนัก
การที่มีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วนั้นจะทำให้ผิวหนังเกิดการขยายตัวจนเป็นเหตุให้ผิวแตกลายได้ คุณควรควบคุมน้ำหนักโดยการรับประทานอาหารในปริมาณที่เหมาะสม และหลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง นอกจากนี้คุณควรออกกำลังกายเป็นประจำเพื่อรักษาระดับน้ำหนักให้คงที่อยู่เสมอ
Friday, September 6, 2019
สูตรรักษาฝ้าด้วยมะนาว เผยผิวใส ห่างไกลฝ้า
สูตรแสนจะง่ายปราบฝ้าด้วย น้ำมะนาว
สูตรนี้เป็นสูตรที่ทำง่ายมาก ๆ เพียงคั้นน้ำมะนาว แล้วนำไปทาบริเวณที่เป็นฝ้า ทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที แล้วล้างออกให้สะอาด สามารถทำได้เป็นประจำทุกวัน ต่อเนื่องเป็นเวลา 1 เดือนหรือมากกว่านั้น แม้ขณะทำสาว ๆ อาจรู้สึกแสบ ๆ คัน ๆ บ้าง แต่เชื่อเลยว่าผลลัพธ์ออกมาดีแน่นอน นั่นก็เพราะว่ากรดวิตามินซีจากน้ำมะนาวจะไปช่วยกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิว ช่วยให้ผิวหน้ากระจ่างใส ลดเลือนฝ้าและริ้วรอยจากสิวได้เป็นอย่างดีนั่นเองค่ะ บาคาร่าThursday, September 5, 2019
เคล็ดลับผิวสวยของสาวสมาชิกpantip
"เคล็ดลับจริงๆของมลนะคะ ได้ผลและปลอดภัย ราคาประหยัดค่าาา "
1.เวลาล้างหน้า จะล้างหน้าด้วยเจล หรือสบู่เหลวสูตรผิวบอบบางและแพ้ง่ายของสมูทอีค่ะ สะอาดและไม่แพ้ค่ะ ใช้ดีจริงอะไรจริงค่ะ
2.ไม่ค่อยใช้โทนเนอร์นะคะ ส่วนใหญ่จะมีแอลกอฮอล์ แสบๆจมูกค่ะ บาคาร่า
3.คลีนซิ่งจะไม่ค่อยใช้ค่ะเพราะจะไม่ค่อยแต่งหน้าค่ะ ถ้าแต่งบ้างเวลามีงานก้จะใช้คลีนซิ่งแบบน้ำนมเช็ดๆค่ะ
4.วันไหนที่เจอแดดมาอย่างหนัก อย่าเพิ่งโปะครีมนะคะ ตอนล้างหน้าให้หานมมาพอกไว้นะคะ นมกล่องแบบธรรมชาตินะคะ ทนกลิ่นคาวๆนิดนึง
ช่วยให้หน้าไม่ลอกค่ะ แถมใสขึ้นอีกด้วย ทำบ่อยๆยิ่งดีค่ะ
5.เวลาจะมาร์กหน้า มลจะใช้โยเกิร์ตรสธรรมชาตินะคะ ผสมกับน้ำมะนาว และน้ำผึ้งสักหน่อยค่ะ บางครั้งก็ผสมผงหอมศรีจันทร์ลงไปด้วย พอกทิ้งไว้ 20 - 30 นาทีแล้วล้างออกให้สะอาด โยเกิร์ตช่วยหน้าใส เต่งตึง มะนาวช่วยผลัดเซลล์ผิวออกให้ผิวใสขึ้นค่ะ น้ำผึ้งช่วยให้หน้าชุ่มชื้นไม่ระคายเคืองจ้า มลใช้อาทิตย์ละ 2 ครั้งจ้า ประหยัดจริงๆค่ะ
6.ใครอยากอบไอน้ำหน้าบ้างคะ มลเป็นแค่นักศึกษา จนๆคนหนึ่ง ก็เอาหม้อหุงข้าวเนี่ยแหละค่ะ เสียบปลี๊กให้น้ำเดือด แล้วเอาหน้าจ่อไปรับไอน้ำค่ะ ทิ้งไว้สักพักค่ะ ความร้อนช่วยให้รูขุมขนเปิดค่ะ และไอน้ำจะช่วยดันสิ่งสกปรกออกไปค่ะ และที่สำคัญ เมื่อผิวเรากำลังร้อนๆอยู่ ห้ามๆๆๆๆๆล้างหน้าต่อด้วยน้ำเย็นนะคะ เพราะจะทำให้ผิวเสียได้ค่ะ ช่วยได้ดีทีเดียว หน้าใสขึ้นค่ะ
7.ก่อนนอนไม่ต้องอะไรมากค่ะ ทาแค่มอยเจอร์ไรเซอร์พอค่ะ หรือจะใช้ครีมที่เรามีอยู่ตามปกติค่ะ แค่เลือกให้เหมาะกับผิวเราและปลอดภัยก้เพียงพอค่ะ
8.ก่อนนอนหรือเช้าตอนท้องว่างอย่าลืมบำรุงตัวเองด้วยวิตามินบ้างนะคะ มลจะกินวิตามินซี+ซิงค์ ของวิตร้าค่ะ ราคาไม่แพง คุณภาพก็เทียบเท่าของแพงนั่นแหละค่ะ
9.อย่าลืมทานคอลลาเจนบ้างนะคะ ช่วยได้จริงๆ
10.สิ่งสำคัญอย่าลืมทานผักและผลไม้เยอะๆนะคะ เลี่ยงเนื้อได้เลี่ยงไปนะคะ ไม่ต้องหยุดทานแต่งดบ้างเป็นบางวันนะคะ หันทานปลากันดีกว่า
11.ถ้าใครที่หาผักผลไม้ทานไม่สะดวก หันมาดื่มน้ำผักผลไม้กันนะคะ อย่าลืมดูฉลากโภชนากันนะคะ หาที่มีวิตามินเยอะๆ อย่างน้ำบีทรูท น้ำผักผลไม้รวม มีไฟเบอร์เยอะค่ะ มลชอบกินน้ำผักผลไม้ค่ะ น้ำมะเขือเทศก้จะมีติดตู้เย็นค่ะ อร่อยๆแถมผิวใสด้วยนะคะ ไม่จำเป็นต้องกินอาหารเสริมเยอะๆเลย ไม่ตกค้างด้วย สวยประหยัดแถมสุขภาพดีค่ะ
12.หาเวลาออกกำลังกายบ้างนะคะ หอที่มลอยู่จะมีฟิตเนตค่ะ ชั่วโมงละ 20 บาท มลจะไม่ค่อยเข้าไปใช้ค่ะ เปลืองเงินค่ะ แต่จะเปิดเพลงเต้นๆที่ห้องดีกว่าค่ะ ปิดพัดลมปิดแอร์ให้หมด แล้วเต้นๆให้เหงื่อออก แค่นี้ก็เผาผลาญแคลลอรี่ไปได้เยอะแล้วค่ะ แถมโลหิตก้หมุนเวียนดีค่ะ หน้าใสบริ๊งๆค่ะ หลังจากเต้นเสร็จจะไม่กินอะไรต่อนะคะ แต่จะกินน้ำผลไม้ก่อนนอนแทนค่ะ ตื่นเช้ามาขับถ่ายดีค่ะ ไม่ต้องไปดีท็อกอะไรให้วุ่นวาย
13.ช่วงเช้าก่อนออกแดด อย่าลืมใช้กันแดดนะคะ มลใช้อย่างน้อย SPF 60 จ้า เลือกที่ถูกกับผิวเรานะคะ ถ้าผิวแพ้ง่ายอย่าใช้ที่มีแอลกอออล์นะคะ ลองไปเลือกดูตามร้านขายยาได้เลยจ้า
14.พยายามพักผ่อนให้เพียงพอนะคะ สำคัญค่ะ
15.บำรุงปากกันค่า ไม่ต้องไปซื้อที่มาร์กปากชมพุหรอกค่ะ ปากจะบางเปล่าๆ แล้วจะไวต่อแดด ก่อนนอนใช้วาสลีนนี่แหละค่ะ ทามันเข้าไปให้มันเยิ้มไปเลยค่ะ พอเช้าก็ทาวาสลีนบางๆนะคะ แล้วตามด้วยลิปกันแดดจ้า แค่นี้ปากก็ไม่แห้ง ไม่ลอก ไม่ดำแล้วจ้า หมั่นทาลิปกันแดดบ่อยๆนะคะ
16.ผิวกายนะคะ ใช้โลชั่นที่ให้ความชุ่มชื้นนะคะ ออกแดดทากันแดดทุกครั้งค่ะ มลจะใช้ตลอดค่ะ อย่าขี้เกียจนะคะ ใส่เสื้อแขนยาวกางร่มบ้างนะคะ ถ้าเดินในที่แดดแรง
17.ขัดผิวบ้างค่ะ ให้ผิวผลัดเซลล์ที่ตายแล้วออกบ้าง ลองใช้วิธีมลดูนะคะ ใช้มะขามเปียกค่ะ เอาเม็ดออกนะคะ ผสมกับนมสดจ้า หรือจะเติมน้ำผึ้งสักนิดหน่อยก้ได้จ้า แล้วพอกทิ้งไว้สัก 10-15 นาทีนะคะ มันจะคันๆยิบๆหน่อยๆนะคะ ในมะขามเปียกจะมีเอเอชเอนะคะ พอกเสร็จล้างให้สะอาดนะคะ แล้วทาโลชั่นบำรุง และตามด้วยกันแดดนะคะ ห้ามลืมๆๆๆ ***กันแดดนะคะ
18.บางคนขนแขนเยอะหน่อย เลยกลัดสีซะเลย แต่ๆๆๆรู้อะไรมั๊ยคะ มันทำให้ผิวเราบางนะคะ ไวต่อแดดมากๆค่ะ ถ้าทำแล้วก็อย่าลืมทากันแดดบ่อยๆนะคะเวลาออกแดด
19.ดื่มน้ำเยอะๆค่ะ ช่วยได้เหมือนกัน
*******เยอะไปหน่อยนะคะ อาจจะยังไม่หมด เพราะพิมพ์สดๆ เผื่อบางอย่างลืมค่ะ แต่มลทำแบบนี้จริงๆค่ะ ลองทำดูนะคะ ผิวสวยใส สิวไม่มาเยือน ไม่ต้องไปกินอาหารเสริมให้วุ่นวาย เสียเงินมากมาย แถมยังสะสมในร่างกายอีก ถ้าทำได้หมดนี่รับรองวิ๊งๆค่ะ ******
ขอบคุณแหล่งที่มา https://pantip.com/topic/30972865
Wednesday, September 4, 2019
หน้าใสไกลสิวด้วยสูตรมาสก์หน้า น้ำมะนาว โยเกิร์ต
สูตรมาสก์หน้า น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ + โยเกิร์ต 2 ช้อนโต๊ะ
มะนาวจะช่วยลดความมันบนผิวหน้า ส่วนโยเกิร์ตจะเป็นตัวช่วยในการทำความสะอาดสิ่งสกปรกบนผิวหน้า บาคาร่าวิธีทำ ใส่โยเกิร์ต 2 ช้อนโต๊ะ ลงในถ้วย ตามด้วยน้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ ผสมให้เข้ากันและทาลงบนผิวหน้า ทิ้งไว้ 5 – 10นาที ล้างออกด้วยน้ำอุ่น และทามอยเจอร์ไรเซอร์แบบปราศจากน้ำมัน หลังทำยังไม่ควรปล่อยให้ผิวหน้าโดนแดดในทันที เนื่องจากมะนาวทำให้ผิวมีความเซนซิทีฟ
แนะนำให้ทำเพียงอาทิตย์ละครั้ง รับรองว่านอกจากความมันบนผิวจะลดลงแล้ว ผิวหน้ายังจะเนียนและกระจ่างใสขึ้นอีกด้วย
Monday, September 2, 2019
วิธีแก้ปากดำที่ใช้แล้วได้ผล
อยากปากชมพูต้องอ่าน หมดปัญหาปากดำ
1. เลิกใช้ลิปสติกราคาถูกที่ไม่ได้คุณภาพได้แล้ว! บาคาร่าหลายคนอาจจะเพิกเฉยและไม่ได้สนใจอะไรมากนัก แต่จะบอกให้ว่าลิปสติกที่ไม่ได้มาตรฐานนี่แหละค่า ตัวการในการทำให้ปากดำเลย เพราะบางทีสีที่เค้าผสมมาในลิปสติกที่คุณมองว่าสีแน่น กลบสีปากดีเว่อร์ ๆ อาจจะมีสารบางอย่างที่จะมากัดให้ริมฝีปากของเรานั้นกลายเป็นสีดำคล้ำได้ ดังนั้น หันมาใช้ลิปสติกที่ได้คุณภาพจะดีกว่า ปากจะได้ไม่ต้องดำอีกต่อไปค่ะ
2. เลิกเลียริมฝีปาก ถ้าปากแห้งให้ทาลิปมันซะ
ใครที่มีพฤติกรรมติดการเลียริมฝีปากจนเป็นนิสัย ขอให้เลิกค่ะ! ถ้าปากแห้ง ปากแตก ต้องหาลิปมันมาทานะคะ เพราะน้ำลายที่ไปโดนปากเรานั้นไม่ได้ช่วยให้ปากชุ่มชื่นหรือแตกน้อยลงอย่างใด แต่กลับทำให้ริมฝีปากดำขึ้นแบบง่ายๆ อีกด้วยนะ ดังนั้น เลิกค่ะ แล้วสีปากจะดีขึ้นเอง
3. สครับริมฝีปากอาทิตย์ละ 1 - 2 ครั้ง
วิธีนี้ช่วยได้และเห็นผลจริง ๆ ค่ะ ลองไปหาซื้อสครับริมฝีปากมาใช้กันดู หาซื้อได้ง่ายๆ ทั่วไปมากมายหลายยี่ห้อ หรือใครที่อยากจะลองทำเอง ก็ทำได้ง่ายๆ เพียงแค่ผสม "น้ำตาล + น้ำผึ้ง + วาสลีน" เข้าด้วยกันและนำมาสครับริมฝีปากไปเรื่อย ๆ ทิ้งไว้ประมาณ 5-10 นาที จากนั้นให้เช็ดออก แค่นี้ปากก็นุ่มชุ่มชื้น และจะดูชมพูขึ้นได้ง่าย ๆ หมั่นทำอาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง รับรองว่าดี
4. ใช้แปรงสีฟันช่วยขัดทุกครั้งหลังแปรงฟัน
หลังจากแปรงฟันเสร็จแล้วทุกครั้ง อย่าลืมที่จะนำแปรงสีฟันมาถูเบา ๆ ไปมารอบ ๆ ริมฝีปาก เพื่อช่วยขจัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพของริมฝีปากให้ออกไป จากนั้นผิวก็จะสร้างใหม่และดูใส อมชมพูขึ้น ปากก็จะหายคล้ำได้แน่นอน วิธีนี้ใครหลายคนยืนยันมาว่าเห็นผลจริงในระยะเวลาไม่ถึงเดือน ไม่เชื่อต้องลองดูค่ะ ยาสีฟันที่ใช้ก็เป็นตัวที่เราแปรงฟันเลยนั่นล่ะ ทำเสร็จอย่าลืมทาลิปมันทุก ๆ ครั้งด้วยนะคะ เดี๋ยวริมฝีปากจะไม่ชุ่มชื้น
5. ผลไม้รสเปรี้ยวก็ทำให้ปากคล้ำได้นะ
สาว ๆ รู้ไหมคะว่าผลไม้บางชนิดที่มียางอาจทำให้เกิดอาการระคายเคืองที่ริมฝีปาก ไม่ว่าจะเป็นผลไม้รสเปรี้ยวอย่างส้ม สับปะรด มะม่วง หรือผักบางอย่าง เช่น ขึ้นฉ่าย ผักชี หอม กระเทียม และขิง เค้ามีสารที่ชื่อว่า โซราเลน (Psoralen) พอสัมผัสกับรังสี UV จะก่อปฏิกิริยาเคมีทำให้ผิวหนังอักเสบและกระตุ้นให้เซลล์สร้างเม็ดสีออกมามากจนริมฝีปากดำคล้ำได้ค่ะ ทางที่ดีหลังทานเสร็จควรล้างริมฝีปากทันทีค่ะ
6. ดื่มน้ำเยอะ ๆ วันละ 8 - 10 แก้วไปเลย!
การดื่มน้ำน้อยเกินไปนี่แหละ จะทำให้ปากเราคล้ำดูแห้งเป็นขุยไม่น่ามอง เพราะน้ำช่วยรักษาความชุ่มชื้นให้ผิวรวมถึงริมฝีปากด้วย โดยบริเวณริมฝีปากที่สูญเสียความชุ่มชื้นได้ง่ายมากกว่าบริเวณอื่น พอเราดื่มน้ำน้อยปากก็จะแห้งมาก จากนั้นเราก็จะเผลอใช้ลิ้นเลียปาก เป็นผลทำให้ปากเราคล้ำลงไปอีกค่ะ
7. ทานอาหารที่มีวิตามิน B เยอะ ๆ
ข้อนี้บอกเลยว่านอกจากจะได้ปากไม่คล้ำแล้ว สุขภาพยังดีอีกด้วยค่ะ เพราะการรับประทานอาหารที่มีวิตามิน B จะมีสารสำคัญต่อผิวหนังและเยื่อบุต่างๆ มีอยู่ตามข้าวกล้อง ตับ ผักใบเขียว เมล็ดอัลมอนด์ ถั่วลิสง หรือ มะม่วงหิมพานต์ ซึ่งแต่ละอย่างหาทานไม่ยากเลยค่ะ อ่านต่อได้ที่
Sunday, September 1, 2019
ผิวดำแดดทำอย่างไรดี?
วิธีฟื้นฟูสภาพผิว ให้ขาวเร็วขึ้น
ตอนเล่นน้ำสงกรานต์มันก็สนุกจริงอยู่หรอก แต่พอกลับมาบ้านเท่านั้นแหละ หันมาดูผิวที่หน้าที่ตัวแล้ว หมดสนุกกันเลยทีเดียว จริงไหม? นี่ขนาดโบ๊ะด้วยครีมกันแดดขั้นเทพหลายชั้นแล้วก็ตาม ยิ่งเป็นสาวๆ วัยรุ่น ด้วยแล้วเรื่องผิวพรรณ ส่วนใหญ่ก็อยากจะมีผิวที่ขาวใสเกาหลี กันทั้งนั้นจริงไหม? วันนี้เราเลยมีวิธีฟื้นฟูสภาพผิว ให้ขาวเร็วขึ้นมาฝากกันค่ะ ไม่ยากเลย ไปทำกันเลยดีกว่า บาคาร่าเลิกซ้ำเติมผิวที่คล้ำเสีย โดยการไปตากแดดแรงๆ อีก จึงควรที่จะใส่เสื้อคลุม หรือเสื้อแขนยาวออกไปไหนมาไหนในเวลากลางวัน และพกร่มกันยูวี เพื่อ ผิวขาว
กว่าจะกลับมาผิวขาวเหมือนเดิมได้ ควรใช้ครีมกันแดด บนใบหน้า และแขน ลำคอ เป็นประจำทุกวัน ก่อนออกจากบ้าน หรือเป็นประจำทุกเช้า
เทคนิคให้ ผิวขาว ไวขึ้น ก็ควรบำรุงด้วยครีม ที่มีส่วนผสมของวิตามินอี และโลชั่นที่ช่วยเรื่องผิวคล้ำเสีย ช่วยในการบำรุงผิวให้มีความชุ่มชื้นกระจ่างใสขึ้น
งดการขัดผิวในช่วง 2 อาทิตย์แรกหลังจากการโดนแดดจนดำคล้ำ เพราะช่วงนี้ผิวโดนทำลายจึงไม่ต้องการซ้ำเติมอย่างรุนแรงจากการขัดผิว จึงควรอาบน้ำให้สะอาด โดยใช้ฟองน้ำลูบไล้เบาๆ ในการทำความสะอาดผิวกาย หลังจาก 2 อาทิตย์ให้ใช้การพอกผิว หรือการขัดผิวที่ไม่รุนแรงได้ เพื่อนำเซลล์ส่วนที่ตายแล้วให้หลุดลอกออก
แช่น้ำนม ง่ายๆ ที่บ้าน โดยการซื้อนมสดพลาสเจอร์ไลท์ สัก 5-10 กล่อง ผสมกับน้ำ (ในอ่างอาบน้ำ ที่บ้าน) ดูแล้วน้ำเป็นสีน้ำนม พอให้นอนแช่ตัวลงไปได้ ใครชอบน้ำอุ่นก็ผสมกับน้ำอุ่น ใครชอบน้ำเย็นๆ ก็ใส่น้ำแข็งลงไปด้วย หรือจะเป็นน้ำปกติก็ได้ โดยแช่สัก 20-30 นาทีขึ้นไป แล้วแต่ใครมีเวลามากน้อย โดยไม่ต้องล้างออก สามารถเช็ดตัวได้เลย
ว่านหางจระเข้ ปอกเปลือก (ล้างยางออก) ทาบริเวณผิวที่คล้ำเสีย สามารถใช้ได้ทั้งใบหน้า ลำคอ และแขน ทาทิ้งไว้ 20 นาที แล้วล้างออกให้สะอาด จะช่วยให้ผิวชุ่มชื่น และช่วยบำรุง ลดการคล้ำเสียของผิว ทำได้บ่อยๆ
พอกผิวด้วยโยเกิร์ต รสธรรมชาติ ก่อนอาบน้ำ เข้าห้องน้ำ และนำโยเกิร์ตมาพอกหน้า ลำคอ หรือทั่วร่างกาย หากกลัวเปลืองอาจใช้ทาเฉพาะบริเวณผิวที่คล้ำเสีย ทั้งไว้ 20 นาที (ระหว่างที่รอเวลา อาจเอาตะไบเล็บขัดเล็บ, ล้างหน้า แปรงฟัน หรืออ่านหนังสือ) จากนั้นล้างออกด้วยน้ำเปล่าให้สะอาด
Subscribe to:
Comments (Atom)